สามผู้นำอียูถึงเคียฟประกาศหนุนเต็มที่ ยูเครนจี้ตะวันตกส่งอาวุธไฮเทคเร่งด่วน

ผู้นำเยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี เดินทางถึงเคียฟแล้วในวันพฤหัสฯ (16 มิ.ย.) เพื่อแสดงการสนับสนุนยูเครน ซึ่งย้ำข้อเรียกร้องขอให้ตะวันตกส่งอาวุธไฮเทคเร็วขึ้นเพื่อรับมือการโจมตีอย่างแข็งกร้าวและต่อเนื่องของรัสเซีย

ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส กล่าวภายหลังรถไฟที่นั่งมาจากโปแลนด์เข้าสู่สถานีในกรุงเคียฟว่า นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญเพื่อส่งสาส์นแห่งเอกภาพถึงยูเครน

การเยือนของมาครง นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี และนายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากี ของอิตาลี ใช้เวลาดำเนินการนานหลายสัปดาห์ และเกิดขึ้นขณะที่ผู้นำสามชาติสำคัญของสหภาพยุโรป (อียู) เหล่านี้ถูกเคียฟวิจารณ์หนักว่า ให้การสนับสนุนอย่างเฉื่อยชา เทียบกับนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษ ที่เยือนเมืองหลวงของยูเครนตั้งแต่เมื่อกว่า 2 เดือนที่แล้ว

กระนั้น การตัดสินใจของสามผู้นำที่ทรงอิทธิพลที่สุดในอียูในการเดินทางร่วมกันเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนในช่วงเวลาที่สำคัญมาก กล่าวคือหนึ่งวันก่อนที่คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นองค์การบริหารของอียู จะประกาศเกี่ยวกับคำร้องขอเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของยูเครน โดยเป็นที่คาดกันว่า คณะกรรมาธิการฯ จะมอบสถานะผู้สมัครเข้าอียูให้ยูเครน และผู้นำอียูจะให้การรับรองในการประชุมสุดยอดสัปดาห์หน้า

อย่างไรก็ดี ขั้นตอนดำเนินการเพื่อเข้าเป็นสมาชิกเต็มตัวอาจใช้เวลาหลายทศวรรษ

นอกจากนั้น ในวันพฤหัสฯ รัฐมนตรีกลาโหมของชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ยังประชุมกันที่บรัสเซลส์ ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศคำสัญญาจัดหาอาวุธเพิ่มเติมให้เคียฟ

ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อวันพุธ (15) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้คำมั่นมอบความช่วยเหลือทางการทหารครั้งใหม่แก่ยูเครนมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงระบบขีปนาวุธต่อต้านเรือ จรวดสำหรับระบบปืนใหญ่รุ่นใหม่ และกระสุนปืนครก

ผู้นำทั้งสามคนของอียูประกาศสนับสนุนยูเครน โดยดำเนินมาตรการสำคัญเพื่อลดการพึ่งพิงพลังงานจากรัสเซียของยุโรป และจะหารือกันเพื่อจัดหาอาวุธให้เคียฟ

ทว่า ยูเครนวิจารณ์มานานแล้วว่า ชอลซ์ถ่วงเวลาการส่งอาวุธ อีกทั้งลังเลที่จะตัดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับมอสโก

เดือนนี้ยูเครนยังเคืองมาครงที่ให้สัมภาษณ์ว่า รัสเซียต้องไม่ถูกดูหมิ่น ขณะที่อิตาลีเสนอแผนสันติภาพที่เคียฟกลัวว่า อาจบีบให้ตนต้องยอมเฉือนอธิปไตย

ขณะที่สามผู้นำอียูเดินทางถึงเคียฟ บรรดารัฐมนตรีกลาโหมของนาโต้กำลังประชุมกันโดยโฟกัสที่การเพิ่มการสนับสนุนยูเครนเป็นหลัก

รัฐมนตรีกลาโหมเยอรมนีเผยว่า จะส่งเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง 3 ชุดให้เคียฟตามสัญญาในเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคมหลังจากทหารยูเครนได้รับการฝึกให้ใช้อาวุธนี้แล้ว

ทว่า เคียฟย้ำว่า ต้องการอาวุธเพิ่มโดยด่วน โดยเฉพาะปืนใหญ่และจรวดเพื่อตอบโต้รัสเซียที่มีอาวุธเหนือกว่า ทั้งนี้ขณะนี้สนามรบที่ระอุที่สุดคือด้านตะวันออกของยูเครน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองซีวีโรโดเนตสก์ซึ่งเป็นฮับอุตสาหกรรมสำคัญ

เซอร์ฮีย์ ไกได ผู้ว่าการแคว้นลูกันสก์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองซีวีโรโดเนตสก์ กล่าวเมื่อวันพฤหัสฯ ว่า ยังมีพลเรือนติดอยู่ในเมืองนี้ราว 10,000 คน จากจำนวนประชากรก่อนสงครามระเบิด 100,000 คน พร้อมสำทับว่า กองทัพยูเครนยังคงผลักดันข้าศึกถอยร่นมากที่สุดเท่าที่ทำได้

เจ้าหน้าที่เมืองซีวีโรโดเนตสก์สำทับว่า มีพลเรือนอีกหลายร้อยคนติดอยู่ในโรงงานเคมีที่ถูกรัสเซียถล่มต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน ทางด้านประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ตอกย้ำอีกครั้งว่า รัสเซียไม่ได้ถูกโดดเดี่ยวอย่างที่ศัตรูต้องการ ด้วยการหารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 นับจากที่มอสโกเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์

ทั้งนี้ จีนปฏิเสธที่จะประณามการรุกรานของรัสเซีย และถูกกล่าวหาว่า ให้การสนับสนุนทางการทูตแก่มอสโก ด้วยการวิจารณ์มาตรการแซงก์ชันและการที่ตะวันตกขายอาวุธให้ยูเครน

(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)