xs
xsm
sm
md
lg

ยูเครนสูญเสียหนัก! ยอมรับทหารตายวันละเกือบ 200 นาย 3 อาสาสมัครต่างชาติโดนประหารฐานช่วยเคียฟสู้รัสเซีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้ช่วยระดับสูงรายหนึ่งของประธานาธิบดียูเครนให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซี ยอมรับว่ามีทหารยูเครนราว 100 ถึง 200 นายที่ถูกสังหารในแนวหน้าในแต่ละวัน แต่ยืนยันจะคืนสู่โต๊ะเจรจาสันติภาพก็ต่อเมื่อรัสเซียคืนดินแดนทั้งหมดที่ยึดครองนับตั้งแต่เปิดฉากรุกรานในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ขณะเดียวกัน ชาวสหราชอาณาจักร 2 คน และชาวโมร็อกโก 1 คน ถูกศาลในแคว้นโดเนตสก์ สั่งประหารชีวิตเรียบร้อยแล้ว หลังโดนจับระหว่างร่วมสู้รบช่วยยูเครน

มีคาอิโล โพโดลยัค ที่ปรึกษาระดับสูงของประธานาธิบดียูเครน ระบุว่า ยูเครนต้องการระบบปืนใหญ่ของตะวันตกอีกหลายร้อยกระบอก เพื่อให้มีแสนยานุภาพเทียบเท่ากับรัสเซีย ในสมรภูมิภูมิภาคดอนบาส ทางภาคตะวันออกของประเทศ

เสียงเรียกร้องของเขามีขึ้นในขณะที่ทหารยูเครนถูกระดมยิงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่กองกำลังรัสเซียพยายามเข้ายึดครองทั่วทั้งภูมิภาคดอนบาส "กองกำลังรัสเซียโยนแทบทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่ใช่อาวุธนิวเคลียร์ไปที่แนวหน้า และในนั้นรวมถึงปืนใหญ่ ระบบยิงจรวดหลายลำกล้อง และฝูงบิน"

เขาเน้นย้ำคำวิงวอนของยูเครนที่ร้องขออาวุธจากตะวันตกเพิ่มเติม โดยระบุว่าความแตกต่างโดยสิ้นเชิงระหว่างกองทัพรัสเซียและยูเครน คือเหตุผลที่ทำให้ฝ่ายยูเครนมีอัตราความสูญเสียหนัก "การร้องขอปืนใหญ่ของเราไม่ใช่แค่เสียงคร่ำครวญ แต่มันมีความจำเป็นจริงๆ สืบเนื่องจากสถานการณ์ในสนามรบ" เขากล่าว พร้อมระบุว่ายูเครนต้องการระบบยิงจรวดราว 150 ถึง 300 กระบอก เพื่อให้ทัดเทียมรัสเซีย จำนวนที่สูงกว่าที่พวกเขาได้รับจนถึงตอนนี้เป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม โพโดลยัค เน้นย้ำว่าจะคืนสู่การเจรจาสันติภาพก็ต่อเมื่อรัสเซียยอมละทิ้งดินแดนที่พวกเขายึดครองนับตั้งแต่เปิดฉากรุกรานในวันที่ 24 กุมภาพันธ์

โพโดลยัค ยอมรับว่ามีทหารยูเครนเสียชีวิต 100 ถึง 200 นายในแต่ละวัน สูงกว่าที่คาดหมายไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนทางโอเล็กซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหมของยูเครนบอกว่า ยูเครนสูญเสียทหารราวๆ 100 นายต่อวัน และบาดเจ็บมากกว่า 500 นาย

ตัวเลขความสูญเสียที่มีความแตกต่างกันนี้บ่งชี้ให้เห็นว่าเป็นเรื่องยากลำบากมากที่จะได้ข้อมูลอันแม่นยำมาจากสมรภูมิรบ ทั้งนี้แม้สูญเสียหนัก แต่ เรซนิคอฟ อ้างว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับทหารรัสเซียก็อยู่ในระดับสูงเช่นกัน

เซียร์ฮีย์ ไกได ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์ บอกว่าฝ่ายรัสเซียกำลังตายเหมือนฝูงแมลงวัน แต่ก็พูดไปในทิศทางเดียวกับ โพโดลยัค ยอมรับว่ายูเครนกำลังเผชิญกับความยากลำบาก เนื่องจากขาดแคลนปืนใหญ่

กองกำลังรัสเซียมุ่งเน้นการโจมตีไปที่เมืองซีวีโรโดเนตสก์ และในวันพุธ (8 มิ.ย.) ประธานาธิบดีเซเลนสกี ระบุว่า ชะตากรรมของภูมิภาคดอนบาสจะตัดสินที่เมืองแห่งนี้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่เผยว่าเวลานี้ซีวีโรโดเนตสก์เหลือแต่ซากหักพัง หลังถูกรัสเซียยิงปืนใหญ่และขีปนาวุธโจมตีอย่างหนัก

ขณะเดียวกัน มีข่าวว่าชาวสหราชอาณาจักร 2 คน และโมร็อกโก 1 คน ที่โดนจับขณะช่วยยูเครนสู้รบ ถูกพิพากษาประหารชีวิตโดยศาลแห่งหนึ่งในดินแดนที่อ้างตนเองว่าเป็นสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ หนึ่งใน 2 แคว้นแบ่งแยกดินแดนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน ตามรายงานของสื่อมวลชนรัสเซีย

สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์รายงานระบุ ศาลพบว่าชายทั้ง 3 ประกอบด้วย ไอเดน แอสลิน และชอน พินเนอร์ อาสาสมัครนักรบชาวสหราชอาณาจักร และบราฮิม ซาดูน จากโมร็อกโก มีความผิดฐานเป็นทหารรับจ้างและดำเนินการต่างๆ ที่มีเป้าหมายยึดอำนาจและโค่นระเบียบรัฐธรรมนูญของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์

ชายทั้ง 3 คน ถูกจับกุมระหว่างร่วมรบช่วยยูเครนสู้กับรัสเซียและกองกำลังที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย หลังมอสโกเปิดฉากรุกรานในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ทั้งนี้ทนายความของพวกเขาเปิดเผยว่าจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว

สหราชอาณาจักรประณามคำตัดสินของศาลว่าเป็นคำพิพากษาที่น่าอดสู "ฉันขอประณามอย่างที่สุดต่อบทลงโทษของไอเดน แอสลิน และชอน พินเนอร์ ที่ถูกควบคุมตัวโดยตัวแทนของรัสเซียในภาคตะวันออกของยูเครน" ลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศระบุในทวิตเตอร์ "พวกเขาเป็นเชลยศึกสงคราม มันเป็นคำพิพากษาที่น่าอดสู ไม่มีความชอบธรรมทางกฎหมายใดๆ เลย"

ด้านโฆษกของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ระบุว่าภายใต้อนุสัญญาเจนีวา พวกเชลยศึกมีสิทธิได้รับการคุ้มกันในฐานะผู้ทำการรบ และไม่ควรถูกดำเนินคดีสำหรับการเข้าร่วมในสงคราม

(ที่มา : บีบีซี/รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น