รัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีกรุงเคียฟในช่วงเช้าวันอาทิตย์ (5 มิ.ย.) ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 เดือน แต่เจ้าหน้าที่ยูเครนเผยว่าการโจมตีตอบโต้ในสมรภูมิหลักทางภาคตะวันออก สามารถทวงคืนเมืองซีวีโรโดเนตสก์ได้แล้วครึ่งหนึ่ง ในขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ส่งเสียงเตือนสหรัฐฯ อย่าคิดส่งอาวุธพิสัยไกลช่วยยูเครน ไม่เช่นนั้นจะเล็งเป้าเล่นงานเป้าหมายที่ไม่เคยโจมตีมาก่อน
กลุ่มควันสีดำสามารถมองเห็นได้จากระยะไกลหลายกิโลเมตร หลังเหตุโจมตี 2 เขตซึ่งตั้งอยู่บริเวนชานกรุงเคียฟ ยูเครนเผยว่าการโจมตีโดยอู่ซ่อมโบกี้รถไฟแห่งหนึ่ง ส่วนมอสโกระบุว่าพวกเขาทำลายรถถังที่บรรดาประเทศยุโรปตะวันออกส่งไปช่วยเหลือยูเครน
มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 1 รายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แม้เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ในขณะที่การโจมตีฉุดให้เมืองหลวงแห่งนี้หวนคิดถึงสงครามอย่างกะทันหัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้วิถีชีวิตส่วนใหญ่กลับคืนสู่ปกติแล้ว นับตั้งแต่กองกำลังรัสเซียถูกขับไล่พ้นจากแถบชานเมืองในช่วงเดือนมีนาคม
"มอสโกเลือกการโจมตีแอปแฝงรอบใหม่ จรวดที่โจมตีกรุงเคียฟในวันนี้มีเพียงเป้าหมายเดียว คือเข่นฆ่าให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้" มิไคโล โพโดลยัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครนเขียนบนทวิตเตอร์ ในขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดียูเครนเผยว่าประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี เดินทางไปตรวจเยี่ยมทหารในแนวหน้าในแคว้นซาปอริซเซีย ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้
ยูเครนระบุว่ารัสเซียดำเนินการโจมตีโดยใช้ขีปนาวุธยิงจากอากาศพิสัยไกล ยิงจากเครื่องบินทิ้งระเบิดหนัก ไกลสุดจากทะเลแคสเปียน อาวุธที่มีมูลค่ามากกว่าเป้าหมายรถถังที่รัสเซียอ้างว่าต้องการเล็งเป้าโจมตีเป็นอย่างมาก
ผู้บริหารโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ของยูเครน เผยว่าขีปนาวุธร่อนลูกหนึ่งของรัสเซียพุ่งใน "ระดับต่ำอย่างมาก" เฉียดโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ใหญ่สุดอันดับ 2 ของประเทศ
การโจมตีในวันอาทิตย์ (5 มิ.ย.) ถือเป็นการโจมตีครั้งใหญ่เล่นงานกรุงเคียฟครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายน หลังจากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา พบเห็นรัสเซียมุ่งเส้นปฏิบัติการทำลายล้างแนวหน้าทางภาคตะวันออกและภาคใต้ แต่ก็มีบางครั้งที่มอสโกเล็งเป้าถล่มที่อื่นๆ ในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าปฏิบัติการลดศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของยูเครนและสกัดการส่งมอบอาวุธของตะวันตก
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียมุ่งเน้นไปที่ซีวีโรโดเนตสก์ เมืองอุตสาหกรรมเล็กๆ ทางภาคตะวันออก เดินหน้าหนึ่งในสมรภูมิรบใหญ่ที่สุดของสงคราม ในความพยายามยึดครองหนึ่งใน 2 แคว้นทางภาคตะวันออก ซึ่งก็คือลูฮันสก์ และโดเนตสก์ ที่พวกเขากล่าวอ้างในนามของกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่มอสโก
หลังจากต้องเป็นฝ่ายล่าถอยภายในเมืองแห่งนี้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ยูเครนยกระดับโจมตีตอบโต้ ซึ่งสร้างความประหลาดใจแก่กองกำลังรัสเซียเป็นอย่างมาก โดยเวลานี้กองกำลังยูเครนสามารถทวงคืนการควบคุมมาได้แล้วครึ่งหนึ่งและกำลังเดินหน้าผลักดันกองกำลังรัสเซียให้ล่าถอยไปมากกว่านี้ จากการเปิดเผยของ เซอร์ฮีย์ ไกได ผู้ว่าการจังหวัดลูฮันสก์ "พวกเขาพยายามทำลายราบทุกสิ่งทุกอย่าง พวกเขาไม่มีกลยุทธ์อื่นๆ"
รอยเตอร์ไม่สามารถตรวจสอบคำกล่าวอ้างนี้ ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายต่างประสบความสูญเสียใหญ่หลวงในซีวีโรโดเนตสก์
ในอีกสัญญาณที่บ่งชี้ว่ายูเครนสามารถสกัดการรุกคืบของรัสเซีย ทาง ไกได ระบุว่าได้กลับมาดำเนินการอพยพประชาชนออกจากแคว้นลูฮันสก์ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครนบางส่วนในวันอาทิตย์ (5 มิ.ย.) และมี 98 ชีวิตหลบหนีออกมาได้ กองกำลังรัสเซียพยายามมานานหลายสัปดาห์ ในการตัดขาดถนนสายหลักเพื่อปิดล้อมทหารยูเครนที่อยู่ในเมืองแห่งนี้ และปฏิบัติการอพยพเคยหยุดชะงักลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังมีผู้สื่อข่าวคนหนึ่งเสียชีวิตท่ามกลางการยิงปืนใหญ่โจมตี
สื่อมวลชนแห่งรัฐรัสเซียรายงานในวันอาทิตย์ (5 มิ.ย.) ระบุว่า พล.ต.โรมัน คูตูซอฟ ของรัสเซีย ถูกสังหารทางภาคตะวันออกของยูเครน ถือเป็นความสูญเสียทางทหารระดับสูงรายล่าสุดของมอสโก
กระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรเผยในวันอาทิตย์ (5 มิ.ย.) ว่าปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ในซีวีโรโดเนตสก์ ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ดูเหมือนสามารถสกัดปฏิบัติการรุกคืบของทางรัสเซีย โดย มอสโก ใช้พวกนักรบแบ่งแยกดินแดนที่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ไม่พร้อมนักในเมืองแห่งนี้ เพื่อจำกัดความเสี่ยงกับกองกำลังปกติของพวกเขา
ในแคว้นโดเนตสก์ที่อยู่ติดกัน กองกำลังรัสเซียได้รุกคืบในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ในพื้นที่ทางเหนือของแม่น้ำซิเวอร์สกีย์ โดเนตส์ การรุกคืบที่ทางยูเครนคาดหมายว่าอาจเป็นความพยายามยึดครองเมืองสโลเวียนสก์
สหรัฐฯ ระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าพวกเขาจะส่งอาวุธใหม่ ระบบจรวดพิสัยกลางล้ำสมัยแก่ยูเครน ซึ่งเคียฟหวังว่ามันจะช่วยคืนสมดุลในสงคราม อย่างไรก็ตาม ทางวอชิงตันปฏิเสธส่งอาวุธพิสัยไกลและยูเครนสัญญาว่าจะไม่ใช้อาวุธเหล่านั้นโจมตีภายในดินแดนของรัสเซีย
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแห่งรัฐรัสเซีย ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ปฏิเสธผลกระทบของระบบจรวดใหม่ดังกล่าว แม้อีกด้านหนึ่งเขาส่งเสียงเตือนไปยังวอชิงตันว่าอย่าได้ส่งอาวุธพิสัยไกลให้ยูเครน "จรวดที่วอชิงตันสัญญาจะมอบให้จนถึงตอนนี้ ก็พอๆกับอาวุธยุคสมัยโซเวียตที่ยูเครนมีอยู่แล้ว" ปูตินกล่าว
"ไม่มีอะไรใหม่ มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงสาระสำคัญใดๆ" ปูตินกล่าว แต่เขาเตือนว่าหากวอชิงตันส่งมอบอาวุธพิสัยไกลกว่านี้ "เราจะโจมตีเป้าหมายเหล่านั้นที่เราไม่เคยเล่นงานมาก่อน" ผู้นำรัสเซียระบุ พร้อมปฏิเสธผลกระทบของโดรนตะวันตกเช่นกัน โดยบอกว่ารัสเซียขยี้มันแตกราวกับเม็ดถั่ว
(ที่มา : รอยเตอร์)
