xs
xsm
sm
md
lg

เริ่มถูกกดดัน! ยูเครนกร้าวไม่สละดินแดนแลกข้อตกลงสันติภาพ แม้รัสเซียถล่มหนักทางตะวันออกและใต้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยูเครนปฏิเสธข้อตกลงหยุดยิงหรือยอมสละดินแดนใดๆ ให้แก่มอสโก ในขณะที่รัสเซียยกระดับโจมตีหลายพื้นที่ทางภาคตะวันออกและภาคใต้ของประเทศ ทั้งโจมตีทางอากาศ และยิงปืนใหญ่ถล่มภูมิภาคดอนบาสและแคว้นมีโคลาอิฟ

ท่าทีของเคียฟเริ่มไม่ประนีประนอมมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังรัสเซียประสบความล้มเหลวด้านการทหารในหลายสมรภูมิ แต่เริ่มมีความกังวลในบรรดาเจ้าหน้าที่ยูเครนว่าพวกเขาอาจถูกกดดันให้ยอมสละดินแดนแลกกับข้อตกลงสันติภาพ

"สงครามต้องจบด้วยด้วยการฟื้นฟูอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครนอย่างสมบูรณ์" อันดรีย์ เยอร์มัค หัวหน้าคณะทำงานทำเนียบประธานาธิบดียูเครนเขียนบนทวิตเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ (22 พ.ค.)

ประธานาธิบดีอันด์แชย์ ดูดา แห่งโปแลนด์ มอบแรงสนับสนุนของวอร์ซอ โดยบอกว่าบรรดาสมาชิกรัฐสภาในกรุงเคียฟเมื่อวันอาทิตย์ (22 พ.ค.) ว่าประชาคมนานาชาติจำเป็นต้องเรียกร้องให้รัสเซียถอนทหารออกไปโดยสิ้นเชิง และการยอมสละดินแดนใดๆ จะเป็น "ความปราชัยครั้งใหญ่" สำหรับฝ่ายตะวันตกทั้งหมด

"มีสุ้มเสียงที่น่ากังวลปรากฏออกมา บอกว่ายูเครนควรยอมตามข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน" ดูดา กล่าว หลังเขาเป็นผู้นำต่างชาติรายแรกที่ขึ้นกล่าวปราศรัยต่อรัฐสภายูเครน นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ "มีเพียงยูเครนเท่านั้นที่มีสิทธิตัดสินอนาคตของพวกเขาเอง"

ส่วนประธานาธิบดีวลาดิมีร์ โซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวกับที่ประชุมรัฐสภาเดียวกัน ร้องขอนานาชาติกำหนดมาตการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเล่นงานมอสโกหนักหน่วงขึ้น "มาตรการครึ่งๆ กลางๆ ไม่สามารถใช้หยุดการรุกรานได้" เขากล่าว

ไม่นานหลังจากทั้งคู่กล่าวปราศรัยจบ เสียงไซเรนเตือนการจู่โจมทางอากาศดังระงมทั่วเมืองหลวง เตือนความทรงจำว่าสงครามยังปะทุอยู่ แม้เวลานี้แนวหน้าของสมรภูมิรบถอยห่างออกไปจากเมืองหลวงหลายร้อยกิโลเมตรแล้ว

เซเลนสกีบอกระหว่างแถลงข่าวร่วมกับดูดา ว่ามีชาวยูเครน 50 ถึง 100 คนเสียชีวิตในทุกๆ วัน ในแนวหน้าทางภาคตะวันออกของสงคราม ซึ่งดูเหมือนเป็นการพาดพิงถึงความสูญเสียด้านการทหาร

รัสเซียกำลังโจมตีครั้งใหญ่ในแคว้นลูฮานสก์ หนึ่งใน 2 แคว้นของภูมิภาคดอนบาส หลังสามารถยึดครองมาริอูโปล เมืองท่ายุทธศาสตร์ทางภาคใต้ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด หลังถูกนักรบยูเครนชุดสุดท้ายต้านทานไว้นานหลายสัปดาห์

วาดีม เดนีเซนโก ที่ปรึกษากระทรวงมหาดไทยให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ยูเครนเมื่อวันอาทิตย์ (22 พ.ค.) ว่า เวลานี้การสู้รบหนักหน่วงที่สุดอยู่ที่ 2 เมือง ได้แก่ เซเวโรโดเนตสก์และลีซีชานสก์ ในขณะที่รัสเซียพยายามยึดครองเมืองต่างๆ ทางภาคตะวันออกของยูเครนมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายน หลังจากล้มเหลวกรุงเคียฟ และเบนเป้ามามุ่งเน้นทางตะวันออกและภาคใต้ของประเทศ

เซอร์กีย์ เกเดย์ ผู้ว่าการแคว้นลูฮานสก์ ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นว่ารัสเซียกำลังใช้กลยุทธ์ "ทำลายทุกสิ่งที่อาจเป็นประโยชน์แก่ข้าศึก (scorched-earth) ในภูมิภาคแถบนี้ "พวกเขากำลังกวาดล้างเซเวโรโดเนตสก์ไปจากพื้นผิวโลก"

ถ้อยแถลงของกองทัพยูเครนระบุว่า รัสเซียยังคงยิงปืนใหญ่และสู้รบอย่างหนักใกล้ๆ เซเวโรโดเนตสก์ แต่กองกำลังผู้รุกรานล้มเหลวไม่สามารถยึดครองหมู่บ้านโอเลกซานดริฟกา ในละแวกใกล้เคียง

กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุในวันอาทิตย์ (22 พ.ค.) ว่ากองกำลังของพวกเขาโจมตีกองบัญชาการต่างๆ ทหารและคลังกระสุนของยูเครน ในภูมิภาคดอนบาส และแคว้นมีโคลาอีฟ ทางภาคใต้ ด้วยปฏิบัติการโจมตีทางอากาศและปืนใหญ่

นายกเทศมนตรีมีโคลาอีฟ บอกว่าในช่วงเย็นวันอาทิตย์ (22 พ.ค.) ได้ยินเสียงระเบิดหลายครั้งดังทั่วเมือง อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์ไม่ยืนยันคำกล่าวอ้างดังกล่าว

พวกกบฏแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียให้การสนับสนุน ได้ควบคุมพื้นที่บางส่วนของแคว้นลูฮันสก์และโดเนสตก์อยู่ก่อนแล้ว ตั้งแต่ก่อนหน้าการรุกรานของยูเครน แต่มอสโกต้องการยึดดินแดนทั้งหมดที่เหลือที่อยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครนในภูมิภาคแห่งนี้

อย่างไรก็ตาม มีโคไล โพโดลยัค ที่ปรึกษาของเซเลนสกี และหัวหน้าคณะผู้แทนเจรจา ประกาศกร้าวว่าจะไม่ยอมสละดินแดนใดๆ และปฏิเสธเสียงเรียกร้องสำหรับข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุมันหมายความว่าทหารรัสเซียอาจอยู่ในพื้นที่ยึดครองต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่เคียฟไม่สามารถยอมรับได้

"กองกำลังรัสเซียต้องออกไปจากประเทศของเรา และหลังจากนั้นการคืนสู่กระบวนการสันติภาพจึงจะเป็นสิ่งที่เป็นไปได้" โพโดลยัคให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์เมื่อวันเสาร์ (21 พ.ค.) พร้อมอ้างถึงเสียงเรียกร้องให้บรรลุข้อตกลงในทันทีว่า "แปลกมาก"

เขากล่าวว่า การยอมอ่อนข้อใดๆ อาจย้อนกลับมาทำร้ายยูเครนเอง เพราะว่ารัสเซียจะใช้การพักรบ เพื่อกลับมาแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

เสียงเรียกร้องสำหรับข้อตกลงหยุดยิงเมื่อเร็วๆ นี้ มีมาจาก ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ และมาริโอ ดรากิ นายกรัฐมนตรีอิตาลี

เหตุสู้รบที่ยุติลงในมาริอูโปล เมืองใหญ่ที่สุดที่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย มอบชัยชนะที่หาได้ยากแก่ปูติน หลังประสบความปราชัยในหลายสมรภูมิในการสู้รบที่ยืดเยื้อมาเกือบ 3 เดือน

การยึดเมืองมาริอูโปลโดยสมบูรณ์ เปิดทางให้รัสเซียควบคุมเส้นทางภาคพื้นเชื่อมกับแหลมไครเมีย ซึ่งมอสโกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในปี 2014 กับแผ่นดินใหญ่ของรัสเซียและพื้นที่ต่างๆ ทางภาคตะวันออกของยูเครนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของกบฏฝักใฝ่รัสเซีย

(ที่มา : รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น