รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มสนามบินโอเดซาของยูเครน ชาวบ้านอพยพหนีจากโรงงานเหล็กมาริอูโปล

รัสเซียในวันเสาร์ (30 เม.ย.) ยิงขีปนาวุธถล่มพื้นที่ต่างๆ ทั่วภาคใต้และทางตะวันออกของยูเครน เช่นเดียวกับเมือโอเดซา ทางตะวันตกของประเทศ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ยูเครน พร้อมเผยว่ามีผู้หญิงและเด็กบางส่วนอพยพออกจากโรงงานเหล็กแห่งหนึ่งในเมืองมาริอูโปลที่ถูกปิดล้อม หลังเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในบริเวณดังกล่าวนานกว่า 1 สัปดาห์

มอสโกเบนเป้าเข้าสู่ทางใต้และทางตะวันออกของยูเครน หลังล้มเหลวเข้ายึดเมือหลวง ในปฏิบัติการจู่โจมทางลากยาวมานานกว่า 9 สัปดาห์ ที่ถล่มเมืองต่างๆ ราบเป็นหน้ากลอง เข่นฆ่าพลเรือนหลายพันคน และอีกมากกว่า 5 ล้านคนต้องหลบหนีไปยังต่างแดน

กองกำลังของรัสเซียสามารถยึดเมืองเคอร์ซอน ทางภาคใต้ของยูเครน เปิดทางให้พวกเขามีฐานที่มั่นอยู่ห่างจากไครเมีย ซึ่งรัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน ไปทางเหนือแค่ราวๆ 100 กิโลเมตร และควบคุมมาริอูโปลได้เกือบทั้งหมด ในขณะที่ มาริอูโปล เป็นเมืองท่าสำคัญทางยุทธศาสตร์ในทะเลอาซอฟ

รัสเซียประกาศชัยชนะเหนือมาริอูโปลเมื่อวันที่ 21 เมษายน แม้ทหารและพลเรือนหลายร้อยคนเข้าไปหลบในโรงงานถลุงเหล็กอาซอฟสตัล สหประชาชาติเรียกร้องให้ 2 ฝ่ายหาข้อตกลงอพยพ และในวันเสาร์ (30 เม.ย.) นักรบยูเครนที่อยู่ภายในโรงงานดังกล่าว เปิดเผยว่ามีผู้หญิงและเด็กราว 20 คน อพยพออกมา

"เรากำลังใช้เชือกพาพลเรือนขึ้นไปจากซากหักพัง มีทั้งคนชรา ผู้หญิงและเด็ก" สเวียโคสลาฟ พาลามาร์ นักรบกล่าว อ้างถึงซากหักพังที่อยู่ภายในพื้นที่โรงงานมหึมาที่มีขนาดความกว้าง 4 ตารางกิโลเมตร พร้อมระบุว่าทั้งรัสเซียและยูเครนให้ความเคารพข้อตกลงหยุดยิงในพื้นที่ และหวังว่าพลเรือนผู้อพยพจะถูกพาไปยังเมืองซาโปริซเซีย ขึ้นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ

เจ้าหน้าที่ยูเครนระบุว่า ยังมีชาวยูเครนหลบอยู่ภายในโรงงานอีกหลายร้อยคน ในขณะที่รัสเซียยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปฏิบัติการอพยพในครั้งนี้

ในภาคตะวันตก เมืองโอเดซา ซึ่งจนตอนนี้ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากสงคราม มีรายงานว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธลูกหนึ่งจากไครเมีย ทำลายรันเวย์ของสนามบินหลัก จากการเปิดเผยของมัคซีม มาร์เชนโก ผู้ว่าการแคว้นโอเดซากล่าว แต่เขาบอกว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีครั้งนี้ ส่วนกองทัพยูเครนระบุว่าสนามบินแห่งนี้ไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ยอมรับว่าขีปนาวุธของรัสเซียทำลายรันเวย์ที่เพิ่งสร้างใหม่ของสนามบิน "รันเวย์ของสนามบินโอเดซาถูกทำลาย แน่นอน เราจะสร้างใหม่ โอเดซาจะไม่มีวันลืมพฤติกรรมของรัสเซียที่มีต่อพวกเขา"

การโจมตีทางภาคใต้ยูเครนของรัสเซีย มีเป้าหมายบางส่วนในความพยายามเชื่อมพื้นที่ดังกล่าวกับไครเมีย ในขณะที่มอสโกรุกคืบเพื่อควบคุมภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครนโดยสมบูรณ์ หลังจาก 2 แคว้น ประกอบด้วย โดเนตสก์ และลูฮันสก์ อยู่ภายใต้การควบคุมของกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียมาตั้งแต่ก่อนปฏิบัติการรุกรานของมอสโกเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์

มอสโกเรียกมันว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร" เพื่อปลดอาวุธยูเครนและกำจัดนาซีในชาติเพื่อนบ้าน แต่ยูเครนและตะวันตกกล่าวหาการโจมตีของรัสเซียเป็นสงครามแห่งการรุกรานที่ปราศจากการยั่วยุใดๆ

แม้มีความพยายามเจรจาสันติภาพกันมานานหลายสัปดาห์ แต่ในวันเสาร์ (30 เม.ย.) ดูเหมือนทั้งสองฝ่ายมีความเห็นต่างกันมากยิ่งขึ้น

เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย บอกว่าการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกควรเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจา แต่ มีคาอิโล โพโดลยัค ผู้แทนเจรจาระดับสูงของยูเครนปฏิเสธ

ประธานาธิบดีเซเลนสกี เน้นย้ำว่ามีความจำเป็นต้องยกระดับมาตรการคว่ำบาตรให้หนักหน่วงและไม่อาจเจรจาต่อรองได้ เขาเตือนในวันศุกร์ (29 เม.ย.) ว่าการเจรจาอาจพังครืนลง สืบเนื่องจากพฤติกรรมหนึ่งของรัสเซีย ที่เขาเรียกว่าเป็น "ตำราเข่นฆ่าพลเรือนของรัสเซีย"

ยูเครนกล่าวหาทหารรัสเซียกระทำการโหดเหี้ยมต่างๆ ระหว่างถอนกำลังอกจากพื้นที่ต่างๆ ใกล้กรุงเคียฟเมื่อช่วงต้นเดือนเมษายน แต่มอสโกปฏิเสธคำกล่าวอ้างดังกล่าว คณะผู้แทนเจรจาระหว่าง 2 ฝ่าย ประชุมหารือกันแบบเจอหน้าครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มีนาคม และนับตั้งแต่นั้นเป็นการพูดคุยผ่านวิดีโอลิงก์เท่านั้น

สหรัฐฯ และพันธมิตรยุโรป กำหนดมาตรการคว่ำบาตรอย่างกว้างขวางเล่นงานเศรษฐกิจรัสเซีย และส่งมอบอาวุธและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ยูเครน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กำลังขอสภาคองเกรสอนุมัติแพกเกจช่วยเหลือยูเครนเพิ่มเติมอีก 33,000 ล้านดอลลาร์ ในนั้น 20,000 ล้านดอลลาร์เป็นการจัดหาอาวุธ ส่วน บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรระบุในวันเสาร์ (30 เม.ย.) ว่าประเทศของเขาจะเดินหน้ามอบยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นแก่ยูเครนเพื่อช่วยพวกเขาปกป้องตนเอง

ลาฟรอฟ กล่าวว่าหากวอชิงตันและพันธมิตรของพวกเขาในนาโต้ ต้องการเห็นวิกฤตคลี่คลายอย่างแท้จริง พวกเขาควรหยุดส่งมอบอาวุธแก่เคียฟ

พวกเจ้าหน้าที่ในแคว้นบรีอันสค์ของรัสเซีย ซึ่งมีชายแดนติดกับยูเครนและเบลารุส เปิดเผยว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศของพวกเขาสกัดอากาศยานลำหนึ่งของยูเครน ไม่ให้ข้ามเขตแดนเข้ามา

ทางใต้ของบรีอันสค์ ในแคว้นคูร์สของรัสเซีย ซึ่งอยู่ติดชายแดนยูเครนเช่นกัน มีการยิงปืนใหญ่หลายนัดมาจากยูเครนเข้าใส่ด่านตรวจแห่งหนึ่งของรัสเซีย แต่ไม่มีรายงานความเสียหายหรือความสูญเสียใดๆ

ยูเครนไม่ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบโดยตรงต่อเหตุการณ์ทั้งหลายในดินแดนของรัสเซีย แต่ระบุว่าเหตุระเบิดเป็นชุดๆ ทางภาคใต้ของรัสเซียเมื่อวันพุธ (27 เม.ย.) เป็นการเอาคืนการรุกรานของมอสโก

(ที่มา : รอยเตอร์)