ยูเครนเสนอเจรจากับรัสเซีย สำหรับอพยพทหารและพลเรือนออกจากเมืองมาริอูโปล หลังจากคำขาดอยู่หรือตายของรัสเซียผ่านพ้นมาแล้วในวันพุธ (20 เม.ย.) ทำให้คนจำนวนมากยังติดอยู่ในโรงงานเหล็กแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นป้อมปราการหลักสุดท้ายของฝ่ายต้านทาน ในขณะที่ผู้นำทหารของพวกเขาออกมายอมรับว่าพวกนักรบอาจไม่สามารถยืนหยัดต่อสู้ได้นานกว่านี้อีกแล้ว
รอยเตอร์รายงานอ้างผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่ามีพลเรือนไม่กี่สิบคนที่หนีออกมาจากเมืองท่าสำคัญทางยุทธศาสตร์ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน ผ่านขบวนรถบัสขนาดเล็กขบวนหนึ่ง หลบหนีการสู้รบอันดุเดือดของสงครามที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 8 สัปดาห์
เชอร์ฮิฟ โวลนีย์ ผู้บัญชาการนาวิกโยธินยูเครน ยอมรับว่าพวกนักรบอาจไม่สามารถยืนหยัดต้านทานได้นานกว่านี้อีกแล้ว ในขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน คาดหมายว่ามีพลเรือนราว 1,000 คนหลบภัยอยู่ตามโรงงานเหล็กทั้งหลายเช่นกัน
สำนักข่าวบีบีซีเปิดเผยว่า นายพลเซอร์ไฮย์ โวลินา ผู้บัญชาการนาวิกโยธินที่ประจำการอยู่ในเมืองมาริอูโปล เปิดเผยผ่านคลิปวิดีโอที่ส่งไปยังสำนักข่าวต่างๆ ว่า กองกำลังของเขาอาจจะต่อต้านการรุกรานของรัสเซียได้อีกแค่เพียงไม่กี่ชั่วโมง หรือไม่กี่วัน
“นี่อาจเป็นคำพูดสุดท้ายที่เราพูดกับโลก อาจเป็นครั้งสุดท้ายของเราแล้วจริงๆ เป็นไปได้ว่าเราอาจเหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่วันหรืออาจจะเป็นชั่วโมง” นายพลโวลินา กล่าว พร้อมระบุว่า “เราขอเรียกร้องให้เหล่าผู้นำโลกเข้ามาช่วยพวกเรา เราอยากให้พวกเขาเข้ามาจัดการเพื่อพาเราหนีไปยังประเทศที่สาม”
นายพลโวลินา กล่าวเสริมว่า “กองทัพของศัตรูใหญ่กว่าเราหลายสิบเท่า พวกเขาเหนือกว่าเราทั้งบนอากาศและภาคพื้น มีทั้งยุทโธปกรณ์และรถถัง”
อย่างไรก็ตาม นายพลโวลินา ยังคงยืนยันว่าทหารยูเครนจะยืนหยัดต่อสู้กับรัสเซียจนถึงที่สุด แต่เพียงต้องการให้นานาชาติเข้ามาช่วยทหารที่ได้รับบาดเจ็บราว 500 นาย รวมถึงพลเรือนที่เป็นผู้หญิงและเด็กอีกหลายร้อยคน ซึ่งกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ภายในโรงงานถลุงเหล็ก
มีไคโล โพโดลยัค ตัวแทนเจรจาของฝ่ายยูเครนเขียนบนทวิตเตอร์ว่า "ยูเครนพร้อมเจรจารอบพิเศษอย่างไม่มีเงื่อนไข เพื่อปกป้องคนของเรา กองพันอาซอฟ (ขวาจัด) ทหารพลเรือน เด็กๆ ผู้ที่มีชีวิตอยู่และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ"
ดาวิด อาราคาเมีย ตัวแทนเจรจาอีกคนกล่าวว่า พวกนักรบยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในโรงงานและเพิกเฉยต่อคำขาดให้ยอมจำนนของรัสเซีย และเผยว่า โพโดลยัค ติดต่อประสานงานอย่างต่อเนื่องกับกองกำลังยูเครนในเมืองแห่งนี้
"วันนี้ ในการสนทนากับพวกผู้ปกป้องเมืองของเรา มีข้อเสนอหนึ่งให้จัดเจรจากันโดยตรงในพื้นที่ เกี่ยวกับการอพยพกองทหารของเรา" เขากล่าว "สำหรับส่วนของเรา เราพร้อมเจรจาทุกเมื่อ ทันทีที่เราได้รับคำยืนยันจากฝ่ายรัสเซีย"
เจ้าหน้าที่ยอมรับว่ามีพลเรือนยอมอพยพออกมาน้อยกว่าที่คาดหวังในวันพุธ (20 เม.ย.)
มีชาวยูเครนแล้วมากกว่า 5 ล้านคนที่หลบหนีออกไปยังต่างแดน นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ถือเป็นการโจมตีรัฐหนึ่งๆ ของยุโรปครั้งใหญ่ที่สุุดตั้งแต่ปี 1945 จนถึงตอนนี้รัสเซียยังไม่สามรถยึดครองเมืองหลักใดๆ
ยูเครนระบุว่า จนถึงตอนนี้พวกเขาสามารถต้านทานการโจมตีของทหารรัสเซียหลายพันนายที่พยายามรุกคืบในสิ่งที่เคียฟเรียกว่า "สมรภูมิดอนบาส" การสู้รบครั้งใหม่เพื่อยึดครอง 2 แคว้นทางภาคตะวันออกของยูเครน ที่บางส่วนอยู่ภายใต้การควบคุมของกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียมาตั้งแต่ปี 2014
กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่ากองกำลังของพวกเขาได้ปฏิบัติการโจมตีที่ตั้งทางทหารหลายสิบแห่งทางภาคตะวันออกของยูเครน และยิงเฮลิคอปเตอร์ Mi-8 ของยูเครนตกใกล้กับหมู่บ้านโคโรวิย์ ยาร์
รัสเซียเรียกการรุกรานของพวกเขาว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร" เพื่อปลดอาวุธและทำลายความเป็นนาซีของยูเครน แต่ เคียฟ และพันธมิตรตะวันตกปฏิเสธ โดยระบุว่ามันเป็นข้ออ้างอันเป็นเท็จ
ตะวันตกตอบโต้ด้วยการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานเป็นชุดๆ และในวันพุธ (20 เม.ย.) สำหรับขึ้นบัญชีดำเพิ่มเติมบุคคลหลายสิบคนและบริษัทอีกหลายแห่ง ในนั้นรวมถึงธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งและบริษัทขุดเหมืองเงินดิจิทัล ลงโทษกรณีหลบหลีกกฎระเบียบต่างๆ ที่บังคับใช้ในปัจจุบัน
มาริอูโปล ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองที่รุ่งเรืองและมีประชากร 400,000 คน เวลานี้ราบเป็นหน้ากลอง รกร้างว่างเปล่า พบเห็นร่างไร้วิญญาณกระจัดกระจายอยู่บนท้องถนนสายต่างๆ และรัสเซียเดินหน้าถล่มโรงงานถลุงเหล็กอาซอฟสตาล ด้วยระเบิดแรงสูงที่มีชื่อว่า บังเกอร์ บัสเตอร์ บอมบ์
ไอรีนา เวเรชชุค รองนายกรัฐมตรียูเครน กล่าวหากองกำลังรัสเซียไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระดับท้องถิ่นข้อตกลงหนึ่ง นานเพียงพอที่จะปิดทางให้ผู้คนจำนวนมากอพยพออกมา ส่วนทางรัสเซียยังไม่ออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหาดังกล่าว
รัสเซียปฏิเสธว่าไม่ได้เล็งเป้าเล่นงานพลเรือน และกล่าวโทษยูเครนต่อความล้มเหลวในความพยายามหลายต่อหลายครั้งก่อนหน้านี้ ในการจัดตั้งแนวกันชนด้านมนุษยธรรมสำหรับอพยพผู้คนออกจากมาริอูโปล
สวายาโตสลาฟ คาลามาร์ รองผู้บัญชาการกองทหารอาซอฟในมาริอูโปล บอกว่าบังเกอร์หลายแห่งที่อยู่ใต้โรงงานยังคงมีประชาชนหลบภัยอยู่แห่งละราวๆ 80-100 คน ขณะที่พวกกบฏแบ่งแยกดินแดนที่ได้รับการหนุนหลังจากรัสเซีย เผยว่ามีเพียง 5 คนในมาริอูโปล ที่ยอมจำนน หลังผ่านคำขาดยอมแพ้หรือตายของมอสโก ตอนเวลา 14.00 น. (ตรงกับเมืองไทย 18.00 น.)
ยูเครนเสนอแลกเปลี่ยนเชลยศึกรัสเซีย กับการเปิดทางให้พลเรือนและทหารของพวกเขาที่ติดค้างอยู่ในเมืองดังกล่าวเดินทางออกมาอย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ หากรัสเซียยึดเมืองมาริอูโปลได้สำเร็จ พวกเขาจะสามารถเชื่อมโยงดินแดนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของกบฏฝักใฝ่รัสเซียทางภาคตะวันออกของยูเครนกับแคว้นไครเมีย ที่มอสโกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในปี 2014
มอสโกถูกบีบให้ล่าถอยจากทางเหนือของยูเครน หลังปฏิบัติการจู่โจมกรุงเคียฟถูกปัดเป่าเมื่อเดือนที่แล้ว แต่พวกเขาระดมกำลังหวนกลับไปโจมตีครั้งใหญ่ทางภาคตะวันออกเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
รัสเซียกำลังมุ่งเน้นรุกคืบเมืองสโลเวียนสก์ ซึ่งเป็นเมืองยุทธศาสตร์สำคัญของภูมิภาคดอนบาส "แต่จนถึงตอนนี้พวกเขายังไม่ประสบความสำเร็จ" ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครนระบุ
ปูติน ระบุว่ายูเครนปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสมกับประชาชนที่พูดภาษารัสเซียในภูมิภาคดอนบาส คำกล่าวหาที่ทางยูเครนปฏิเสธ
(ที่มา : รอยเตอร์/บีบีซี)