รัสเซียทำการโจมตีครั้งใหญ่ในภาคตะวันออกของยูเครนในวันจันทร์ (18 เม.ย.) จากการเปิดเผยของบรรดาเจ้าหน้าที่ในกรุุงเคียฟ ในขณะที่มอสโกเปิดเฟสใหม่แห่งการรุกราน หลังความพยายามเข้ายึดเมืองหลวงถูกขัดขวาง นอกจากนี้ มอสโกยังยิงถล่มเมืองลวิว ทางตะวันตก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากชายแดนโปแลนด์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียหันกลับมามุ่งเน้นภูมิภาคดอนบาส ทางภาคตะวันออกของประเทศ ซึ่งบางส่วนอยู่ภายใต้การควบคุมของกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่มอสโก มาตั้งแต่ปี 2014
"ตอนนี้เราสามารถยืนยันได้ว่าทหารรัสเซียเริ่มสู้รบสำหรับดอนบาส ซึ่งพวกเขาเตรียมการมานานแล้ว" ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ระบุผ่านเทเลแกรมเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ (18 เม.ย.) "ไม่สำคัญว่าพวกเขาจะนำทหารรัสเซียมามากน้อยแค่ไหน เราจะสู้ เราจะปกป้องตัวเราเอง"
ก่อนหน้าการเปิดฉากรุกราน ซึ่งคาดหมายกันไว้ล่วงหน้าแล้ว บรรดาเจ้าหน้าที่ยูเครนเรียกร้องประชาชนในดอนบาส ให้อพยพหลบหนีมุ่งหน้าไปทางตะวันตก
การควบคุมภูมิภาคดอนบาสจะเปิดทางให้มอสโกสร้างแนวกันชนทางใต้ เชื่อมไปยังแหลมไครเมีย ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของพวกเขา
บริเวณทางใต้ของภูมิภาคดอนบาส รัสเซียยังคงเดินหน้ายึดเมืองมาริอูโปล หลังโอบล้อมมานานหลายสัปดาห์ ดินแดนที่เดนีส ชมีฮาล นายกรัฐมนตรียูเครน ประกาศว่าพวกทหารที่กำลังปกป้องเมืองแห่งนี้จากการโจมตีของรัสเซีย จะสู้ให้ถึงที่สุด
ในวันจันทร์ (18 เม.ย.) รัสเซียยังได้โจมตีเป้าหมายอื่นๆ ทั่วประเทศ คร่าชีวิตอย่างน้อย 7 ราย ในเมืองลวิว ทางตะวันตกของยูเครน ไม่ไกลจากชายแดนโปแลนด์
ลวิว รอดพ้นจากการถูกทิ้งบอมบ์โจมตีเป็นส่วนใหญ่ นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ทำให้เมืองแห่งนี้และเมืองอื่นๆ โดยรอบกลายเป็นแหล่งหลบซ่อนที่ค่อนข้างปลอดภัย สำหรับคนที่เสาะหาสถานที่หลบภัยสงคราม
อย่างไรก็ตาม "วันนี้เราตระหนักอย่างชัดเจนแล้วว่า เราไม่มีสถานที่ปลอดภัยไหนๆ ในยูเครน มันอันตรายมาก" พนักงานธนาคารรายหนึ่งกล่าวกับเอเอฟพีหลังการโจมตี
กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยในวันจันทร์ (18 เม.ย.) ว่าพวกเขาโจมตีเป้าหมายทางทหาร 16 เป้าหมายทั่วยูเครน ในนั้นรวมถึงโกดังแห่งหนึ่ง ซึ่งมอสโกอ้างว่าใช้เก็บอาวุธที่สหรัฐฯ และยุโรปส่งมอบให้แก่ยูเครนเมื่อเร็วๆ นี้
เจ้าหน้าที่เพนตากอนเปิดเผยในวันจันทร์ (18 เม.ย.) ว่าการส่งมอบแพกเกจช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ มูลค่า 800 ดอลลาร์ ในนั้นรวมถึงเฮลิคอปเตอร์ ปืนใหญ่วิถีโค้ง และยานลำเลียงพลหุ้มเกราะ เดินทางถึงชายแดนยูเครนแล้ว
ก่อนหน้าการแถลงของเซเลนสกี ทางเซอร์กีย์ เกเดย์ ผู้ว่าการแคว้นลูฮานส์ก แถลงเช่นกันว่าการโจมตีของรัสเซียที่คาดหมายกันไว้ก่อนหน้านี้ได้เริ่มขึ้นแล้ว
"นี่คือนรก การโจมตีเริ่มขึ้นแล้ว เป็นสิ่งที่เราพูดมาตลอดหลายสัปดาห์ มีการต่อสู้กันอย่างต่อเนื่องในรูบิซเนและโปปาสนา มีการสู้รบในเมืองที่สงบอื่นๆ" เขาเขียนบนเฟซบุ๊ก
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเปิดเผยว่า มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 8 รายในภาคตะวันออกของยูเครน หลังถูกรัสเซียยิงปืนใหญ่ถล่ม ส่วน เกเดย์ เผยว่ามีผู้เสียชีวิต 4 คน ระหว่างพยายามหลบหนีออกจากเมืองเครมินนาในแคว้นลูฮานส์ก ท่ามกลางการเคลื่อนพลเข้ามาของกองกำลังรัสเซีย
"ทหารรัสเซียเข้ามาที่นั่น พร้อมกับยุทโธปกรณ์จำนวนมาก ผู้ปกป้องของเราล่าถอยไปยังฐานที่มั่นใหม่" เกเดย์กล่าวในถ้อยแถลงที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ อย่างไรก็ตาม ทาง โอเล็กซีย์ อาเรสโตวิช ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน ระบุว่ากองกำลังรัสเซียยังไม่ได้พิชิตเมืองแห่งนี้
เจ้าหน้าที่ยูเครนในวันจันทร์ (18 เม.ย.) ระงับปฏิบัติการอพยพพลเรือนออกจากหมู่บ้านและเมืองต่างๆ ที่อยู่ในแนวหน้าทางภาคตะวันออกของประเทศเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังกล่าวหารัสเซียปิดกั้นและยิงถล่มเส้นทางหลบหนี
(ที่มา : เอเอฟพี)