xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ เชื่อปูตินทิ้งแผนยึดกรุงเคียฟหลังถูกตีโต้กลับ รัสเซียยอมรับแล้วสูญเสียหนักในสงครามยูเครน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ระบุในวันพฤหัสบดี (7 เม.ย.) ว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ยอมละความพยายามพิชิตกรุงเคียฟ หลังกองกำลังของเขาถูกตีโต้กลับจากกองทัพยูเครน สอดคล้องกับท่าทีของโฆษกวังเครมลินที่ยอมรับว่ารัสเซียประสบความสูญเสียอย่างหนักในยูเครน นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการพิเศษด้านการทหารเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์

"ปูตินคงคิดว่าเขาอาจสามารถยึดประเทศยูเครนได้อย่างรวดเร็ว บุกยึดเมืองหลวงแห่งนี้ได้รวดเร็วมากๆ เขาคิดผิด" ออสตินกล่าวระหว่างให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการการทหารของวุฒิสภา "ผมคิดว่า ปูติน ละทิ้งความพยายามยึดครองเมืองหลวงและตอนนี้หันไปมุ่งเน้นทางใต้และทางตะวันออกของประเทศ" ออสตินระบุ

อย่างไรก็ตาม พล.อ.มาร์ค มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมสหรัฐฯ กล่าวกับคณะกรรมาธิการการทหารของวุฒิสภา ว่าเส้นทางของสงครามโดยรวม หลังรัสเซียรุกรานยูเครนมานานกว่า 6 สัปดาห์ ยังคงไม่แน่นอน

"ยังมีสมรภูมิสำคัญสมรภูมิหนึ่งรออยู่เบื้องหน้าในทางตะวันออกเฉียงใต้ ในภูมิภาคดอนบาส ดินแดนที่รัสเซียมีเจตนาระดมกำลังและเดินหน้าโจมตีอย่างไม่ลดละ" เขากล่าว "ดังนั้น ผมคิดว่าตอนนี้มันยังคงเป็นคำถามแบบเปิด ว่าเรื่องนี้จะลงเอยเช่นไร"

ออสตินบอกกับคณะกรรมาธิการวุฒิสภาว่า สหรัฐฯ กำลังมอบข่าวกรองแก่กองทัพยูเครน เพื่อสนับสนุนการสู้รบของพวกเขาในดอนบาส ดินแดนที่พวกกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่มอสโก ต่อสู้กับกองกำลังรัฐบาลยูเครนมาตั้งแต่ปี 2014 และเวลานี้พวกเขาได้รับการสนับสนุนโดยตรงจากทหารรัสเซีย

พล.อ.มิลลีย์ ยอมรับว่าการสู้รบในพื้นที่ดังกล่าวจะเป็นเรื่องยากลำบากอย่างมาก และความพยายามขับไล่รัสเซียใดๆ ดูเหมือนยูเครนจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนทางอาวุธเพิ่มเติม ในนั้นรวมถึงรถถัง

"การสู้รบทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ ภูมิประเทศต่างจากในทางภาคเหนือ" พล.อ.มิลลีย์ อธิบาย "มันเป็นพื้นที่เปิดโล่งกว่าและเหมาะสำหรับยานเกราะ ปฏิบัติการจู่โจมทางยานยนต์ในทั้งสองฝ่าย ดังนั้นระบบเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่พวกเขากำลังมองหา" เขากล่าว "พวกเขากำลังร้องหาและบางทีพวกเขาอาจต้องใช้ยานเกราะและปืนใหญ่เพิ่มเติม"

ความคิดเห็นของ ออสติน เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ ปูติน ยอมละความพยายามพิชิตกรุงเคียฟ มีขึ้นในขณะที่ ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของวังเครมลิน ออกมายอมรับในวันพฤหัสบดี (7 เม.ย.) ว่ารัสเซียประสบความสูญเสียใหญ่หลวงในปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน ที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์

เปสคอฟ ให้สัมภาษณ์กับสกายนิวส์ สื่อมวลชนของอังกฤษ ว่า "เราสูญเสียทหารจำนวนมาก และมันเป็นเรื่องเศร้าสลดใหญ่หลวงสำหรับเรา" อยางไรก็ตามเขาไม่เปิดเผยตัวเลขความสูญเสีย

กระทรวงกลาโหมของรัสเซียเคยระบุในวันที่ 25 มีนาคม ซึ่งเป็นข้อมูลอัปเดตที่สุด ว่า มีทหารรัสเซีย 1,351 นายเสียชีวิตนับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการในยูเครน และบาดเจ็บ 3,825 นาย

อย่างไรก็ตาม โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวในอีก 2 วันต่อมา เชื่อว่าอาจมีทหารรัสเซียอย่างน้อย 10,000 นาย เสียชีวิตในสงครามยูเครน

สหประชาชาติยืนยันว่ามีพลเรือนเสียชีวิตในความขัดแย้งยูเครนกับรัสเซียไปแล้วหลายพันคน แต่ตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้มาก

อีกด้านหนึ่ง มิฮาอิล มิชูสติน นายกรัฐมนตรียูเครน ออกมาชี้ว่ารัสเซียกำลังเผชิญกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยุ่งยากที่สุดในรอบกว่า 3 ทศวรรษ สืบเนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรตะวันตกหนักหน่วงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ในขณะเดียวกัน สภาคองเกรสสหรัฐฯ ได้ถอดสถานะการค้า "ชาติที่ได้รับอนุเคราะห์ยิ่ง" ของรัสเซีย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของมอสโกมากยิ่งขึ้น

รัสเซียบอกว่าพวกเขาเปิดปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร เพื่อปลดอาวุธและทำลายความเป็นนาซีของยูเครน แต่เคียฟและพันธมิตรตะวันตกปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว พร้อมตอบโต้ว่ามันเป็นข้ออ้างอันเป็นเท็จ

หลังจากมีการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรใหม่ๆ เล่นงานรัสเซีย ตอบโต้กรณีเข่นฆ่าพลเรือนในเมืองบูชา ที่ถูกตะวันตกประณามอย่างกว้างขวางว่าเป็นอาชญากรรมสงคราม ยูเครนเรียกร้องให้พันธมิตรหยุดซื้อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากยูเครน ท่ามกลางความแตกแยกในยุโรป และร้องขอเสริมแสนยานุภาพแก่กองทัพของพวกเขา

"ยูเครนต้องการอาวุธ เพื่อใช้มันเป็นหนทางในการเอาชนะในสมรภูมิรบ และนั่นจะเป็นมาตรการลงโทษหนักหน่วงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้กับรัสเซีย" โวโลดิมีร์ โซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าวผ่านวิดีโอในช่วงค่ำวันพฤหัสบดี (7 เม.ย.)

เขาบอกด้วยว่าสถานการณ์ในโบรอดยานกา อีกเมืองทางตะวันตะเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ ที่ยึดคืนมาได้จากกองกำลังรัสเซีย "น่าสยดสยองมากกว่าในเมืองบูชา" แต่เขาไม่ได้ให้หลักฐานใดๆ

มอสโก ปฏิเสธว่าไม่ได้เล็งเป้าหมายเล่นงานพลเรือนและบอกว่าภาพถ่ายศพผูุ้เสียชีวิตในบูชา เป็นการจัดฉากเพื่ออ้างความชอบธรรมในการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมและมีเป้าหมายล้มโต๊ะการเจรจาสันติภาพ

ในสมรภูมิรบ ยูเครนเผยว่าหลังจากรัสเซียถอนกำลังออกจากเขตชานเมืองของกรุงเคียฟ เวลานี้ทหารรัสเซียกำลังรวมกลุ่มใหม่ในความพยายามเข้าควบคุมโดเนตสก์และลูฮันสก์ 2 แคว้นทางตะวันออกโดยสมบูรณ์ ซึ่งก่อนหน้านี้บางส่วนถูกยึดครองโดยกบฏแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียสนับสนุน มาตั้งแต่ปี 2014

เซเลนสกี บอกว่าในดอนบาส ฝ่ายต่อต้านยูเครนกำลังมีความเคลื่อนไหวมากขึ้นและได้รับกำลังเสริมใหม่จากรัสเซีย

นอกจากนี้ ที่เมืองมาริอูโปล ซึ่งถูกปิดล้อมและยังมีประชาชนตกค้างอีกกว่า 100,000 คน ก็ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีเช่นกัน "จงอพยพ! โอกาสปกป้องตัวคุณเองและครอบครัวของคุณจากความตายของรัสเซีย กำลังลดน้อยลงทุกวัน" ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์กล่าว

เจ้าหน้าที่ในเมืองดนิโปร ทางตะวันออกตอนกลางของยูเครน เรียกร้องให้ผู้หญิง เด็กและคนชรา อพยพออกมาเช่นกัน

(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น