ฝ่ายตะวันตกรุมประณามรัสเซีย กรณีพบพลเรือนหลายร้อยคนถูกสังหารในเมืองติดๆ กับกรุงเคียฟ โดยหลายศพอยู่ในสภาพถูกมัดมือไพล่หลังและจ่อยิงที่ศีรษะ รวมทั้งมีหลุมศพขนาดใหญ่ในพื้นที่ที่กองทัพรัสเซียถอนออกไป สหรัฐฯ และยุโรปลั่นเตรียมออกมาตรการแซงก์ชันล็อตใหม่ที่ครอบคลุมน้ำมันและก๊าซ ด้านมอสโกเรียกร้องคณะมนตรีความมั่นคงประชุมด่วนเรื่องนี้ พร้อมยืนยันเป็นฝีมือฝ่ายขวาในยูเครน และแผนการป้ายสีของวอชิงตันกับนาโต้ รวมทั้งยังเป็นความพยายามขัดขวางการเจรจาสันติภาพมอสโก-เคียฟ
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในเมืองบูชา ของยูเครนระบุว่า ต้องขุดหลุมศพขนาดใหญ่เพื่อฝังหมู่ร่างผู้เสียชีวิตที่กองเกลื่อนกลาดบนถนน ซึ่งรวมถึงศพที่ถูกมัดมือไพล่หลังและจ่อยิงที่ศีรษะ เนื่องในตอนแรกนั้น ทหารรัสเซียไม่ยอมให้ประชาชนนำศพไปฝัง
ถึงแม้รัสเซียปฏิเสธไม่ได้เป็นผู้กระทำเรื่องเช่นนี้ แต่ทั้งผู้นำตะวันตก องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ต่างออกคำแถลงกันอย่รางรวดเร็วเพื่อประณามมอสโก หลังมีภาพและรายงานข่าวพลเรือนจำนวนมากถูกฆ่าตายในเมืองบูชา ซึ่งอยู่นอกกรุงเคียฟออกไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ตลอดจนในอีกหลายเมืองที่อยู่ติดกับเมืองหลวงยูเครนเช่นกัน เช่น เอียร์ปิน และฮอสโตเมล
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวในวิดีโอที่เผยแพร่เมื่อคืนวันอาทิตย์ (3) ประณามกองทัพรัสเซียว่าเป็น “ฆาตกร ผู้ทำทารุณกรรม นักข่มขืน และโจรที่เรียกตัวเองว่ากองทัพ และสมควรตายสถานเดียวจากสิ่งที่ทำลงไป”
ผู้นำยูเครนบอกว่า ได้ตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อสอบสวนการสังหารพลเรือนในพื้นที่รอบๆ เคียฟ ที่กองทัพรัสเซียเพิ่งถอนออกไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยประกาศว่าเพื่อปรับกำลังพลมุ่งรวมศูนย์เน้นโจมตีดินแดนทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน
แม้ขณะฝ่ายยูเครนระบุว่ายังอยู่ระหว่างการรวบรวมจำนวนพลเรือนที่ถูกสังหาร แต่ ไอรีนา เวเนดิกโตวา อัยการใหญ่ยูเครนก็ออกมาแถลงว่า พบร่างพลเรือนที่เสียชีวิตแล้ว 410 คน ขณะที่อนาโตลี เฟโดรุก นายกเทศมนตรีเมืองบูชา กล่าวว่า มีร่างผู้เสียชีวิต 280 ศพในหลุมขนาดใหญ่เนื่องจากไม่สามารถขนไปฝังในสุสานที่เป็นบริเวณที่มีการสู้รบได้
ดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน กล่าวหารัสเซีย “จงใจสังหารหมู่” ขณะที่เซียร์จี นิกิโฟรอฟ โฆษกของเซเลนสกี สำทับว่า การสังหารพลเรือนในเมืองบูชาคือ “อาชญากรรมสงคราม”
ด้าน แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา สำทับว่า ภาพเหตุการณ์ในบูชา “น่าตกใจมาก” ส่วนแอนโตนิโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการยูเอ็นเรียกร้องให้ตั้งหน่วยงานอิสระสอบสวนเรื่องนี้
สำหรับ มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์สถานีทีวีของรัฐบาลหมีขาว ตอบโต้ว่า ไม่มีพลเรือนในบูชาแม้แต่คนเดียวที่เป็นเหยื่อความรุนแรงของฝ่ายรัสเซีย พร้อมกล่าวหาว่า คลิปพลเรือนเสียชีวิตในเมืองดังกล่าวเป็นความพยายามยั่วยุของอเมริกาและนาโต้
“ใครกันที่ถนัดเรื่องยั่วยุแบบนี้? แน่นอนว่าก็คือสหรัฐอเมริกาและนาโต้” ซาคาโรวา กล่าว พร้อมกับชี้ด้วยว่า การที่ชาติตะวันตกรีบออกมาตีโพยตีพายประณามรัสเซียทันทีที่ภาพศพเหล่านี้ถูกเผยแพร่ บ่งบอกให้เห็นว่านี่คือส่วนหนึ่งของแผนการบ่อนทำลายชื่อเสียงรัสเซีย
“ในกรณีนี้ดิฉันคิดว่า การที่พวกเขารีบออกมาแถลงตั้งแต่นาทีแรกๆ ที่ภาพและคลิปถูกปล่อย ทำให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าใครเป็นผู้สั่ง”
เธอบอกด้วยว่าสหรัฐฯ และฝ่ายตะวันตกยังมีเป้าหมายเพื่อขัดขวางการเจรจาสันติภาพระหว่างมอสโกกับเคียฟ
ขณะที่สำนักข่าว RT (รัสเซียทูเดย์) ของรัสเซียอ้างถ้อยแถลงของกระทรวงกลาโหมรัสเซียซึ่งระบุว่า นี่เป็นอีกหนึ่ง “การจัดฉากของรัฐบาลเคียฟ” ที่หวังต้อนรัสเซียให้จนมุม โดยอันที่จริงแล้วทหารรัสเซียถอนกำลังออกจากเมืองบูชาตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. และในตอนนั้นนายกเทศมนตรีของเมืองก็ออกคลิปวิดีโอยืนยัน โดยไม่ได้เอ่ยสักคำว่า “มีพลเรือนถูกยิงทิ้งนอนตายเกลื่อนถนน”
กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุด้วยว่า ภาพและคลิป “หลักฐาน” เหล่านั้นเพิ่งจะปรากฏหลังจากทหารรัสเซียถอนตัวออกไปแล้วถึง 4 วัน และเป็นช่วงที่หน่วยข่าวกรองและผู้แทนของสถานีโทรทัศน์ยูเครนเดินทางเข้าไปในเมือง
ด้าน รองเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงจัดประชุมในวันจันทร์ (4) เพื่อเปิดโปงการยั่วยุอย่างชั่วร้ายของกลุ่มหัวรุนแรงยูเครนในบูชา แต่เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งของวอชิงตันบอกว่า มอสโกต้องการป้ายความผิดให้คนอื่น และอังกฤษซึ่งเป็นประธานคณะมนตรีความมั่นคงวาระปัจจุบัน ก็ปฏิเสธไม่เรียกประชุมตามที่รัสเซียเรียกร้อง แต่จะจัดประชุมในวันอังคาร (5) โดยจะเป็นการหารือสถานการณ์ในยูเครน
เหตุการณ์ในเมืองบูชา ทำให้ตะวันตกเร่งเรียกร้องเพิ่มมาตรการจัดการกับรัสเซีย โดยประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เสนอให้เพิ่มการแซงก์ชันโดยพุ่งเป้าอุตสาหกรรมน้ำมันและถ่านหิน
นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ของเยอรมนี ขานรับว่า จะมีการตัดสินใจเกี่ยวกับการแซงก์ชันระลอกใหม่ในไม่กี่วันนี้ และรัฐมนตรีกลาโหมของเขาหยิบยกความเป็นไปได้ในการยุติการนำเข้าก๊าซจากรัสเซีย
มาเทอุส มอราวิกกี ผู้นำโปแลนด์ เรียกร้องให้นานาชาติสอบสวน “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” และนายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ ของสเปน ประกาศว่า สเปนจะทำทุกอย่างเพื่อจัดการอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ อาชญากรรมสงคราม และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในยูเครน
ประธานาธิบดีเซเลนสกี ของยูเครน ยังสำทับว่า เหตุการณ์เลวร้ายที่สุดอาจยังมาไม่ถึง ในเมื่อรัสเซียปรับเป้าหมายไปโจมตีด้านใต้และตะวันออกของยูเครน เพื่อสร้างเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ยึดครองไครเมียกับโดเนตสก์และลูกันสก์ที่ประกาศแยกตัวเป็นรัฐอิสระโปรรัสเซีย
ในส่วนการเจรจาสันติภาพนั้นกำหนดไว้ในวันจันทร์ซึ่งจะดำเนินการผ่านระบบวิดีโอลิงก์ และวลาดิมีร์ เมดินสกี หัวหน้าคณะเจรจาของรัสเซียยืนยันว่า ยังเร็วเกินไปสำหรับการประชุมระหว่างประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กับเซเลนสกี และสำทับว่า จุดยืนของรัสเซียเกี่ยวกับไครเมียและดอนบาสยังคงเดิม
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, อาร์ที)