xs
xsm
sm
md
lg

มอสโกยิงถล่มเปิดแนวรบใหม่ทางตะวันตกยูเครน สหรัฐฯ รุดแจง 'ไบเดน' หลุดปากร้องให้เปลี่ยนรัฐบาลรัสเซีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จรวดพุ่งตกในเมืองลวิว ทางภาคตะวันตกของยูเครนในวันเสาร์ (26 มี.ค.) ส่งสัญญาณความเป็นไปได้ของแนวรบใหม่ในปฏิบัติการรุกรานของรัสเซีย ในขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ วิพากษ์วิจารณ์การอยู่ในอำนาจของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน และหาทางสร้างความแข็งแกร่งแก่ยุโรปสำหรับการต่อสู้ที่ยาวนาน

การต่อสู้ที่ดุเดือดในหลายพื้นที่ บ่งชี้ว่าจะยังไม่มีการเพลามืออย่างรวดเร็วในสงครามที่ยืดเยื้อมานาน 1 เดือน ในขณะที่ ไบเดน ให้คำจำกัดความการสู้รบครั้งนี้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ครั้งประวัติศาสตร์เพื่อเสรีภาพประชาธิปไตย ในการกล่าวปราศรัยจากโปแลนด์ ปิดฉากการเดินทางทัวร์ยุโรปที่มีเป้าหมายเสริมความเป็นปึกแผ่นของตะวันตก

"ให้ตายเถอะ ชายคนนี้ไม่ควรอยู่ในอำนาจต่อไป" ไบเดนกล่าวในวอร์ซอ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งชี้แจงในเวลาต่อมาว่าผู้นำสหรัฐฯ ไม่ได้เรียกร้องให้เปลี่ยนรัฐบาล แต่เพียงบอกว่า "ไม่อาจปล่อยให้ปูตินใช้อำนาจเหนือบรรดาประเทศเพื่อนบ้านหรือภูมิภาค"

เครมลินตอบโต้ความคิดเห็นของไบเดน โดยระบุว่า "มันไม่ใช่การตัดสินใจของไบเดน ประธานาธิบดีรัสเซียเลือกโดยประชาชนชาวรัสเซีย"

หลังจากสู้รบมานานกว่า 4 สัปดาห์ รัสเซียยังคงล้มเหลวในการยึดเมืองใหญ่ของยูเครน และความขัดแย้งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วหลายพันราย ประชาชนราว 3.8 ล้านคนหลบหนีออกนอกประเทศ และผลักเด็กๆ มากกว่า 5 แสนคนต้องโยกย้ายถิ่นฐาน จากข้อมูลของสหประชาชาติ

มอสโกส่งสัญญาณในวันศุกร์ (25 มี.ค.) ว่ากำลังลดระดับความทะเยอทะยานด้านการทหาร มุ่งเน้นไปที่ดินแดนที่กล่าวอ้างโดยพวกกบฏแบ่งแยกดินแดนซึ่งได้รับการสนับสนุนจากมอสโก ทางภาคตะวันออกของยูเครน

อย่างไรก็ตาม ในวันเสาร์ (26 มี.ค.) จรวด 4 ลูก พุ่งตกในบริเวณชานเมืองลวิว ห่างจากชายแดนโปแลนด์ราว 60 กิโลเมตร ซึ่งดูเหมือนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มอสโกเปิดฉากรุกราน หลังจากที่ผ่านมา เมืองทางตะวันตกของยูเครนแห่งนี้รอดพ้นการทิ้งบอมบ์ถล่มอย่างหนักและการสู้รบที่ทำลายล้างเมืองอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ชายแดนรัสเซีย

มัคซิม โคซีสกีย์ ผู้ว่าการเขตบอกว่ามี 5 คนได้รับบาดเจ็บและพวกชาวบ้านได้รับแจ้งให้หาที่หลบภัย หลังจากถูกโจมตีในเบื้องต้นตอนเวลาบ่ายๆ ผู้เห็นเหตุการณ์เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่าพบเห็นกลุ่มควันลอยคลุ้งจากฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง และนายกเทศมนตรีลวิว บอกว่า คลังกักเก็บน้ำมันแห่งหนึ่งถูกโจมตี

เจ้าหน้าที่ยูเครนรายงานในเวลาต่อว่ามีการโจมตีอีกชุด ก่อความเสียหายแก่โครงสร้างพื้นฐานของลวิว แต่จนถึงต้อนนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

กองกำลังยูเครนได้ยึดหมู่บ้านสลาวูตีช ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของคนงานโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เชอร์โนบิลที่ปลดระวางไปแล้ว และอยู่ใกล้ๆ กัน และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย

สลาวูตีช ตั้งอยู่รอบนอกของสิ่งที่เรียกว่าเขตยกเว้นรอบๆ เชอร์โนบิล สถานที่เกิดเหตุหายนะนิวเคลียร์ครั้งเลวร้ายที่สุดของโลกในปี 1986 เจ้าหน้าที่ยูเครนยังคงทำงานที่เชอร์โนบิล หลังกองกำลังรัสเซียบุกยึดโรงไฟฟ้าแห่งนี้ไม่นานหลังเริ่มรุกรานในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และทบวงปรมาณูสากล (ไอเออีเอ) แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ หากว่าไม่สามารถสับเปลี่ยนหมุนเวียนคนงานได้

ในเมืองมาริอูโปลที่ถูกปิดล้อม นายกเทศมนตรีวาดีม บอยเชนโก กล่าวว่าสถานการณ์ยังคงวิกฤต ท่ามกลางการสู้รบบนท้องถนนในย่านกลางเมือง หลังจากเมืองแห่งนี้ถูกทำลายล้างจากการยิงถล่มอย่างต่อเนื่องนานหลายสัปดาห์ของรัสเซีย

ณ เวทีสัมมนาโดฮา ฟอรัม ในกาตาร์ ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เปรียบเทียบสถานการณ์ในมาริอูโปล กับการทำลายล้างเมืองอะเลปโปของซีเรีย จากฝีมือของกองกำลังซีเรียและรัสเซีย ในสงครามกลางเมืองซีเรีย

"พวกเขากำลังทำลายท่าเรือของเรา" เซเลนสกี กล่าว พร้อมเตือนผลลัพธ์เลวร้าย หากว่าประเทศของเขา ในฐานะผู้ผลิตธัญพืชรายใหญ่ของโลก ไม่สามารถส่งออกอาหาร โดยระบุว่ามันจะส่งผลอย่างหนักต่อประเทศต่างๆ ทั่วโลก

ในการกล่าวผ่านวิดีโอลิงก์ เขายังเรียกร้องให้บรรดาชาติผู้ผลิตพลังงานทั้งหลายเพิ่มกำลังผลิต เพื่อที่รัสเซียจะไม่สามารถใช้ความอุดมสมบูรณ์ทางน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ มา "แบล็กเมล์" ประเทศอื่น

ส่วนในการพูดคุยทางโทรศัพท์กับอันด์แชย์ ดูดา ประธานาธิบดีโปแลนด์ในวันเดียวกัน เซเลนสกีแสดงความผิดหวังที่เครื่องบินรบที่ผลิตโดยสหภาพโซเวียตในยุโรปตะวันออก ไม่ถูกส่งมอบแก่ยูเครน


สหรัฐฯ ปฏิเสธข้อเสนอที่สร้างความประหลาดใจของโปแลนด์ ที่บอกว่าจะส่งฝูงบินรบ MiG-29 ที่ผลิตโดยรัสเซีย ไปยังฐานทัพแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ ในเยอรมนี เพื่อเติมเต็มแสนยานุภาพทางอากาศของยูเครน

วอชิงตันที่มอบความช่วยเหลือแก่ยูเครนแล้วหลายพันล้านดอลลาร์ จะมอบความช่วยเหลือด้านความปลอดภัยพลเรือนอีก 100 ล้านดอลลาร์ ในนั้นรวมถึงด้านการสื่อสารและชุดสนามของกองกำลังพิทักษ์ชายแดนและตำรวจยูเครน จากการเปิดเผยของแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในวันเสาร์ (26 มี.ค.)

ก่อนหน้านี้ในวันเสาร์ (26 มี.ค.) ไบเดน เรียก ปูติน ว่าเป็นคนโหดเหี้ยม หลังพบปะกับพวกผู้ลี้ภัยชาวยูเครน ณ ครัวอาหารแห่งหนึ่งในโปแลนด์ ความคิดเห็นที่ทางเครมลินตอบโต้ว่ายิ่งจะก่อความเสียหายมากขึ้นต่อแนวโน้มการซ่อมแซมความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ

ไบเดน ยังได้พบปะกับรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนรีกลาโหมของยูเครน ในกรุงวอร์ซอ เมืองหลวงของโปแลนด์ ในการพบปะแบบเจอหน้ากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น

การเดินทางเยือนโปแลนด์ของไบเดน ถือเป็นประเทศสุดท้ายในโปรแกรมทัวร์ยุโรปของเขา เพื่อเน้นย้ำจุดยืนของเขาในการต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย แสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับยูเครน และแสดงความมุ่งมั่นของเขาในการทำงานใกล้ชิดกับพันธมิตรตะวันตก ในการเผชิญหน้ากับวิกฤตครั้งนี้

"เราจำเป็นต้องมองภาพให้ชัด การต่อสู้นี้จะไม่สามารถเอาชนะได้ภายในเวลาไม่กี่วันหรือไม่กี่เดือน เราจำเป็นต้องคุมหางเสือตัวเราเอง สำหรับการสู้รบที่ยาวนานที่รออยู่เบื้องหน้า" ไบเดนกล่าว พร้อมเรียกร้องให้ยุโรปเร่งเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานหมุนเวียน และเลิกพึ่งพิงน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย

เซเลนสกี ในวันศุกร์ (25 มี.ค.) ผลักดันให้มีการเจรจากับรัสเซียเพิ่มเติม หลังกระทรวงกลาโหมของรัสเซียบอกว่า "ขั้นแรก" ของปฏิบัติการทางทหารในยูเครนเสร็จสมบูรณ์แล้ว และตอนนี้จะหันไปเน้นที่ภูมิภาคดอนบาสส์ ตามแนวชายแดนติดกับรัสเซีย ซึ่งอยู่ภายใต้วงล้อมของกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่มอสโก ที่สู้รบกับกองกำลังรัฐบาลยูเครนมาตั้งแต่ปี 2014

พวกนักวิเคราะห์มองว่า การวางเป้าหมายใหม่ของรัสเซีย อาจทำให้เป็นเรื่องง่ายขึ้นสำหรับ ปูติน ในการกล่าวอ้างชัยชนะเพื่อรักษาหน้า

จนกระทั่งตอนนี้ มอสโกบอกว่าเป้าหมายของพวกเขาสำหรับสิ่งที่เรียกว่า "ปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร" คือเพื่อขจัดลิทธิทหารและทำลายความเป็นนาซีของชาติเพื่อนบ้าน แต่ยูเครนและพันธมิตรตะวันตกระบุว่ามันเป็นข้ออ้างที่ไร้สาระ สำหรับการรุกรานที่ปราศจากการยั่วยุใดๆ

สหประชาชาติรายงานว่ามีพลเรือนเสียชีวิตไปแล้ว 1,104 ราย และบาดเจ็บ 1,754 คน ในยูเครน นับตั้งแต่การรุกรานเริ่มต้นขึ้น แต่ยอดที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้ ส่วน ยูเครน บอกว่ามีเด็กเสียชีวิตไป 136 ราย

กระทรวงกลาโหมรัสเซียบอกว่ามีทหารรัสเซียเสียชีวิต 1,351 นาย และได้รับบาดเจ็บ 3,825 นาย ตามรายงานของสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ แต่ฝั่งยูเครนอ้างว่ามีทหารรัสเซียเสียชีวิตมากถึง 15,000 นาย อย่างไรก็ตามรอยเตอร์ไม่ยืนยันคำกล่าวอ้างดังกล่าว

(ที่มา : รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น