ทหารรัสเซียดูเหมือนว่าจะหยุดชะงักในปฏิบัติการรุกคืบเมืองต่างๆ ของยูเครน ในขณะที่สหรัฐฯ ส่งเสียงความกังวลในวันพฤหัสบดี (17 มี.ค.) ว่าจีนอาจช่วยเหลือมอสโกด้วยยุทโธปกรณ์ทางทหาร ท่ามกลางสงครามที่ยืดเยื้อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 แล้ว พร้อมเตือนปักกิ่ง "ชดใช้ราคาแพง" หากช่วยรัสเซียรอดพ้นความเจ็บปวดจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก
รัสเซียกลับมายิงปืนใหญ่ถล่มกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนอีกรอบ ส่วนที่มาริอูโพล เมืองท่าที่ถูกปิดล้อม บรรดาหน่วยกู้ภัยพยายามขุดคุ้ยหาผูุ้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพังของอาคารต่างๆ ที่ถูกทิ้งบอมบ์ ขณะที่เจ้าหน้าที่จากทั้ง 2 ประเทศพบปะกันอีกครั้งเพื่อเจรจาสันติภาพ แต่บอกว่าจุดยืนของพวกเขานั้นยังคงห่างไกลกัน
แหล่งข่าวตะวันตก และเจ้าหน้าที่ยูเครนอ้างว่าการจู่โจมของรัสเซียสะดุดลงนับตั้งแต่ทหารของพวกเขาเปิดฉากรุกรานในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ก่อความผิดหวังมากยิ่งขึ้นไปอีก จากเดิมที่มอสโกคาดหมายว่าจะได้รับชัยชนะและโค่นล้มรัฐบาลของประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ โซเลนสกี อย่างรวดเร็ว
แม้ต้องพบอุปสรรคในสมรภูมิรบและเจอมาตรการคว่ำบาตรอย่างหนักหน่วงจากตะวันตก แต่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ยังแทบไม่ส่งสัญญาณอ่อนข้อใดๆ ในขณะที่รัฐบาลของเขาเผยว่า กำลังพึ่งพาจีนให้ช่วยรัสเซียยืนหยัดรับมือกับแรงกระแทกทางเศรษฐกิจ
สหรัฐฯ ซึ่งในสัปดาห์นี้เพิ่งแถลงส่งมอบความช่วยเหลือด้านการทหารแก่เคียฟรอบใหม่มูลค่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แสดงความกังวลว่าปักกิ่งกำลังพิจารณาให้ความช่วยเหลือโดยตรงแก่รัสเซีย ด้วยการมอบอาวุธยุทโธปกรณ์ไปใช้ในยูเครน จากคำกล่าวของแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศอเมริกา
บลิงเคนบอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะพูดอย่างชัดเจนกับประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ของจีน ระหว่างสนทนาทางโทรศัพท์ในวันศุกร์ (18 มี.ค.) ว่า "ปักกิ่งจะต้องรับผิดชอบต่อความเคลื่อนไหวใดๆ ที่พวกเขาให้การสนับสนุนการรุกรานของรัสเซีย และเราจะไม่รีรอที่จะกำหนดบทลงโทษที่พวกเขาต้องชดใช้"
นอกจากนี้ บลิงเคน ยังระบุ ประธานาธิบดีไบเดน จะเตือนประธานาธิบดีสี ด้วยว่าเขาจะต้อง "ชดใช้" หากปักกิ่งช่วยพันธมิตรอย่างรัสเซีย รอดพ้นจากมาตรการคว่ำบาตรหนักหน่วงของตะวันตก ที่มีเป้าหมายลงโทษมอสโกต่อกรณีรุกรานยูเครน
จีนปฏิเสธประณามความเคลื่อนไหวของรัสเซียในยูเครน หรือเรียกมันว่าการรุกราน พวกเขาบอกว่ายอมรับในอำนาจอธิปไตยของยูเครน แต่ความกังวลด้านความมั่นคงของรัสเซียนั้นมีความชอบธรรมและควรได้รับการจัดการ
ในขณะที่สหรัฐฯ บอกว่าพวกเขาต้องการหลีกเลี่ยงเผชิญหน้าโดยตรงกับรัสเซีย การมอบความช่วยเหลือทางทหารแก่มอสโกของจีน จะวางวอชิงตันและปักกิ่ง 2 ชาติมหาอำนาจโลกอยู่ในฝั่งตรงข้ามของเหตุโจมตีรัฐหนึ่งในยุโรปครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
การเจรจา 4 วันต่อเนื่องระหว่างคณะผู้แทนของรัสเซียและยูเครน มีขึ้นผ่านวิดีโอลิงก์ แต่เครมลินยอมรับว่าทั้งสองฝ่ายยังไม่บรรลุข้อตกลง "คณะผู้แทนของเราใช้ความพยายามมหาศาล" ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลินระบุ "คณะผู้แทนของเราพร้อมทำงานตลอด 24 ชั่วโมง แต่เคราะห์ร้ายที่เราไม่เห็นความกระตือรือร้นจากฝ่ายยูเครน"
ก่อนหน้านี้ มอสโกบอกว่าพวกเขาให้บรรลุข้อตกลงสูตรหนึ่งที่จะให้ยูเครนมีสถานะเป็นกลาง ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ทาง มีคาอิโล โพโดลยัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน ระบุการเจรจายุ่งยากซับซ้อน "จุดยืนต่างๆ ของแต่ละฝ่ายนั้นต่างกัน สำหรับเราประเด็นพื้นฐานต่างๆ ไม่อาจล่วงละเมิดได้"
ยูเครนเคยบอกก่อนหน้านี้ว่า พวกเขามีความตั้งใจเจรจายุติสงคราม แต่จะไม่ยอมจำนนหรือยอมรับคำขาดของรัสเซีย ยูเครนยึดมั่นในจุดยืนหลักของตนเองต่อการคงอำนาจอธิปไตยเหนือพื้นที่ต่างๆ ที่ถูกรัสเซียและกองกำลังฝักใฝ่รัสเซียยึดครองมาตั้งแต่ปี 2014
ที่ผ่านมา รัสเซียยังคงล้มเหลวในการยึดเมืองหลัก สืบเนื่องจากถูกขัดขืนต้านทานอย่างหนักหน่วงจากกองกำลังยูเครน ที่กำลังคุ้มกันพื้นที่ชุมชนทั้งหลายที่ถูกทิ้งระเบิดโจมตีแบบรายวัน
ทีมกู้ภัยในมาริอูโพล เมืองท่าทางใต้ของประเทศ ช่วยกันขุดค้นหาผู้รอดชีวิตที่อาจติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของโรงละครแห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าถูกโจมตีทางอากาศถล่มในวันพุธ (16 มี.ค.) รายงานข่าวระบุว่ามีประชาชนกว่า 1,000 คนหลบภัยสงครามอยู่ในสถานที่แห่งนี้ แต่ทางรัสเซียปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นฝ่ายโจมตีโรงละครดังกล่าว
เมืองมาริอูโพล กำลังประสบหายนะทางมนุษยธรรมเลวร้ายที่สุด ผลกระทบจากสงคราม ด้วยพลเรือนหลายแสนคนต้องหลบภัยอยู่ในชั้นใต้ดิน ไม่มีน้ำ อาหาร หรือไฟฟ้า และเจ้าหน้าที่ของเมืองบอกว่ายังคงไม่สามารถประมาณการได้ว่ามีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุโจมตีโรงละครมากน้อยแค่ไหน
มาเรีย ชาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียบอกว่าคำกล่าวหาที่ว่ารัสเซียโจมตีถล่มโรงละครนั้นเป็นเรื่องโกหก และเน้นย้ำว่ากองกำลังรัสเซียไม่ได้ทิ้งบอมบ์ถล่มเมืองและหมู่บ้านต่างๆ
องค์การอนามัยโลกระบุว่า มีการโจมตีสถานพยาบาล รถพยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ในยูเครน ที่ได้รับการพิสูจน์ยืนยันแล้ว 43 กรณี นับจากที่รัสเซียเริ่มโจมตี ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คน และบาดเจ็บ 34 คน
"ในความขัดแย้งใดๆ การโจมตีศูนย์การแพทย์คือการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ" ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกบอกกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แต่ไม่ได้กล่าวโทษอย่างเจาะจงว่าการโจมตีต่างๆ เหล่านั้นเป็นฝีมือใคร
ย่านชานเมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือและทางตะวันตกเฉียงเหนือของเคียฟได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ในตัวเมืองหลวงซึ่งอยู่ภายใต้ประกาศเคอร์ฟิว สามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคง แม้ถูกโจมตีด้วยจรวดเสียเลือดเสียเนื้อในทุกๆ คืน
โฆษกกระทรวงกลาโหมยูเครนระบุว่า กองกำลังรัสเซียไม่มีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญใดๆ รอบกรุงเคียฟ ในช่วง 24 ถึง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา และเลือกใช้หนทางยิงถล่มสร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย
"ทหารยูเครนกำลังใช้ทุกความพยายามหยุดการโจมตีของศัตรูจากพื้นที่ดังกล่าว" เขากล่าวระหว่างแถลงสรุปในกรุงเคียฟ พร้อมเผยว่า อาคารที่พักอาศัยหลายแห่งได้รับความเสียหายจากห่าฝนจรวด และมีพลเรือนเสียชีวิตด้วย "มันคืออาชญากรรมสงคราม" โฆษกระบุ แต่ไม่ได้ให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แน่ชัด
หน่วยข่าวกรองทางทหารของสหราชอาณาจักรระบุในวันพฤหัสบดี (17 มี.ค.) ว่าปฏิบัติการรุกรานของรัสเซียหยุดชะงักเป็นส่วนใหญ่ในทุกแนวหน้า ด้วยกองกำลังรัสเซียประสบความสูญเสียอย่างหนัก มีความคืบหน้าทั้งทางภาคพื้น ทะเลและอากาศเพียงเล็กน้อยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
(ที่มา : รอยเตอร์)
