รัสเซียกลับมาโจมตีพวกผ้ปกป้องยูเครนชุดสุดท้ายที่ซ่อนตัวอยู่ในโรงงานถลุงเหล็กขนาดใหญ่ในเมืองมาริอูโปลในวันเสาร์ (23 เม.ย.) หลายวันหลังจากมอสโกประกาศชัยชนะเหนือเมืองทางภาคใต้แห่งนี้ และบอกว่ากองกำลังของพวกเขาจะไม่ยึดโรงงานดังกล่าว พร้อมกันนั้นยังได้ถล่มโอเดสซา เมืองท่าอีกแห่ง ส่งผลให้มีประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ยอมรับว่าทหารของพวกเขาไม่พร้อมที่จะใช้กำลังพยายามฝ่าวงล้อมออกมาจากเมืองมาริอูโปล แต่กล่าวระหว่างแถลงข่าวในช่วงเย็นวันเสาร์ (23 เม.ย.) ว่าเคียฟมีสิทธิทุกอย่างที่จะทำเช่นนั้น
ปฏิบัติการโจมตีเมืองมาริอูโปล สมรภูมิรบใหญ่ที่สุดของความขัดแย้ง ลากยาวนานมานานหลายสัปดาห์ โดยรัสเซียหวังยึดเมืองแห่งนี้ ซึ่งถูกมองว่ามีความสำคัญยิ่งในความพยายามเชื่อมโยงภูมิภาคดอนบาส ทางภาคตะวันออกของยูเครน เข้ากับแหลมไครเมีย ซึ่งอยู่ริมทะเลดำและมอสโกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนมาตั้งแต่ปี 2014
พวกกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่มอสโกยึดครองภูมิภาคดอนบาสบางส่วนมานานหลายปีแล้ว
ในเมืองโอเดสซา เมืองท่าริมทะเลดำ เซเลนสกีเผยว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย ขีปนาวุธ 2 ลูกโจมตีที่ตั้งทางทหารแห่งหนึ่ง อาคารที่พักอาศัยของพลเรือน 2 แห่ง และมีอีก 2 แห่งถูกทำลายในวันเสาร์ (23 เม.ย.) จากคำกล่าวอ้างของกองทัพยูเครน
รอยเตอร์ไม่ยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิต และเหตุโจมครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายที่เล็งเป้าเล่นงานเมืองโอเดสซาหรือพื้นที่ใกล้เคียง เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนเมษายน
"เป้าหมายเดียวของการโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียใส่โอเดสซา คือก่อการร้าย" ดมิทรี คูเลบา รัฐมนนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของยูเครนเขียนบนทวิตเตอร์ รัสเซียปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ได้เล็งเป้าหมายเล่นงานพลเรือน ในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "ปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร" ที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์
กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่าในการโจมตีในวันเสาร์ (23 เม.ย.) พวกเขาใช้ขีปนาวุธที่มีความแม่นยำสูงทำลายอาคารโลจิสติกส์แห่งหนึ่งในโอเดสซา ซึ่งใช้จัดเก็บอาวุธจำนวนมากที่ยูเครนได้รับมอบมาจากสหรัฐฯและประเทศต่างๆ ในยุโรป
นอกจากนี้ ยังเผยด้วยว่ากองกำลังรัสเซียสังหารทหารยูเครนสูงสุด 200 นาย และทำลายยานยนต์มากกว่า 30 คันในวันเสาร์ (23 เม.ย.)
นายพล รุสตัม มินเนคาเยฟ รองผู้บัญชาการทหารกลางของรัสเซีย ในวันศุกร์ (22 เม.ย.) ระบุมอสโกต้องการควบคุมทั่วทั้งภาคใต้ของยูเครน ส่วนทางยูเครนเคยบอกว่ารัสเซียมีเป้าหมายใหญ่กว่าการปลดอาวุธและทำลายนาซีตามที่ประกาศไว้ เคียฟและตะวันตกเรียกปฏิบัติการจู่โจมตีของรัสเซีย ว่าเป็นการรุกรานที่ไม่ชอบธรรม
กองกำลังรัสเซียปิดล้อมและทิ้งบอมบ์ถล่มมาริอูโปลมาตั้งแต่วันแรกของสงคราม ส่งผลให้เมืองแห่งนี้ซึ่งปกติแล้วมีประชากรพำนักอยู่มากกว่า 400,000 คน กลายเป็นซากปรักหักพัง ขณะที่ความพยายามอพยพพลเรือนรอบใหม่ล้มเหลวอีกครั้งในวันเสาร์ (23 เม.ย.)
กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุเมื่อวันศุกร์ (22 เม.ย.) ว่าพวกนักรบกลุ่มสุดท้ายในมาริอูโปล ถูกปิดล้อมที่โรงงานถล่มเหล็ก หลังจากก่อนหน้านั้นในวันพฤหัสบดี (21 เม.ย.) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ประกาศชัยชนะ ระบุว่าเมืองแห่งนี้ได้รับการปลดปล่อยแล้ว แต่บอกว่าทหารรัสเซียจะไม่จู่โจมโรงงานเหล็กอาซอฟสตัล
โอเล็กซีย์ อาเรสโตวีช ที่ปรึกษาทางการเมืองของเซเลนสกี บอกว่าทหารยูเครนในโรงงานถลุงเหล็กกำลังหลบซ่อนตัวอยู่และพยายามตีโต้กลับ นอกจากนี้ ยังมีพลเรือนอีกมากกว่า 1,000 คน อยู่ในโรงงานดังกล่าวเช่นกัน
กองพันอาซอฟ พวกนักรบชาตินิยมชื่อดังที่ร่วมปกป้องมาริอูโปล เผยแพร่วิดีโอหนึ่งเป็นภาพเหล่าผู้หญิงและเด็กๆ กำลังหลบภัยอยู่ในโรงงานแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ไม่สามารถยืนยันว่าภาพในคลิปถ่ายทำจากที่ไหนหรือเมื่อไหร่
ในวิดีโอ ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังอุ้มเด็ก กล่าวว่าอาหารใกล้หมดแล้ว ส่วนเด็กชายคนหนึ่งบอกว่าเขาหมดหวังที่จะหลบหนีออกไป หลังติดอยู่ภายในแหล่งหลบภัยนี้มานานเกือบ 2 เดือน
ยูเครนคาดหมายว่ามีพลเรือนหลายหมื่นคนเสียชีวิตในมาริอูโปล และบอกว่ายังมีชาวบ้านอีกกว่า 100,000 คนอยู่ในเมืองแห่งนี้
ปัจจุบัน รัสเซียหันไปมุ่งเน้นโจมีในภูมิดอนบาส ในนั้นรวมถึงแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์
เซอร์ฮีย์ ไกได ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์ ระบุในวันเสาร์ (23 เม.ย.) ว่ากองกำลังยูเครนกำลังถอนตัวจากฐานที่มั่นบางแห่งไปยังแนวป้องกันใหม่ เพื่อเป็นกองหนุนแก่กองทหารต่างๆ ของพวกเขาที่กำลังเผชิญการโจมตีอย่างหนักหน่วงในทั่วทุกเมืองในภูมิภาคแห่งนี้
ผู้ว่าการรายนี้บอกต่อว่ามีผู้เสียชีวิต 3 รายและบาดเจ็บ 7 คน จากเหตุรัสเซียยิงปืนใหญ่ถล่มเมืองคาร์คิฟในวันเสาร์ (23 เม.ย.)
รัสเซียเผยว่าพวกเขายิงเครื่องบินขับไล่ของยูเครนลำหนึ่งตกและทำลายเฮลิคอปเตอร์ของยูเครน 3 ลำในลานบินแห่งหนึ่งในคาร์คิฟ
ยังไม่มีความเห็นมาจากยูเครนเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างของรัสเซีย แต่กองทัพยูเครนบอกก่อนหน้านี้ในวันเสาร์ (23 เม.ย.) ว่าพวกเขาทำลายอากาศยานของรัสเซียไปแล้ว 177 ลำและเฮลิคอปเตอร์ 154 ลำนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ไม่ยืนยันตัวเลขดังกล่าว
หน่วยข่าวกรองทางทหารของสหราชอาณาจักรระบุในวันเสาร์ (23 เม.ย.) ว่ากองกำลังรัสเซียไม่ได้รุกคืบครั้งใหญ่ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่วน เซเลนสกี เผยว่าในที่สุดพันธมิตรของยูเครนก็กำลังส่งมอบอาวุธที่เคียฟเรียกร้องเสียที หลังจากสหรัฐฯ แคนาดา และสหราอาณาจักร แถลงเมื่อเร็วๆ นี้ว่าจะส่งมอบอาวุธรอบใหม่แก่ยูเครน
(ที่มา : รอยเตอร์)