รอยเตอร์ - เกิดเหตุระเบิดหลายจุดในกรุงเคียฟเมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ (5 มิ.ย.) หรือหนึ่งวันหลังยูเครนอ้างว่า ยึดพื้นที่บางส่วนในเมืองซีวีโรโดเนตสก์คืนจากรัสเซีย ยูเครนยังตั้งความหวังว่า ระบบอาวุธที่ตะวันตกสัญญาจัดหาให้จะช่วยพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นต่อมอสโก
วิตาลี คลิตช์โก ผู้ว่าการเคียฟ เปิดเผยผ่านแอปเทเลแกรมว่า เกิดเหตุระเบิดหลายจุดเมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ในเขตดาร์นิตสกี้ และดนิพรอฟสกี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลอย่างน้อย 1 คน แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ขณะที่เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ระบุว่า ดูเหมือนรัสเซียต้องการโจมตีเครือข่ายรถไฟ
แม้การที่รัสเซียยังเดินหน้าโจมตียูเครนและสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง แต่ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาบรรยากาศในเคียฟถือว่า ค่อนข้างสงบหลังจากรัสเซียปรับโฟกัสการบุกไปที่ดินแดนด้านตะวันออกและใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองซีวีโรโดเนตสก์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสนามรบใหญ่ที่สุดในสงครามครั้งนี้ เนื่องจากรัสเซียวางเดิมพันในการยึด 1 ใน 2 จังหวัดในเขตดอนบาสทางด้านตะวันออกของยูเครน
เซอร์ฮีย์ ไกได ผู้ว่าการจังหวัดลูฮันสก์ที่เมืองซีวีโรโดเนตสก์ตั้งอยู่ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า กองกำลังยูเครนสามารถขับไล่และยึดพื้นที่ของเมืองนี้คืนได้แล้วครึ่งหนึ่ง จากก่อนหน้านี้ที่รัสเซียควบคุมพื้นที่อยู่ถึง 70% อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถตรวจสอบยืนยันคำกล่าวอ้างนี้ได้
โอเลกซานดร์ สไตรอัก นายกเทศมนตรีซีวีโรโดเนตสก์ เผยว่า สถานการณ์ตึงเครียดและซับซ้อน ประชาชนขาดแคลนอาหาร เชื้อเพลิงและยา แต่ย้ำว่า กองทัพกำลังทำทุกทางเพื่อขับไล่ศัตรูออกจากเมือง
กระทรวงกลาโหมอังกฤษแถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่า การตอบโต้ของยูเครนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีแนวโน้มบ่อนทำลายความคืบหน้าของกองกำลังรัสเซียก่อนหน้านี้ แต่มอสโกกลับระบุว่า กองกำลังของตนรุกคืบเข้าควบคุมซีวีโรโดเนตสก์ได้มากขึ้น
ในส่วนความพยายามทางการทูตนั้น เคียฟโจมตีประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ที่ให้สัมภาษณ์เมื่อวันเสาร์ (4 มิ.ย.) ว่า ต้องไม่ดูหมิ่นรัสเซีย เพื่อที่ว่าเมื่อการสู้รบสิ้นสุดลง สถานการณ์จะมีทางออกผ่านแนวทางการทูต อีกทั้งยังกล่าวว่า เขาเชื่อว่า ฝรั่งเศสควรมีบทบาทในการเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย
ดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ทวีตตอบโต้ว่า การเรียกร้องให้งดดูหมิ่นรัสเซียอาจเป็นการดูหมิ่นฝรั่งเศสเองและทุกประเทศที่เรียกร้องเรื่องนี้ เนื่องจากรัสเซียดูหมิ่นตัวเองอยู่แล้ว แต่นานาชาติควรมุ่งมั่นกับการจัดการกับรัสเซียเพื่อฟื้นสันติสุขและรักษาชีวิตผู้คนมากกว่า
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ประกาศกร้าวว่า ผลลัพธ์เลวร้ายของสงครามนี้สามารถหยุดลงได้ทุกเมื่อ ถ้าคนคนหนึ่งในมอสโกออกคำสั่งเท่านั้น ซึ่งดูเหมือนพาดพิงถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย และสำทับว่า ข้อเท็จจริงที่ว่า ยังคงไม่มีคำสั่งนั้นออกมาเป็นการดูหมิ่นโลกอย่างชัดเจน
ทางด้านปูตินนั้นจะพูดคุยเกี่ยวกับสงครามระหว่างการสัมภาษณ์ที่มีกำหนดออกอากาศในรัสเซียวันอาทิตย์ โดยข้อความสั้นๆ ที่ถูกตัดมาและนำออกอากาศเมื่อวันเสาร์ เขาบอกว่า กองกำลังต่อต้านอากาศยานของรัสเซียสอยและทำลายเครื่องบินยูเครนได้นับสิบลำ
ฝ่ายยูเครนเผยว่า ตั้งเป้าผลักดันกองกำลังรัสเซียให้ถอยร่นจากสนามรบไปไกลที่สุด โดยฝากความหวังว่า ระบบอาวุธขีปนาวุธขั้นสูงที่อเมริกาและอังกฤษสัญญาจัดหาให้เมื่อไม่กี่วันนี้จะพลิกสถานการณ์ให้ยูเครนเป็นต่อรัสเซีย
สำหรับคำถามเกี่ยวกับการเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยของมาครงนั้น มิกไคโล โปโดลยัค ที่ปรึกษาของเซเลนสกี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ใช่เวลาในการเจรจาจนกว่ายูเครนจะได้รับอาวุธทั้งหมดที่ตะวันตกสัญญาว่าจะให้และขับไล่รัสเซียถอยร่นไปไกลที่สุดจากพรมแดนยูเครน