รัสเซียโจมตีหนักหวังล้อมกรอบทหารยูเครนในสมรภูมิดอนบาส แต่นาโต้มั่นใจ 'เคียฟ' จะชนะสงคราม

รัสเซียยิงถล่มฐานที่มั่นต่างๆ ทางภาคตะวันออกของยูเครนในวันอาทิตย์ (15 พ.ค.) จากคำแถลงของกระทรวงกลาโหมมอสโก ในขณะที่พวกเขาหาทางล้อมกรอบกองกำลังยูเครนในการสู้รบเพื่อยึดครองภูมิภาคดอนบาส และสกัดการโจมตีตอบโต้กลับรอบๆ อิซิอุม (Izium) เมืองยุทธศาสตร์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย

อย่างไรก็ตาม เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) กล่าวระหว่างการประชุมในเยอรมนี ระบุว่า สงครามของรัสเซียในยูเครน ไม่เป็นไปตามแผนและความพยายามยึดครองภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครนนั้น "หยุดชะงัก" พร้อมเชื่อมั่นว่าเคียฟจะเป็นฝ่ายชนะสงคราม

นอกจากนี้ สโตลเทนเบิร์ก ยังได้เรียกร้องขอแรงสนับสนุนทางทหารเพิ่มเติมและวิงวอนบรรดาชาติสมาชิกดำเนินการอนุมัติอย่างรวดเร็วเมื่อครั้งที่ ฟินแลนด์ และสวีเดน สมัครเข้าร่วมพันธมิตรทหารแห่งนี้

ยูเครนประสบความสำเร็จหลายสมรภูมินับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ บีบให้บรรดานายพลรัสเซียต้องละทิ้งแผนรุกคืบกรุงเคียฟ ก่อนสามารถผลักดันทหารมอสโกล่าถอยไปจากคาร์คิฟ เมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของยูเครนอย่างรวดเร็ว

รัสเซียอ้างว่าการรุกรานของพวกเขาเป็น "ปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร" เพื่อปลดอาวุธยูเครนและปกป้องประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้จากพวกฟาสซิสต์ ความเคลื่อนไหวที่สั่นคลอนความมั่นคงของยุโรป ในขณะที่ทางเคียฟและตะวันตกระบุว่าคำกล่าวอ้างฟาสซิสต์นั้น เป็นคำกล่าวอ้างที่ไร้สาระสำหรับการทำสงครามรุกรานโดยปราศจากการยั่วยุใดๆ

นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายน กองกำลังรัสเซียเบี่ยงแสนยานุภาพด้านการทหารของพวกเขามุ่งหน้าสู่ความพยายามยึดครอง 2 แคว้นทางตะวันออกที่เรียกกันว่าภูมิภาคดอนบาส หลังล้มเหลวในการยึดกรุงเคียฟ

หน่วยขาวกรองทหารของสหราชอาณาจักร ระบุว่า รัสเซียสูญเสียกำลังรบทางภาคพื้นไปแล้วราว 1 ใน 3 นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และการรุกคืบภูมิภาคดอนบาสล่าช้ากว่าแผนที่วางเอาไว้อย่างมาก และดูเหมือนว่าไม่น่าจะมีความคืบหน้าอย่างรวดเร็วในช่วง 30 วันถัดจากนี้

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน แสดงความยินดีกับชัยชนะดังกล่าว แต่บอกว่าสถานการณ์ในดอนบาส ยังคงยุ่งยากอย่างมากและกองกำลังรัสเซียยังคงพยายามกอบกู้ชัยชนะอย่างหนึ่งอย่างใดในภูมิภาคที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งมาตั้งแต่ปี 2014 "พวกเขาจะไม่หยุดความพยายาม"

รัสเซียในวันอาทิตย์ (15 พ.ค.) เปิดเผยว่าพวกเขาโจมตีฐานที่มั่นต่างๆ ของยูเครนในทางตะวันออกด้วยขีปนาวุธ เล็งเป้าหมายเล่นงานกองบัญชาการและคลังแสงทั้งหลาย ในขณะที่กองกำลังของพวกเขากำลังหาทางปิดล้อมทหารยูเครนระหว่างเมืองอิซิอุมและโดเนตสก์

กองทัพยูเครนระบุว่า ทหารของพวกเขาโจมตีตอบโต้กลับไป 17 รอบในวันอาทิตย์ (15 พ.ค.) และสามารถทำลายยุทโธปกรณ์ของรัสเซีย 11 ชิ้น นอกจากนี้ ระบบป้องกันภัยทางอากาศยังสามารถยิงเฮลิคอปเตอร์รัสเซียร่วง 2 ลำ และโดรน 5 ลำ

เมืองอิซิอุม ตั้งคร่อมแม่น้ำโดเนตส์ อยู่ห่างจากคาร์คิฟราว 120 กิโลเมตร บนถนนสายหลักที่มุ่งหน้าสู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้หากยูเครนสามารถถาโถมแรงกดดันใส่เมืองอิซิอุมอย่างต่อเนื่อง จะทำให้มอสโกเผชิญกับความยากลำบากยิ่งขึ้นในความพยายามล้อมกรอบทหารยูเครนในแนวรบทางตะวันออกของภูมิภาคดอนบาส

กองทัพยูเครนกล่าวว่า ในบางพื้นที่เวลานี้หน่วยทหารของรัสเซียกำลังปฏิบัติการด้วยกำลังพลเหลือไม่ถึง 20% ส่วน วาดีม เดนีเชนโก ที่ปรึกษากระทรวงมหาดไทยยูเครน เผยว่ากองกำลังยูเครนอาจเคลื่อนสู่แนวชายแดนดังกล่าวในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพื่อกดดันทหารรัสเซียในเมืองคาร์คิฟ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ในรุสกา โลโซวา หมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในทุ่งกว้างระหว่างเมืองคาร์คิฟกับชายแดนยูเครนที่ติดกับรัสเซีย บรรดาผู้บัญชาการทหารยูเครนเชื่อว่ารัสเซียกำลังจัดวางกำลังใหม่เพื่อปกป้องเมืองอิซิอุม ในขณะเดียวกัน ยังคงยิงถล่มฝ่ายตรงข้ามด้วยปืนใหญ่

"การโจมตีเมืองคาร์คิฟของรัสเซียถูกทำลายแล้ว และพวกเขาตระหนักดี" อิฮอร์ โอโบเลนสกี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิและกองกำลังอาสาสมัครยูเครนกล่าว หลังจากยึดหมู่บ้านรุสกา โลโซวา ได้เมื่อ 8 วันก่อน "พวกเขาจำเป็นต้องพยายามควานหาชัยชนะใหม่และต้องการยึดครองอิซิอุม"

มีโคลา ลุคาชุค ประธานสภาแคว้นดินิโปร ระบุว่า "ด้วยกองกำลังรัสเซียไม่สามารถรุกคืบใดๆ ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกหนทางยิงปืนใหญ่"

อย่างไรก็ตาม กองทัพยูเครนยอมรับเช่นกันว่าพวกเขาประสบความปราชัยในหลายสมรภูมิ ระหว่างอัปเดตสถานการณ์การสู้รบในตอนเช้าวันอาทิตย์ (15 พ.ค.) "แม้ประสบความพ่ายแพ้ต่างๆ แต่กองกำลังรัสเซียยังคงเดินหน้ารุกคืบในพื้นที่ลีมัน, เซเบโรโดเนตสก์, อัฟดิอิฟกา และคูราคิฟ ในภูมิภาคดอนบาส"

ในภาคตะวันตกของยูเครนใกล้กับโปแลนด์ รัสเซียยิงขีปนาวุธทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารในช่วงค่ำคืนวันเสาร์ (14 พ.ค.) และยิงจากทะเลดำถล่มแคว้นลวิว

เซอร์ฮีย์ ไกได ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์ ทางภาคตะวันออก เผยว่า ยังคงอยู่ระหว่างดำเนินการอพยพประชาชน ท่ามกลางการสู้รบที่ยังคงมีอยู่รอบๆ เซเบโรโดเนตสก์ พร้อมระบุว่า "การบุกทะลวงใดๆ ที่นี่ จะช่วยให้รัสเซียโอบล้อมทั่วภูมิภาค"

ไกได เผยว่ามีพลเรือน 9 คนได้รับบาดเจ็บจากเหตุรัสเซียยิงปืนใหญ่ใส่โรงพยาบาลเซเบโรโดเนตสก์ ในช่วงเย็นวันเสาร์ (14 พ.ค.) และบอกว่าการโจมตีนานกว่า 1 ชั่วโมง ทำให้ศักยภาพรองรับคนไข้ของโรงพยาบาลลดลงจาก 100 คน หรือเพียง 30 คน

กองทัพยูเครนเผบด้วยว่ารัสเซียยังคงเดินหน้าทิ้งระเบิดโจมตีโรงงานถลุงเหล็กในมาริอูโปล เมืองท่าทางภาคใต้ของประเทศ เช่นกัน จุดที่พวกนักรบยูเครนหลบซ่อนตัวอยู่นานหลายสัปดาห์ หลังจากเมืองแห่งนี้ตกไปอยู่ในกำมือของรัสเซีย

(ที่มา : รอยเตอร์/บีบีซี)