xs
xsm
sm
md
lg

สัญญาณนาโต-เจรจา แลกเสียดินแดนบ้าง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร


เจนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโต
แม้รมต.กลาโหมสหรัฐฯ กำลังจัดให้มีการประชุมเพื่อระดมขออาวุธเพิ่มเติมจะมอบให้แก่ยูเครน

รวมทั้งการเดินทางเยือนเคียฟครั้งแรกของ 3 ผู้นำสำคัญของอียูคือ ปธน.มาครง ของฝรั่งเศส, นายกฯ ชอลซ์ ของเยอรมนี และนายกฯ ดรากีของอิตาลี...ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการให้กำลังใจสนับสนุนผู้นำ และกองทัพของยูเครน ในการต่อสู้พิทักษ์อธิปไตยของแผ่นดินแม่...จะมีขึ้นในวันพฤหัสฯ นี้ก็ตาม

แต่สัญญาณที่ส่งออกมาจากเลขาธิการนาโต นายเจนส์ สโตลเตนเบิร์ก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา กลับเป็นท่าทีที่ตรงข้ามกับทั้งของรมต.กลาโหมสหรัฐฯ และของผู้นำสำคัญ 3 คนของยุโรป

คำพูดของสโตลเตนเบิร์ก เปิดทางสำหรับการเจรจาสันติภาพ ด้วยการหยุดยิงระหว่างกองทัพยูเครนและกองทัพรัสเซีย

เขาพูดว่า สันติภาพมีความเป็นไปได้แน่นอน เพียงแต่สันติภาพจะมีราคาที่ต้องจ่ายตามมาด้วย ขึ้นอยู่กับความตั้งใจและการยอมรับทางใจของคุณว่า “คุณตั้งใจจะจ่ายด้วยราคาเท่าใด เพื่อแลกกับสันติภาพ”

เขาถึงกับยกตัวอย่าง ราคาที่ต้องจ่ายเพื่อแลกกับสันติภาพของบ้านเมือง อาจเป็น “ดินแดน... มากน้อยแค่ไหน?” อาจเป็น “เอกราช...มากน้อยแค่ไหน?” หรืออาจเป็น “อธิปไตยของชาติ...มากน้อยแค่ไหน?”

ซึ่งคนที่ต้องจ่าย ซึ่งจะเป็นราคาที่ค่อนข้างแพงมาก...จะเป็นผู้ต้องตัดสินใจเองว่า พร้อมจะจ่ายแค่ไหน?

เขาไม่ได้พูดออกมาตรงๆ ในการสนับสนุนหรือเสนอแนะทางออก...ให้ยูเครนต้องยอมเสียสละดินแดนบางส่วน เพื่อแลกกับสันติภาพ

แต่เขาได้ยกตัวอย่าง ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สหภาพโซเวียตต้องการยึดฟินแลนด์ แต่ในที่สุดรัฐบาลฟินแลนด์ได้ยอมทำข้อตกลงสันติภาพกับโซเวียต ซึ่งข้อตกลงสันติภาพครั้งนั้น ฟินแลนด์ได้ยอมยกดินแดนบางส่วน (สาธารณรัฐอาเรลียา) ให้แก่โซเวียต และทำให้ฟินแลนด์สามารถหลุดพ้นจากสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างเป็นรัฐเอกราชที่มีอำนาจอธิปไตยอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ สโตลเตนเบิร์กยังตอกย้ำว่า สมาชิกนาโตพร้อมให้การสนับสนุนยูเครน ด้วยการเสริมความเข้มแข็งแก่สถานะของยูเครน โดยเฉพาะบนโต๊ะเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย

ขณะที่ปธน.เซเลนสกี้ของยูเครน เริ่มออกมาส่งสัญญาณไม่พอใจ โดยกล่าวว่า มีผู้นำต่างชาติ (ที่ไม่ขอเอ่ยนาม) บางชาติ กำลังพยายามกดดันและผลักดันให้เคียฟโน้มเอียงเข้าสู่การเจรจาสันติภาพ (เพราะประชาชนในประเทศต่างๆ ที่ให้การสนับสนุนยูเครน กำลังเผชิญปัญหาค่าครองชีพที่สูงลิบจากราคาพลังงานและอาหาร เช่น เริ่มมีการอดมื้อกินมื้อในหลายประเทศในยุโรป เพราะราคาอาหารแพงมาก และสินค้าอาหารจำเป็นบางอย่างก็ไม่มีวางขายในร้าน!...ประชาชนทั่วโลกกำลังเริ่มเหนื่อยหน่ายต่อสงครามยูเครน และอยากให้ยุติสู่การเจรจาสันติภาพเสียที)

ก่อนหน้าคำพูดของสโตลเตนเบิร์ก ก็มีการนำเสนอเร่งให้เกิดการเจรจาสันติภาพ โดยนายกฯ ดรากีของอิตาลี รวมทั้งการเจรจาระหว่างมาครงและชอลซ์ พูดตรงกับปูตินเพราะต้องการเรียกร้องและกดดันให้เปิดการเจรจาสันติภาพให้เร็วที่สุด เนื่องจากสงครามที่ยาวนาน กำลังทำลายเสถียรภาพของเศรษฐกิจของยุโรปอย่างหนักขณะนี้ ถึงขนาดมีเสียงไม่พอใจของคนอังกฤษที่เริ่มดังขึ้น ที่จะไม่ยอมให้รัฐบาลอังกฤษส่งเงินไปช่วยยูเครน ขณะที่ผู้มีรายได้น้อยของอังกฤษ กำลังต้องอดมื้อกินมื้อกับราคาอาหารที่พุ่งสูงลิบขณะนี้

ด้านปธน.มาครง ที่ได้พยายามทำหน้าที่ติดต่อสื่อสารกับปูติน (โดยเปิดช่องทางเจรจาไว้ดีกว่าปิดเส้นทางเจรจา) และได้เคยเสนอทางออกกับปูตินตอนต้นของสงครามว่า ถ้ายูเครนจะดำรงสถานะเป็นกลางทางทหาร คือไม่เข้าเป็นสมาชิกนาโต จะทำให้รัสเซียพอใจหรือไม่ โดยยกตัวอย่างแบบฟินแลนด์...ซึ่งปูตินดูพอใจอย่างยิ่งกับข้อเสนอนี้...เพียงแต่ปธน.ยูเครนดูจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา กับข้อเสนอนี้ในการเจรจาหยุดยิง ซึ่งการเจรจาก็ได้ล้มเลิกไปในที่สุด

ครั้งนี้ มาครงได้รีบออกมาปฏิเสธต่อสาธารณะว่า ตนเองไม่ได้เรียกร้องให้ปธน.เซเลนสกี้ต้องยอมเสียสละดินแดนบางส่วน เพื่อแลกกับ...การยุติความขัดแย้งกับรัสเซีย...ตามคำแนะนำของดร.คิสซินเจอร์ อดีตรมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ เจ้าของรางวัลสันติภาพโนเบล

โดยล่าสุด มาครงและชอลซ์ได้ออกมาเปิดเผยหลังพูดโทรศัพท์กับปูตินว่า เพื่อหาทางไปสู่สันติภาพ จะต้องหาทางลงให้กับปูติน, ควรไว้หน้าปูตินบ้าง และอย่าทำให้ปูตินหลังชนฝาไม่มีทางออก...ซึ่งทำให้เซเลนสกี้ไม่พอใจมากกับท่าทีของมาครง

สำหรับดร.คิสซินเจอร์นั้น ได้พูดมาก่อนที่รัสเซียจะผนวกดินแดนไครเมียด้วยซ้ำว่าการขยายรุกคืบของนาโต จะคุกคามรัสเซีย โดยเฉพาะถ้ายูเครนเป็นสมาชิกนาโต

เมื่อพฤษภาคมที่ผ่านมา ดร.คิสซินเจอร์ ในวัย 99 ปีได้ออกมาเสนอทางออกไปสู่สันติภาพ โดยให้ยูเครนยอมรับสถานะก่อน 24 กุมภาพันธ์ คือ ทั้งไครเมียและรัฐเอกราชปลดปล่อยที่โดเนตสก์และลูฮันสก์ ยอมให้เกิดกันชนระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ที่จะทำให้รัสเซียไม่ถูกคุกคาม

เพียงแต่ว่า หลังผ่านไป 4 เดือน (จากรัสเซียบุกยูเครน) นาทีนี้ กองทัพรัสเซียได้ขยายเขตยึดครองฝั่งตะวันออกของยูเครนไปมากมายกว่าก่อน 24 กุมภาพันธ์ จนเลยไปถึงมาริอูโปลและโอเดสซา...ยูเครนมีแต่จะเสียดินแดนเพิ่มมากขึ้นทุกนาที!!

เฮนรี คิสซินเจอร์


กำลังโหลดความคิดเห็น