xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ เร่งวิกฤตสงครามกับรัสเซีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์


โจ ไบเดน
สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนได้รับการยกระดับขึ้นอยู่ภาวะอันตราย เสี่ยงต่อการอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์หลังจากผู้นำสหรัฐฯ โจ ไบเดน เปลี่ยนใจ ยอมส่งอาวุธร้ายแรง 2 ประเภทให้ยูเครนสู้รบกับรัสเซีย หลังจากที่โดนบุกหนักในพื้นที่ลูฮันสก์ ในดอนบาส

รัสเซียต้องการปิดเกมในศึกชิงแคว้นดอนบาสซึ่งมี 2 รัฐใหม่ประกาศอิสรภาพจากยูเครนและยอมเข้าอยู่กับฝ่ายรัสเซียเพราะประชาชนในแคว้นดอนบาสส่วนมากเป็นชาวรัสเซีย ที่ผ่านมาเป็นเป้าหมายของการถูกโจมตีโดยกองกำลังยูเครน นีโอนาซี

การตัดสินใจของโจ ไบเดน เท่ากับว่าสหรัฐฯ และกลุ่มนาโตได้ทำสงครามโดยตรงกับรัสเซีย โดยใช้อาวุธเป็นของสหรัฐฯ และนาโต แต่ผู้ที่ใช้อาวุธคือทหารยูเครนและเครือข่ายทหารนีโอนาซี ทหารรับจ้าง และกองพันอาซอฟหัวรุนแรงนิยมนาซี

เริ่มมาตั้งแต่ต้นแล้ว สงครามเริ่มจากรัสเซียยกกำลังเข้าบุกยูเครนเพราะยูเครนไม่ยอมรับคำเตือนของรัสเซียว่าอย่าเข้าสังกัดกลุ่มนาโต ซึ่งจะเป็นภัยคุกคามรัสเซีย ถ้ามีขีปนาวุธร้ายแรงของนาโตเข้าประจำการในพื้นที่ของยูเครน ซึ่งชิดพรมแดนรัสเซีย

คำถามคนทั่วไปง่ายๆ ว่ามันเรื่องอะไรของสหรัฐฯ และยุโรปที่ต้องไปคว่ำบาตรรัสเซีย ส่งอาวุธให้ยูเครนซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกประชาคมยุโรปและองค์การนาโต และรัสเซียก็ไม่ได้ทำอะไรสหรัฐฯ และยุโรป และสหรัฐฯ อยู่คนละทวีปกับยูเครนด้วยซ้ำ

มีคนถามว่าทำไมรัสเซียบุกยูเครน นั่นเป็นเพราะยูเครนอยากเข้าประชาคมยุโรป อยากเข้านาโต ยอมให้อาวุธอเมริกันเข้ามาตั้งประชิดรัสเซีย หลังจากนาโตขยายพื้นที่ครอบคลุม 14 ประเทศ ซึ่งเคยอยู่ภายใต้สนธิสัญญาวอร์ซอนำโดยรัสเซีย

เมื่อหยุดสงครามเย็น สหภาพโซเวียตล่มสลาย สัญญาวอร์ซอก็ถูกยกเลิกไป สหรัฐฯ ให้คำมั่นในปี 1990 ว่าจะไม่ขยายสมาชิกนาโตไปทางตะวันออกด้านรัสเซีย แต่กลับเป็นว่า 14 ประเทศที่เคยอยู่ใต้สนธิสัญญาวอร์ซอถูกสหรัฐฯ เอาไปรวมกับนาโต

พรมแดนนาโตจึงประชิดรัสเซียทั้งที่เตือนหลายครั้งว่าการทำเช่นนั้นเป็นภัยคุกคามรัสเซีย แต่สหรัฐฯ เห็นว่ารัสเซียอ่อนแอหลังจากระบอบคอมมิวนิสต์ล่มสลายจึงไม่รักษาคำมั่นสัญญา เพิ่มสมาชิก 4 ครั้ง กินรวบเหลือแต่เบลารุส ยูเครน จอร์เจีย

รัสเซียบุกจอร์เจีย ยึดแหลมไครเมีย ในปี 2014 และบุกยูเครนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ปีนี้หลังจากเตือนหลายครั้ง ชุมนุมทหารบนชายแดนนานกว่า 2 เดือน ผู้นำยูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ไม่แยแสคำเตือนของวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย

ผลที่ตามมาคือกองทัพรัสเซียได้ทำลายโครงสร้างยุทธศาสตร์สำคัญของยูเครนจนพินาศ บ้านเมืองย่อยยับเพราะสงคราม รัสเซียยึดพื้นที่แคว้นดอนบาสลงมาจนถึงเมืองมาริอูโปล ปิดทางออกทะเลดำและทะเลอาซอฟ ยึดโรงงานเหล็กอาซอฟสตาล

ที่ผ่านมาประชาคมยุโรปได้จัดส่งอาวุธและเงินช่วยเหลือให้ยูเครน ในฐานะเป็นเบี้ยตัวแทนทำสงครามกับรัสเซีย แผนของไบเดนคือบั่นทอนขีดความสามารถของรัสเซียให้อ่อนแอด้านแสนยานุภาพ ให้รัสเซียติดกับดักเหมือนการรบในอัฟกานิสถาน

รัสเซียก็รู้แผน ไม่ต้องการยึดยูเครนทั้งประเทศให้เป็นภาระในการฟื้นฟู เอาเพียงพื้นที่ยุทธศาสตร์และกันชนคือแคว้นดอนบาสที่เป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมสำคัญ และมีคนพูดภาษารัสเซีย ถูกกดขี่โดยรัฐบาลยูเครนมาโดยตลอด

การที่ไบเดนส่งอาวุธร้ายแรง มอบระบบจรวดล้ำสมัยแก่ยูเครน ซึ่งมีศักยภาพโจมตีเป้าหมายรัสเซียที่อยู่ในระยะไกลได้อย่างแม่นยำ ส่วนหนึ่งในแพกเกจอาวุธ 700 ล้านดอลลาร์ ที่คาดหมายว่าจะมีการเปิดตัวในวันพุธที่ผ่านมานี้

เจ้าหน้าที่ระดับสูงเปิดเผยว่าสหรัฐฯ กำลังมอบระบบจรวดปืนใหญ่เคลื่อนที่สูง ซึ่งสามารถโจมตีอย่างแม่นยำ ถล่มเป้าหมายต่างๆ ที่อยู่ห่างออกไปไกลสุด 80 กิโลเมตร หลังจากยูเครนรับประกันว่าพวกเขาจะไม่ใช้จรวดเหล่านี้โจมตีภายในรัสเซีย

แต่ไม่มีใครรับประกันได้ว่าผู้นำตัวตลกยูเครนจะไม่หาทางเล่นงานรัสเซีย ด้วยการโจมตีเมืองใหญ่ หรือแม้แต่กรุงมอสโก เพราะต้องการล้างแค้นยูเครนย่อยยับสิ้นสภาพความเป็นชาติ ชาวยูเครนกว่า 6.6 ล้านคนได้ลี้ภัยเข้าไปในยุโรป

การใช้อาวุธยิงได้ระยะไกลเป็นการ “ข้ามเส้นแดง” อันตรายซึ่งรัสเซียได้เตือนสหรัฐฯ ไว้ก่อนหน้านี้ และบอกอีกว่าผลพวงที่จะตามมานั้นร้ายแรง และรัสเซียถือว่าอาวุธต่างๆ ที่ส่งมาให้ยูเครนนั้นจะต้องถูกทำลายเพื่อเป็นการป้องกันตัวของรัสเซีย

นี่ถือว่าเป็นการ “ลองของ” ครั้งสำคัญวัดใจผู้นำรัสเซีย แต่ก็เป็นเจตนาและเป้าหมายของสหรัฐฯ อยู่แล้วที่ต้องการเล่นงานรัสเซียทั้งการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ สงครามด้วยอาวุธผ่านตัวเบี้ยยูเครน มีผู้นำตัวตลกไม่ใส่ใจกับความพินาศของชาติ

ล่าสุดกองทัพรัสเซียได้สั่งให้มีการเตรียมพร้อม กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยว่ากองกำลังนิวเคลียร์กำลังซ้อมรบในเมืองอิวาโนโว ทางตะวันออกเฉียงเหนือของมอสโก ตามรายงานของสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์

อินเตอร์แฟกซ์รายงานโดยอ้างกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า กำลังพลราว 1,000 นายกำลังฝึกฝนในการซ้อมรบอันเข้มข้น โดยใช้ยานพาหนะมากกว่า 100 คัน ในนั้นรวมถึงแท่นยิงขีปนาวุธข้ามทวีป “ยาร์ส” เป็นการรับสถานการณ์ใหม่จากสหรัฐฯ

ดังนั้น ย่อมมองได้ว่านี่เป็นสงครามโดยตรงระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย เพียงแต่สหรัฐฯ ใช้ทหารของยูเครนรบแทน แต่มอบอาวุธร้ายแรงให้ ดังนั้น สงครามจึงอาจเป็นการโจมตีโดยตรงทันทีที่อาวุธรุ่นล่าสุดได้เข้ามาถึงยูเครน รัสเซียคงไม่ปล่อยไว้แน่

ถ้าพิจารณาแล้ว ฝ่ายสหรัฐฯ มีนาโต ประชาคมยุโรปและเครือข่ายพันธมิตรรวม 47 ประเทศที่ร่วมเล่นงานกินโต๊ะรัสเซีย 47 ต่อ 1 ก็น่าจะบอกได้ว่านี่เป็นสงครามโลก เพียงแต่สมรภูมิยังจำกัดอยู่ในยูเครน ซึ่งอาจขยายไปอีกถ้ารัสเซียทนแรงกดดันไม่ไหว


กำลังโหลดความคิดเห็น