ประกาศออกมาแล้ว จากทำเนียบขาวคือ กำหนดการเดินทางมาเยือนเอเชียครั้งแรกของปธน.ไบเดน ในระหว่างวันที่ 20-24 พ.ค.นี้ โดยจะไปเยือนเกาหลีใต้ก่อน แล้วตามมาด้วยการเยือนญี่ปุ่น
กำหนดการนี้ หลังการวางแผนมาเป็นอย่างดีด้วยการมอบหมายให้นายกฯ ญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ เดินทางเยือน 3 ประเทศในเอเชียก่อนคือ อินโดนีเซีย, เวียดนาม และไทย (ก่อนเดินทางไปเยือนอิตาลีและอังกฤษ) เพื่อปูทางเกลี้ยกล่อมทั้ง 3 ประเทศให้ตระหนักถึงจุดยืนนโยบายของสหรัฐฯ ในการคว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่งเป็นสงครามเศรษฐกิจที่สหรัฐฯ ทุ่มเข้าใส่รัสเซีย ในขณะที่ระดมพันธมิตรทั้งในจี 7, จี 20, อียู, นาโต, ควอด, ออกัส ทุ่มเข้าใส่ (Double Down) รัสเซียในสงครามตัวแทนที่ยูเครน
ที่ต้องเป็นวันที่ 20-24 พ.ค. ก็เพื่อรอเวลาให้ปธน.คนใหม่ของเกาหลีใต้ผ่านพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 10 พ.ค.นี้
ปธน.คนใหม่ของเกาหลีใต้นี้เป็นสายเหยี่ยวในด้านความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือและจีน ซึ่งตรงสเปกกับสหรัฐฯ เป็นอย่างยิ่ง...จะเป็นคอหอยกับลูกกระเดือกกับสหรัฐฯ ในการปิดล้อมจีนและนโยบายแข็งกร้าวกับเกาหลีเหนือ
ส่วนการเยือนอย่างเป็นทางการที่ญี่ปุ่นนั้น คงจะเน้นเพิ่มความแข็งกร้าวให้กับญี่ปุ่น ที่จะต้องเป็นเหยี่ยวมากยิ่งขึ้นกับจีน...เพราะรัฐบาลคิชิดะนั้นถูกมองว่ามาจากมุ้งที่เป็นสายพิราบในพรรคแอลดีพี รวมทั้งรมต.ต่างประเทศคนปัจจุบันก็เคยมีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมกับจีน...ประกอบกับอดีตนายกฯ อาเบะ ดูเหมือนจะยังไม่ยอมวางมือทางการเมืองคือแหวกม่านประเพณีของอดีตผู้นำที่น่าจะหันหลังให้กับนโยบาย และการบริหารของรัฐบาลปัจจุบัน.. .ตรงข้าม...อาเบะกลับออกมาชี้นำนโยบายของรัฐบาลคิชิดะ ถึงขนาดฟันธงให้สหรัฐฯ ออกมาประกาศให้ชัดเรื่องไต้หวัน ไม่ใช่อ้อมแอ้มครึ่งๆ กลางๆ ว่า เคารพนโยบายจีนเดียว แต่อีกด้านก็จะคุ้มครองไต้หวันจากการบุกรุกของจีน...ซึ่งบางคนก็มองว่า อาเบะล้ำเส้นกับนายกฯ คิชิดะ (หรือบางคนอาจมองว่าคิชิดะเป็นคนกระซิบให้อาเบะออกมาพูดในสิ่งที่เขาพูดเองไม่ได้...อีกไม่นานก็จะเห็นอาการที่คิชิดะจะปะทะกับอาเบะ หรือไม่งั้นคิชิดะก็จะเปลี่ยนเป็นเหยี่ยวมากขึ้นตามอาเบะต่อกรณีจีน)
ที่โตเกียว ไบเดนจะประชุม Quad แบบตัวเป็นๆ ครั้งแรก โดยจะมีนายกฯ โมดี ของอินเดีย และนายกฯ มอร์ริสันของออสเตรเลียมาพร้อมหน้าพร้อมตา
กลุ่ม Quad กำเนิดขึ้นในช่วงต้นปีที่แล้ว โดยความคิดริเริ่มของทีมงานความมั่นคงของสหรัฐฯ...แต่การประชุมครั้งแรกต้องทำผ่านวิดีโอลิงก์ เพราะการระบาดของโควิดยังสาหัสอยู่มาก
พอนายกฯ คิชิดะเข้ามารับตำแหน่งช่วงปลายปีที่แล้ว ก็ได้เสนอต่อไบเดนในการประชุมผ่านวิดีโอลิงก์ครั้งแรกกับไบเดนว่า น่าจะมีการประชุมพร้อมหน้าพร้อมตาตัวเป็นๆ ครั้งแรกที่ญี่ปุ่นโดยเร็วที่สุด โดยญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพ
นั่นเป็นข้อเสนอของคิชิดะ ก่อนรัสเซียบุกยูเครนด้วยซ้ำ
ก่อนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ไบเดนได้จัดตั้งกลุ่ม Quad และกลุ่ม AUKUS ซึ่งมีจุดประสงค์ปิดล้อมจีน (Peer Competitor ตัวฉกาจของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นภัยคุกคามความเป็นใหญ่ของสหรัฐฯ อย่างเห็นได้ชัด จนถึงขนาดท้าทายขนาดอาจเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ระเบียบโลกที่สหรัฐฯ ได้ตั้งขึ้นไว้ตั้งแต่สงครามโลกครั้งสองได้สิ้นสุดลง)
และเมื่อรัสเซียบุกยูเครน (24 กุมภาฯ) สหรัฐฯ ก็ได้ใช้ยูเครนเป็นสมรภูมิสงครามตัวแทนเพื่อทำให้รัสเซียอ่อนแอด้านกำลังรบ และอ่อนแอด้านเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกัน ทางด้านอินโด-แปซิฟิก มีการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจคือ หมู่เกาะโซโลมอนในมหาสมุทรแปซิฟิกทางตอนใต้ ได้ทำข้อตกลงอย่างแทบคาดไม่ถึงกับประเทศจีน ปูทางความร่วมมือทั้งด้านเศรษฐกิจ, สังคม และที่สำคัญคือด้านความมั่นคงกับจีน ซึ่งอาจไม่ช้าก็เร็วที่จีนจะสยายปีกมาสร้างเขตอิทธิพลครอบคลุมมหาสมุทรแปซิฟิกด้านใต้นี้ หลังจากได้สร้างฐานทัพในทะเลจีนใต้ (ถมเกาะทางตะวันตกของฟิลิปปินส์)...ซึ่งเป็นการท้าทายต่อกฎเกณฑ์ที่ว่า มหาสมุทรแปซิฟิกต้องเสรีและเปิดทั้งน่านน้ำและน่านฟ้า ซึ่งเป็นประกาศิตของสหรัฐฯ ตำรวจที่ยิ่งใหญ่ของโลกผู้สร้างระเบียบโลกแต่เพียงผู้เดียว
นายกฯ มอร์ริสันของออสเตรเลีย (สมาชิกสำคัญของกลุ่ม Quad และ AUKUS) ซึ่งเป็นนายอำเภอตัวแทนของสหรัฐฯ ทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก ออกมาแสดงความไม่พอใจและคัดค้านต่อข้อตกลงของผู้นำเกาะโซโลมอนและจีน...โดยบอกว่า เป็นการ “แอบทำ” ข้อตกลง ที่ไม่มีการหารือกับเพื่อนบ้านใกล้เคียงอย่างออสเตรเลียที่จะได้รับผลกระทบจากข้อตกลงนี้
ถึงขนาดหลุดปากออกมาว่า บางทีอาจถึงเวลาที่ออสเตรเลียจะต้อง “เข้าสู่สงคราม” ก็เป็นได้!
เพราะออสเตรเลียทุ่มสุดๆ ไปกับทรัมป์ที่ชี้ไปที่จีนว่าเป็นต้นตอต้นกำเนิดของเชื้อโรคโควิด โดยมีแผนร้ายจะทำลายชาวโลก...ถึงกับเห็นดีเห็นงามจะกล่าวโทษในศาลโลกว่า จีนอยู่เบื้องต้นแผนร้ายทำลายประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐฯ ยุโรป และออสเตรเลีย ด้วยการจงใจปล่อยเชื้อโควิดออกมา และต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายกับการระบาดของโควิดครั้งนี้
ก็โดนจีนโต้กลับว่า อ้าวแล้วที่ออสเตรเลียปกปิดแผนการทำข้อตกลง AUKUS ซึ่งทำเอาฝรั่งเศสโกรธจัดที่ถูกหักหลัง ที่ถูกฉีกสัญญาจะสร้างเรือดำน้ำปรมาณูให้ออสเตรเลียถึงประมาณ 20 ลำ...และเวลาทำข้อตกลง AUKUS ก็ทำเอาทั่วโลกตะลึงตั้งตัวไม่ทัน...ไม่มีการกระโตกกระตากหรือถามความเห็นจากประเทศเพื่อนบ้าน (เช่น เกาะโซโลมอน) แม้แต่น้อย!
การเดินทางมาเอเชียของไบเดนครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากเขาได้วางแผนประชุมสุดยอดกับผู้นำอาเซียน โดยคิชิดะเป็นผู้มากรุยทางหว่านล้อมผู้นำอาเซียนไว้ก่อน เพื่อให้เข้าพวกกับสหรัฐฯ คว่ำบาตรรัสเซีย
เวลาผ่านไปกว่า 2 เดือน ที่สหรัฐฯ ต้องให้น้ำหนักบัญชาการรบในยูเครน ทั้งส่งอาวุธหนัก รวมทั้งส่งผบ.กองทัพนาโตบางคนไปบัญชาการรบในยูเครน และยังเปิดกระเป๋าเงินมอบให้ยูเครนเป็น 3-4 หมื่นล้านเหรียญ เพื่อให้ซื้ออาวุธจากบริษัทผลิตอาวุธของสหรัฐฯ เช่น บ.เรย์ธีออน และมัวแต่กดดันอียูให้เลิกซื้อพลังงาน และสินค้าโภคภัณฑ์ (เช่นข้าวสาลี, อาหารสัตว์) จากรัสเซีย แต่พร้อมจัดส่งสินค้าของสหรัฐฯ ไปยังอียู เพื่อทดแทนสินค้าจากรัสเซีย
ตอนนี้ไบเดนจึงต้องรีบหันกลับมายังอินโด-แปซิฟิก เพื่อเดินหน้าปิดล้อมจีนให้เข้มงวดขึ้น หลังจากถูกรัสเซียฉวยจังหวะโลกเผชิญสงครามโควิด บุกตีพันธมิตรสหรัฐฯ ในยุโรป
และทำให้สหรัฐฯ ต้องรีบกลับมาจัดทัพในอินโด-แปซิฟิก ให้มั่นใจยิ่งขึ้นเพื่อกดดันจีนต่อไป