ข่าวปนคน คนปนข่าว
**งานนี้ยังเหลืออะไรให้กู้ “จุรินทร์” กู่ก้องไม่ขอลาออกจะอยู่เป็นซูเปอร์แมนกู้พรรค?
ในที่สุด พรรคประชาธิปัตย์ก็ทนกระแสสังคมกดดันไม่ไหว กรณีคดี “ปริญญ์ พานิชภักดิ์” อดีตรองหัวหน้าพรรค ทำให้ “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค จำต้องออกมาแถลงต่อหน้าสื่อ
“จุรินทร์” บอกว่า รู้สึกเสียใจและขอโทษประชาชน จากกรณีของ “ปริญญ์” พร้อมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ แก้ปัญหา และเยียวยาผู้เสียหาย
สำหรับคำถามจะแสดงสปิริตด้วยการลาออกจากหัวหน้าพรรค เพื่อรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเป็นคนที่ดึง “ปริญญ์” เข้ามา และผลักดันให้ตำแหน่งเป็นถึงรองหัวหน้าพรรค “จุรินทร์” ตอบคำถามว่าไม่ลาออก เพราะ “ไม่อยากทิ้งปัญหา” และเป็นความรับผิดชอบของหัวหน้าพรรคที่จะต้องแก้ไขเรื่องนี้ให้กระจ่าง
ส่วนที่มีคนกล่าวอ้างว่า ผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์เคยทักท้วง และคัดค้านการนำ “ปริญญ์” มาทำงาน จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสียหาย เพราะมีพฤติกรรมเรื่องชู้สาว แต่ “จุรินทร์” ไม่รับฟังและสั่งให้เคลียร์ประวัติของปริญญ์ ก่อนมารับตำแหน่งนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ “จุรินทร์” ไม่ขอตอบ และจะไม่เอ่ยย้อนไปเรื่องก่อนหน้านี้แล้ว
พร้อมกันนี้ ยอมรับว่า “คดีของปริญญ์” สร้างความเสื่อมเสีย และเสียหายกับพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างมาก วันนี้จึงตัดสินใจมาแถลงขอโทษ และยอมรับ ขณะเดียวกัน เรื่องนี้อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในการเลือกตั้งในวันข้างหน้า แต่ก็จะพยายามกู้ภาพลักษณ์ และชื่อเสียงของพรรคประชาธิปัตย์มาให้ดีที่สุด
นี่ก็เป็นตรรกะของ “จุรินทร์” ที่เหมือนตระเตรียมไตร่ตรองมาอย่างดีแล้ว แต่คำตอบที่สังคม หรือแม้แต่ ส.ส.ในพรรค หรือ อดีตสมาชิกพรรค อยากได้ยินว่า “อู๊ดด้า” จะรับผิดชอบอย่างไร ต่อการเป็นคนเอา “ปริญญ์” เข้าพรรค เสนอชื่อเป็นรองหัวหน้าพรรค โดยไม่ฟังเสียงทักท้วง ตรงนี้ต่างหากที่หลายคนอยากเห็น อยากได้ยิน!!
“จุรินทร์” เลี่ยงตอบ โดยบอกว่าจะไม่ย้อนไปพูดเรื่องเก่า แต่เท่าที่หลายคนยังจำได้ ไปขุดคุ้ยกันมา
ไม่กี่วันก่อนนั้น บอกไว้ว่า กรณีของปริญญ์ ตอนที่ “จุรินทร์” เสนอชื่อปริญญ์ ให้มาเป็นรองหัวหน้าพรรค และทีมเศรษฐกิจทันสมัย หรือ “ทีมอะเวนเจอร์” ท่ามกลางการไม่เห็นด้วยของ “พี่มาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค และ ส.ส.หลายคนที่รู้จักประวัติปริญญ์ดี ได้เคยทักท้วงและคัดค้าน แต่ปรากฏว่า “จุรินทร์” ยังยืนยันเสนอชื่อ “ปริญญ์” เพื่อต้องการ “สร้างภาพ” ให้เห็นว่า พรรคสามารถดึงคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาเป็นทีมอะเวนเจอร์
เมื่อตอนนี้ “อะเวนเจอร์ปริญญ์” ทำลายภาพลักษณ์พรรคปี้ป่น แต่คนสร้างอะเวนเจอร์ กลับไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ? ตราบเท่าที่ “จุรินทร์” ยังเป็นผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ ก็เชื่อว่าจะมีคำถามนี้ให้ต้องตอบเรื่อยๆ อย่างไม่ต้องสงสัย
แถมหากย้อนวันเวลากลับไป 15 พ.ค. 62 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เคาะเลือก “จุรินทร์” เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ หลังจาก “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งจากความพ่ายแพ้ในสนามเลือกตั้ง 2562
“จุรินทร์” ในวันนั้นได้แสดงวิสัยทัศน์ไว้ว่า จะเปลี่ยนแปลงพรรคประชาธิปัตย์อย่างมีวุฒิภาวะ และมีเป้าหมายสำคัญ จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์กลับมาครองใจประชาชนเช่นเดิม โดยเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงในพรรค และพร้อมทำงานร่วมกับทุกคน ให้สมาชิกทุกคน รวมถึงผู้สมัครหัวหน้าพรรคคนอื่นๆ เข้ามามีส่วนร่วมแบบ “อะเวนเจอร์” ไม่ใช่ให้หัวหน้าพรรคเป็น “ซูเปอร์แมน” เพียงคนเดียว
เกือบๆ 3 ปีผ่านไป คำพูดอดีตก็ย้อนแย้งกับสิ่งที่ทำในวันนี้ ปชป. ภายใต้การนำของ “จุรินทร์” ก็ยังไม่เห็นมีอะไรที่แตกต่าง ยังกู้ภาพลักษณ์กันไม่เสร็จ มาเจอคดีปริญญ์ เข้ามาอีก คราวนี้ยิ่งกู่ไม่กลับหลับไม่ตื่น ไม่รู้จะฟื้นหรือไม่
คำถามจึงมีว่า วันนี้ ปชป.ยังจะเหลืออะไรให้ “ซูเปอร์แมนจุรินทร์” กู้อีกหรือ? กู้เงินกู้ทองยังจะง่ายกว่ามั้ย
สำหรับคอการเมืองเขาพูดว่ากันว่า มีทางเดียวที่ ปชป. จะกู้ศรัทธาคืนมาได้ ก็คือ กรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรค ลาออกทั้งหมด
กรณี “ปริญญ์” ที่จุรินทร์เลือกมา เขาก็ว่าการเป็นรองหัวหน้าพรรคแล้วทำเรื่องได้ถึงขนาดนี้ และเคยมีเรื่องแบบนี้มาก่อน ทำไมถึงไม่ตรวจสอบให้ดี ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค มันไม่ใช่ตำแหน่งเล็กๆ ที่คัดเลือกเชียร์รับเข้ามาได้ง่ายๆ เลยหรือ ไม่มอง และตรวจสอบคุณสมบัติให้มันดี รอบคอบหรืออย่างไร ตอนหาเสียงก็คุยว่ามีคนเก่งคนดี คนมีฝีมือ แล้วเป็นไง? ความเชื่อถือมันหายหมด หมดความน่าเชื่อถือไปนานแล้ว
นี่ถ้า “จุรินทร์” ไปถามคอการเมืองเชื่อเถอะว่า ร้อยทั้งร้อย เขาจะบอกว่า “มันจบแล้วครับนาย”!
** “ดอน-ตู่” กินปูนร้อนท้องหรือเปล่า บอก “ไบเดน” เชิญไปคุย แต่ไม่เกี่ยวสงครามรัสเซีย-ยูเครน
สงกรานต์ผ่านไปแล้ว ซึ่งมีรายงานว่า “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ยังพักผ่อนอยู่ที่อังกฤษ วานนี้เลยต้องลาการประชุม ครม. แต่ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บอกว่า ไม่ใช่ไปพักผ่อน แต่เป็นการ “ไปทำงาน” ... นักข่าวเลยถามต่อว่า ได้ไปพบใครด้วยหรือไม่?
...ถามอย่างนี้เหมือนจะรู้อยู่แก่ใจทั้งคนถาม และคนถูกถาม ประมาณว่า หน้า “ทักษิณ ชินวัตร” ลอยเด่นมาทันที ... “ลุงตู่” เลยตอบด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความหงุดหงิด ไม่พอใจว่า “ถามอะไรแปลกๆ บ้าหรือเปล่า ไม่เคยสร้างสรรค์”...
ขณะที่ “ลุงตู่” เองก็มีคิวที่จะเดินทางไปกระทบไหล่ผู้นำสหรัฐอเมริกา อย่าง “โจ ไบเดน” เช่นกัน ...โดย “ดอน ปรมัตถ์วินัย” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ บอกว่า จะมีการจัดประชุมสุดยอดสหรัฐอเมริกา และผู้นำอาเซียน สมัยพิเศษ ที่กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 12-13 พ.ค.ที่จะถึงนี้ พร้อมกับพูดดักคอเอาไว้ว่า การที่ “ไบเดน” เชิญผู้นำประเทศในอาเซียนไปหารือครั้งนี้ อย่าเอาไปโยงกับเรื่องสงครามระหว่างรัสเซีย กับยูเครน เพราะมีการแพลนมานานแล้ว
“ลุงดอน” บอกว่า เดิมได้มีการพูดคุยถึงการวางกำหนดการประชุมผู้นำอาเซียน-สหรัฐฯ ตั้งแต่เดือน ต.ค. 64 แต่จัดวันลงตัวไม่ได้ เพราะการจะให้ผู้นำของประเทศอาเซียน 10 ประเทศ มาอยู่ร่วมกันนั้น เป็นไปได้ยาก ขณะที่ฝ่ายสหรัฐฯ ก็ยังไม่มีความพร้อมในช่วงเวลานั้น จึงได้เลื่อนกำหนดการประชุมดังกล่าวออกไป...เรื่องการประชุมนี้มีแผนมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ก่อนเกิดสงครามระหว่างประเทศรัสเซียกับยูเครน และไม่ได้เกี่ยวข้องกัน...“ลุงดอน” พูดย้ำอยู่หลายครั้งว่า อย่าโยง!!
ทั้งนี้ “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ส่งหนังสือเชิญอย่างเป็นทางการถึง “ลุงตู่” ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมาซึ่ง “ลุงตู่” จะเดินทางไปเอง ... “ลุงดอน” ยังบอกว่า หลังจากพบผู้นำสหรัฐฯในเดือน พ.ค.นี้แล้ว จากนั้นบรรดาผู้นำอาเซียน ก็จะพบผู้นำประเทศในสหภาพยุโรป (อียู) เป็นคิวต่อไป อาจจะเป็นช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า ซึ่งเรื่องนี้ก็มีการแพลนมานานแล้วเช่นกัน เพียงแต่ยังหาวันลงตัวไม่ได้
ดังนั้น ขอให้ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่การพบปะกันระหว่างผู้นำประเทศอาเซียน กับประเทศคู่เจรจา จะทำให้เกิดความแข็งแกร่ง และเป็นประโยชน์ในภูมิภาคอาเซียน อย่าโยงว่า สหรัฐฯต้องการพบผู้นำอาเซียน เพื่อเจรจาโน้มน้าวให้บอยคอต รัสเซีย ...ขออย่าโยง
พูดนั้นพูดได้ แต่ด้วยเงื่อนเวลา และสถานการณ์เช่นนี้ จะมาบอกว่าอย่าโยงเรื่องสงคราม คงหาคนเชื่อได้ยาก!!
อันที่จริง “ลุงตู่” กับ “ไบเดน” เคยพบกันแล้วในช่วงต้นเดือน พ.ย.ปี 64 ที่ “ลุงตู่” ไปประชุมระดับผู้นำรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 26 (COP26) ที่เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร โดยพบกันในงานเลี้ยงรับรองผู้นำที่เข้าร่วมการประชุม
ครั้งนั้น “ลุงตู่” ยังออกปากเชิญ “ไบเดน” มาเยือนไทย ในโอกาสที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ APEC ในเดือนพฤศจิกายนปีนี้
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า จะมีผู้นำในอาเซียนกี่ประเทศที่เดินทางไปรวมประชุมกับ “ไบเดน” ที่สหรัฐอเมริกา และนอกจากการหารือตามกรอบอาเซียนแล้ว จะมีการหารือในกรอบ “ทวิภาคี” หรือไม่
แม้ “ลุงดอน” จะพยายามบอกว่า การพบกันครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องสงครามรัสเซีย-ยูเครน...แต่ในสายตาของชาวโลก โดยเฉพาะ “วลาดิมีร์ ปูติน” ผู้นำรัสเซีย คงไม่มองอย่างนั้นแน่ ...ดังนั้น ทั้ง “ลุงตู่-ลุงดอน” ควรต้องพิจารณาให้รอบคอบอีกครั้ง ก่อนตัดสินใจ