xs
xsm
sm
md
lg

“จุดเปลี่ยน”ของสมรภูมิยูเครน!!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทับทิม พญาไท



วันนี้...คงต้องขออนุญาตเก็บใบไม้มาพลิกซ้าย-พลิกขวากันทีละใบ หรืออาจต้องชวนให้ลงลึก ไปฟังการวิเคราะห์เจาะลึกถึงความสำเร็จใน “ปฏิบัติการทางทหาร” ของกองทัพหมีขาวรัสเซียช่วงล่าสุด ที่ว่ากันว่าน่าจะสามารถยึดพื้นที่ดินแดน แถบภาคตะวันออกของยูเครน ที่เพิ่งประกาศตัวในนาม “สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์” (Donetsk People’s Republic) และ “สาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์” (Luhansk People’s Republic) ซึ่งรัฐสภาและรัฐบาลรัสเซีย ได้ให้การรับรองไปเมื่อไม่นานมานี้ หรือดินแดนที่เรียกรวมๆ กันในนามภูมิภาค “ดอนบาสส์” (Donbass) ได้แบบค่อนข้างจะเบ็ดเสร็จและเด็ดขาด หรือต้องเรียกว่า...เรียบโร้ยย์ย์ย์โรงเรียนหมีขาวอย่างมิมีทางหลีกเลี่ยงไปเป็นอื่น โดยเฉพาะเมืองท่าสำคัญที่ตั้งอยู่แถวๆ ปากแม่น้ำคัลมิอุส (Kalmius) ที่เรียกขานกันในนามเมือง “มาริอูโปล” (Mariupol) นั่นแล...

คือการยึดเมืองๆ นี้...หรือการยื่นคำขาดเมื่อช่วงวันอาทิตย์ (17 เม.ย.) ที่ผ่านมา ให้บรรดาทหารในกองทัพยูเครน ซึ่งไม่ใช่มีแค่พวก “นาซีใหม่” แห่ง “กองพันอาซอฟ” หรือ “Azov battalion” ที่พยายามยื้อ พยายามฉุดกระชากลากถู ไม่คิดยอมถอย ยอมแพ้เอาง่ายๆ แต่ยังมีบรรดาทหารอเมริกัน ทหารอังกฤษ ทหารสวีเดน ฯลฯ ที่แปลงสภาพ แปลงกาย ไปเป็นทหารยูเครน และพยายามยึดฐานที่มั่นแห่งสุดท้ายแถวๆโรงงานเหล็กที่เรียกๆ กันว่า “อาซอฟสตัล” (Azovstal) ให้ยอมวางอาวุธแต่โดยดี เพราะบริเวณรอบๆ ของเมืองแห่งนี้ ได้ถูกทหารรัสเซียยึดเอาไว้หมดแล้ว ไม่ต่างไปจากแทบทุกตารางนิ้วในพื้นที่สาธารณรัฐลูฮันสก์และโดเนตสก์ ที่ได้รับ “การปลดปล่อย” ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 93 และกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ต้องถือเป็นความเคลื่อนไหวทางทหารที่มีความสำคัญเอามากๆ ถึงขั้นที่สื่อทางการของจีน อย่าง “Global Times” เขาถึงกับจั่วหัวเอาไว้ในข้อเขียนบทความชิ้นล่าสุด เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา โดยผู้เชี่ยวชาญทางทหาร อย่าง “Chen Qingqing” และ “Xu Yelu” ถึงขั้นว่า... “Mariupol capture could be a crucial turning point for Ukraine-Russia conflict” หรือถือเป็นกุญแจที่สำคัญเอามากๆ ต่อการคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งรัสเซียและยูเครน เอาเลยถึงขั้นนั้น!!!

อย่างไรก็ตาม...สำหรับผู้สนใจในเรื่องรายละเอียดของใบไม้ในแต่ละใบ ก่อนอื่นคงต้องขอแนะนำให้ลองไปหาอ่านข้อเขียน บทความ ของอดีตท่านทูตอินตะระเดีย คอลัมนิสต์เอเชียไทมส์ ออนไลน์ อย่างท่านทูต “เอ็ม.เค. ภัทรกุมาร” (M.K. Bhadrakumar) ที่สำนักข่าว “ผู้จัดการ” ของหมู่เฮา ได้นำมาแปลและเรียบเรียง ถ่ายทอดเอาไว้เมื่อไม่กี่วันมานี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อเขียน บทความ เรื่อง “Donbass still remains key battleground” หรือที่จั่วหัวเป็นภาษาไทยเอาไว้ว่า “ฝ่ายรัสเซียยืนยันว่าดอนบาสส์ คือสมรภูมิสำคัญที่สุดของปฏิบัติพิเศษในยูเครน” ไปจนบทความเรื่อง “Russia’s Ukraine operation has no deadline” ที่จั่วหัวเป็นภาษาไทยว่า “ปูตินบอกว่าการปฏิบัติการของรัสเซียในยูเครนนั้น ไม่มีกำหนดสิ้นสุด” ซึ่งได้รับการเผยแพร่ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 4 เมษายนและ 17 เมษายน ตามลำดับ เพราะการให้ข้อมูล รายละเอียด และคำอธิบายของท่านทูตอินตะระเดียรายนี้ สามารถให้ความกระจ่างชัด หรือให้ภาพชัดเจนต่อสิ่งที่ฝ่ายรัสเซียเขาเรียกๆ ว่า “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” ในยูเครน ที่ไม่ใช่แค่การคิดจะบุกยูเครน ยึดยูเครน แต่อย่างใด หรือเป็นปฏิบัติการที่มุ่งไปสู่การ “Demilitarization” และ “Denazification” การมุ่งที่จะหาทางทำให้ประเทศยูเครนไม่ถูกแปรสภาพไปเป็นเครื่องมือทางการทหารของคุณพ่ออเมริกาและนาโต รวมทั้งการทำให้บรรดาพวก “นาซีใหม่” ในยูเครนหมดฤทธิ์ หมดเดช หมดสภาพลงไปนั่นเอง...

พูดง่ายๆ ว่า...โดยเป้าหมาย หรือโดยจุดมุ่งหมายหลักๆ ของฝ่ายรัสเซียเขาตั้งแต่แรก คงไม่ได้คิดรวบหัว รวบหาง หรือคิดจะยึดดินแดนประเทศยูเครนเอาไว้แบบทั้งกะบิ เพียงแต่ต้องการให้พื้นที่ ดินแดน อันเต็มไปด้วยบรรดาชาวยูเครนที่พูดภาษารัสเซีย และยังคงมีสายใยผูกพันอยู่กับประเทศรัสเซีย หรือที่เรียกๆ กันว่าภูมิภาค “ดอนบาสส์” อันประกอบไปด้วยแคว้น “โดเนตสก์” และ “ลูฮันสก์” ซึ่งถูกกด ถูกบีบ หรือถูกเข่นฆ่าสังหารล้างเผ่าพันธุ์โดยบรรดาพวกนิยมนาซีในยูเครน ตายไปเป็นหมื่นๆ จนต้องพยายามหาข้อยุติ ข้อตกลง กันที่เมืองมินสก์ ประเทศเบลารุส เมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว แต่ก็ยังมิวายถูกบุก ถูกกดดัน โดยบรรดาทหารยูเครน หรือโดยพวกนาซีใหม่ที่ได้รับการหนุนหลัง การฝึกอบรม จากคุณพ่ออเมริกานั่นเอง ได้กลายมาเป็นพื้นที่ที่สามารถพิทักษ์ปกป้องตัวเองได้ ไม่ว่าจากโดยกองทัพยูเครน หรือแม้กระทั่งกองทัพอเมริกาและนาโตที่พยายามขยายอำนาจ อิทธิพล โดยอาศัยดินแดนยูเครนเป็นช่องทางและโอกาส...

ดังนั้น...เมื่อสามารถทำให้พื้นที่อย่าง “โดเนตสก์” และ “ลูฮันสก์” เป็นไปดังที่ตั้งเป้าหมาย เป้าประสงค์ เอาไว้ได้แล้ว ถ้าว่ากันตามความคิด ความเห็น ของผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์ อย่าง “Wang Yiwei” ผู้อำนวยการแห่งสถาบัน “The Institute of International Affairs” มหาวิทยาลัยเหรินเหมินแล้ว พื้นที่และดินแดนทั้ง 2 แห่งนี้ ก็จะไปเชื่อมต่อกับดินแดนไครเมียที่ได้ผนวกตัวเองเข้ากับรัสเซียเมื่อหลายต่อหลายปีที่แล้ว กลายเป็น “ระเบียงทางยุทธศาสตร์” หรือเป็น 3 จุดยุทธศาสตร์ที่ใครจะเข้าไปยุ่มย่าม ยั้วเยี้ยได้ยากเอามากๆ โดยเฉพาะการยึดครองเมืองท่าอย่าง “มาริอูโปล” ในแคว้นโดเนตสก์ ที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในดินแดนดอนบาสส์ เป็นอันดับ 10 ในดินแดนยูเครน หรือเป็นเมืองอุตสาหกรรมและศูนย์กลางการค้าข้าวแต่เพียงเท่านั้น แต่ยังถือเป็นเมืองท่าที่สามารถผ่านทะลุเข้าไปยังเมือง “เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก” ของรัสเซียได้แบบสบายๆ...

การที่กองทัพหมีขาวรัสเซียสามารถยึดเมืองท่าแห่งนี้เอาไว้ได้แล้ว ไม่ว่าพวกนาซีใหม่ในยูเครนไปจนถึงทหารอเมริกัน อังกฤษ สวีเดน ฯลฯ ที่จำแลงแปลงกายไปเป็น “กองพันอาซอฟ” จะเพียรพยายามยื้อไป-ยื้อมา เพียงใดก็แล้วแต่ มันจึงไม่ต่างไปจากการเชื่อมต่อดินแดน “ลูฮันสก์-โดเนตสก์-ไครเมีย” ให้กลายไปเป็น “ระเบียงทางยุทธศาสตร์” ที่สามารถควบคุมทะเลอาซอฟและทะเลดำได้แบบทั่วทั้งแผง หรือทำให้ดินแดนเหล่านี้รวมไปถึงประเทศรัสเซียทั้งประเทศ มีโอกาสรับมือกับกองทัพอเมริกันและนาโต รวมไปถึงสวีเดนและฟินแลนด์ที่คิดจะสามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิกรายใหม่ล่าสุดก็ตามแต่ ได้แบบไม่ถึงกับต้องหายใจทางปาก หรือทางเหงือก ต่อไปอีกแล้ว!!!

อันนี้นี่เอง...ที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์ชาวจีนเขาเลยมองว่า ถือเป็นการบรรลุเป้าหมาย เป้าประสงค์ แห่งการ “Demilitarization” ของรัฐบาลรัสเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หรือการยึดเมืองท่าสำคัญๆ อย่างมาริอูโปล ไม่ได้มีความหมายในเชิง “สัญลักษณ์” แต่เพียงเท่านั้น แต่ถือเป็น “ความจริงทางยุทธศาสตร์” ที่น่าจะทำให้ฝ่ายยูเครน หรือประธานาธิบดี “โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้” คงต้อง “ตื่นจากความฝัน” ได้แล้ว และนั่นเอง...ที่น่าจะนำมาซึ่ง “จุดเปลี่ยน” อย่างฉกาจฉกรรจ์ในการหาข้อยุติ หาจุดลงตัว ในเรื่องความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน แม้ว่าคุณพ่ออเมริกาและนาโตพยายามที่จะยื้อทุกสิ่งทุกอย่างไม่ให้จบ ไม่ให้เกิดการหาข้อยุติกันง่ายๆ ไม่ว่าด้วยความพยายามส่งเงิน ส่งอาวุธ หรือกระทั่งแอบส่งทหารอเมริกัน อังกฤษ เข้าไปตั้งฐานบัญชาการในโรงงานเหล็กอาซอฟสตัล ไว้เป็นที่มั่นแห่งสุดท้าย...

แต่ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมันต้านไม่ได้ ยื้อไม่ได้ อีกต่อไปแล้ว!!!...การยอมแพ้ ยอมวางอาวุธของบรรดาพวกนาซีใหม่และ “นักรบรับจ้าง” ในเมืองท่ามาริอูโปล หลังจากพ้น “เส้นตาย” ที่กองทัพหมีขาวเขาขีดไว้ให้ จึงน่าที่จะทำให้การหันกลับมาสู่ “โต๊ะเจรจา” ระหว่างยูเครนกับรัสเซีย น่าจะเป็นไปได้เพิ่มขึ้นไปเท่านั้น ขณะที่คุณพ่ออเมริกาและนาโต หรือบรรดาพันธมิตรตะวันตกทั้งหลาย คงน่าที่จะต้องหันไปหายใจทางปากและทางเหงือก ในการแก้ปัญหา “เงินเฟ้อ” ภายในประเทศตัวเองกันต่อไปได้แล้ว ก่อนที่แต่ละสิ่งแต่ละอย่างมันจะพังครืน หรือใกล้ๆ จะถึงจุด “ล่มสลาย” ยิ่งเข้าไปทุกที...


กำลังโหลดความคิดเห็น