xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ยุทธการเดิน 2 ขา ป้อมคุม พปชร. ตู่คุมก๊ก กปปส.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สันติ พร้อมพัฒน์ - พล.อ.ธัญญา เกียรติสาร - พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ - เสกสกล อัตถาวงศ์
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - การประชุมใหญ่สามัญพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 3 เมษายน อาจดูไม่มีอะไรหวือหวา โดยเฉพาะตำแหน่งเลขาธิการพรรค ที่ สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง สมหวังได้นั่งสำเร็จ

แม้เก้าอี้เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐตัวนี้ จะไม่ได้ทำให้ สันติก้าวขึ้นไปเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง เพื่อให้ศักดินาแม่บ้านพรรคเบอร์หนึ่งของรัฐบาล แต่สำหรับ สันติ แล้ว เก้าอี้ตัวนี้สามารถต่อยอดในอนาคตได้

โดยเฉพาะการได้นั่งเป็นแม่บ้านพรรคสู้ศึกเลือกตั้ง ที่หากพรรคพลังประชารัฐได้กลับมาเป็นรัฐบาล สันติ ย่อมได้นั่งหวนคืนเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอยู่ดี

หากได้เป็นรัฐบาลรอบหน้า สันติ จะไม่ถูกขวางให้นั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกรดเออีกแล้ว เพราะวันนี้เข้าได้ทั้งมูลนิธิป่ารอยต่อฯ ของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และตึกไทยคู่ฟ้าของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม

ไม่เหมือนกับตอนตั้งรัฐบาลครั้งแรก ที่ สันติ ถูกกีดกันอย่างหนักไม่ให้นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกรดเอ เพราะภาพลักษณ์ยี้ในอดีต จากการเป็นเด็กเก่าของ ทักษิณ ชินวัตร ทั้งที่ผลงานในสนามเลือกตั้ง สันติ สามารถเหมาจังหวัดเพชรบูรณ์มาให้พรรคพลังประชารัฐได้

ช่วงนั้น “บิ๊กตู่” ยังมีอคติกับคนที่ย้ายขั้วมาจากระบอบทักษิณมาก ขนาด สันติพยายามพรีเซนต์ตัวเองในช่วงที่กระทรวงการคลังไม่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวง จากการที่ ปรีดี ดาวฉาย ตัดสินใจลาออก แต่ถูกบล็อกไม่ให้อัพเกรดอยู่ดี

แต่งวดหน้าทางเปิดเต็มที่ “บิ๊กตู่” คงไม่ขวางอีก เพราะในเหตุการณ์ที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ทำตัวเป็นกบฏ หวังตลบหลังบิ๊กตู่ ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งก่อน สันติ คือคนที่ทำให้แผนของ ร.อ.ธรรมนัส ล้มเหลว พร้อมกับระดมส.ส.มาช่วย บิ๊กตู่

เหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้ “บิ๊กตู่”มีทัศนคติที่เปลี่ยนไปกับ สันติ และปัจจุบันสันติ สามารถเข้านอกออกในตึกไทยคู่ฟ้าได้ตลอด ต่างกับแต่ก่อนที่ไปได้แต่มูลนิธิป่ารอยต่อฯเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจของการประชุมใหญ่พรรคพลังประชารัฐที่ จ.นครราชสีมาที่ผ่านมา คือการแต่งตั้ง 2 อดีตนายทหารมาเป็นกรรมการบริหาร นั่นคือ “บิ๊กอี๊ด” พล.อ.ธัญญา เกียรติสาร อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 และ “เสธ.โย” พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ อนุกรรมการฝ่ายหารายได้ มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ที่มี “บิ๊กป้อม” เป็นประธาน

แน่นอนว่า แม้จะมียศระดับ พล.อ. แต่ทั้งสองคนไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากนัก เพราะภารกิจส่วนใหญ่คือการช่วยงาน “บิ๊กป้อม” อยู่เบื้องหลัง

“เสธ.โย” หรือ พี่โย ที่ส.ส.และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐเรียก คือเงาตามตัวของ “บิ๊กป้อม” เป็นเสนาธิการประจำ รมว.กลาโหม สมัยบิ๊กป้อม ยังไม่ขาลอยเหมือนทุกวันนี้

หลังเกษียณอายุราชการแล้ว ยังช่วยงาน “บิ๊กป้อม” อยู่ ใครเข้ามูลนิธิป่ารอยต่อฯ จะคุ้นเคยดี เพราะจะเจอ “เสธ.โย” ทุกครั้งเพื่อทำภารกิจให้เจ้านาย

หาก ส.ส. หรือสมาชิกคนใดต้องการความช่วยเหลือ หรือต้องการจะขออะไร “บิ๊กป้อม” หากตกปากรับคำจะช่วย จะสั่งการให้ “เสธ.โย” ไปดำเนินการ เรียกว่าเป็นฝ่ายปฏิบัติ

พูดง่ายๆ คือ บิ๊กป้อม สั่ง เสธ.โย ทำ

“เสธ.โย” อยู่ในพรรคพลังประชารัฐมาโดยตลอด เพียงแต่ที่ผ่านมาผู้คนไม่สนใจ เพราะนายทหารรอบตัวบิ๊กป้อมมากมายก่ายกองไปหมด

ขณะที่ “บิ๊กอี๊ด” อดีตนายทหารคนนี้มีข่าวพัวพันกับพรรคพลังประชารัฐมาโดยตลอด ตั้งแต่สมัยนั่งเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 ถือว่าโด่งดังในภาคอีสาน ในช่วงการเลือกตั้งปี 2562

มีคนตั้งข้อสังเกตว่า “บิ๊กอี๊ด” ถูกส่งเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งถือเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทย และตระกูลชินวัตร เพียงแต่การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 สามารถตัดคะแนนของพลพรรคสีแดงมาไม่ได้มากมายนัก


“บิ๊กอี๊ด” เป็นทหารสายบูรพาพยัคฆ์ เหมือนกับ “เสธ.โย” โดยอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 รายนี้ ยังเป็นน้องรักของ “บิ๊กเยิ้ม” พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร สมาชิกวุฒิสภา และอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อนซี้นักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 12 หรือ ตท.12 ของ “บิ๊กตู่”

“บิ๊กเยิ้ม” คือบุคคลสำคัญที่มีส่วนผลักดันให้ “บิ๊กอี๊ด” ขึ้นมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้

และจริงๆแล้วนายทหารที่ทำงานช่วย “บิ๊กป้อม” ในพรรคพลังประชารัฐไม่ได้มีแค่ “เสธ.โย” และ “บิ๊กอี๊ด” แต่ยังมี “พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ” อดีตปลัดกระทรวงกลาโหมอีกคน ซึ่งถือเป็นน้องรักของบิ๊กป้อม ที่เป็นคณะทำงานไปไหนมาไหนด้วยกันทุกที่

เพียงแต่ที่ไม่มีชื่อของ “บิ๊กณัฐ” ในคณะกรรมการบริหารพรรค เพราะยังมีเรื่องรัฐธรรมนูญที่อดีต ผบ.เหล่าทัพ ซึ่งเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่ง จะต้องเว้นวรรคทางการเมือง 2 ปี ถึงจะดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้

เหตุนี้เลยต้องรอปลดล็อก ครบพ้นตำแหน่ง 2 ปีไปก่อน

การตั้งอดีตนายทหารมานั่งกรรมการบริหารพรรค หลายคนมองว่า “บิ๊กป้อม” ต้องการยึดพรรคแบบเบ็ดเสร็จ และกันท่าไม่ให้ “บิ๊กตู่” เข้าแทรกแซง แต่ข้อเท็จจริงแล้วไม่เช่นนั้น เพราะพรรคพลังประชารัฐเป็นของบิ๊กป้อมอยู่แล้ว ต่อให้ไม่ต้องแต่งตั้งคนของตัวเองเข้ามาก็ใหญ่ที่สุดอยู่ดี

แต่การดึงขึ้นมาอยู่หน้าฉาก เป็นการส่งสัญญาณให้เห็นต่างหากว่า “บิ๊กป้อม” ยังเอาจริงเอาจังกับการทำพรรคพลังประชารัฐสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า

และชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่จะเสนอยังเป็น “บิ๊กตู่” หลังจากความสัมพันธ์ของสองพี่น้องเริ่มดีขึ้นตามลำดับ


ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติที่ “แรมโบ้อีสาน” เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีไปตั้งไว้ คงไม่ไปห้ามให้พับโปรเจกต์ เพราะจุดประสงค์ของพรรคนี้คือ การตั้งกองกำลังให้ “บิ๊กตู่” ให้มี ส.ส.ในมือ ไม่ให้ถูกกดดัน

พรรครวมไทยสร้างชาติ จะเป็นการรวมตัวของอดีตกปปส. และคนที่ทำงานอยู่กับฝ่าย “บิ๊กตู่” ไม่ได้ทำมาแข่งกับพรรคพลังประชารัฐ

เพียงแต่ไม่ให้ บิ๊กตู่ ขาลอยเท่านั้น



กำลังโหลดความคิดเห็น