ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ภายนอกเหมือนพี่น้อง 3 ป. “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย จะกลับมาแน่นแฟ้นมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน ยังดูเหมือน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย จะถูกลอยแพ กลายเป็นหมาหัวเน่า
โดยเฉพาะช็อตล่าสุดที่ “บิ๊กป้อม” เรียกพรรคปัดเศษที่ทำตัวเป็นหอกข้างแคร่ เข้าไปเป่ากระหม่อมที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ไม่ให้ทำตัวเป็นม้าพยศของ “บิ๊กตู่” หลังสุมหัวโซ้ยข้าวกับ ร.อ.ธรรมนัส
แต่สิ่งที่เห็นกับความจริงที่เกิดขึ้นเป็นคนละเรื่อง…. พี่น้อง 3 ป. ยังไม่ได้กลับมาผนึกเป็นหนึ่งเหมือนวันวาน ในทางกลับกัน “พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์” กลับยิ่งเดินเกมกดดันน้องเลิฟทั้งสองคนอย่างหนักอยู่
หากสังเกตรายชื่อ ส.ส.พรรคปัดเศษที่เข้าไปมูลนิธิป่ารอยต่อฯ ล้วนเป็นคนที่สนิทสนมกับ ร.อ.ธรรมนัส ทั้งนั้น ในขณะที่ส.ส.ปัดเศษสายหนุน “บิ๊กตู่” กลับไม่ได้ถูกเรียกไปแต่อย่างใด
นั่นเพราะการเรียกเข้ามูลนิธิป่ารอยต่อฯครั้งนี้ จุดประสงค์แท้จริงคือ ต้องการประกาศให้รู้ว่า คนที่คอนโทรลพวกหอกข้างแคร่เหล่านี้ได้คือ “บิ๊กป้อม” ต่างหาก
การที่ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และรักษาการผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ สามารถนัดพรรคปัดเศษพวกนี้ไปรับประทานอาหารกับ “บิ๊กตู่” ได้ ไม่ได้หมายความว่า พวกนี้จะเชื่อฟัง บิ๊กตู่
ดูปฏิกิริยาของ “บิ๊กป้อม”ในเช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากถกกับพรรคปัดเศษพวกนี้เสร็จสิ้นในมูลนิธิป่ารอยต่อฯได้เลย ที่ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า “เขาก็แล้วแต่ผม”
มันเป็นการประกาศให้ได้ยินถ้วนทั่ว แม้แต่ “บิ๊กตู่” เองว่า “บิ๊กป้อม” คือคนที่สามารถสั่งพรรคปัดเศษเหล่านี้ซ้ายหัน ขวาหันได้ พูดง่ายๆ คือเป็นเจ้าของ
มันไม่ต่างอะไรกับก่อนหน้านี้ที่ “บิ๊กป้อม” ออกมายืนยันตลอดว่า พรรคเศรษฐกิจไทยสนับสนุนรัฐบาล ทั้งๆ ที่คนในพรรคเศรษฐกิจไทย ยังทำตัวก้ำกึ่ง หนักไปทางปั่นประสาท “บิ๊กตู่” ด้วยซ้ำ
พรรคเศรษฐกิจไทย มีว่าที่หัวหน้าพรรคคือ “บิ๊กน้อย” พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ มีศักดิ์เป็นน้องรักของ “บิ๊กป้อม” และเป็นคนที่ บิ๊กป้อม ส่งไปนั่งกุมบังเหียนพรรคสาขาด้วยตัวเอง มีหรือที่ระดับพี่ใหญ่ทุบโต๊ะ แล้วพวกนี้จะยังทำตัวเกเร ไม่เชื่อฟัง
เว้นเสียแต่ว่า พรรคเศรษฐกิจไทยถูกมอบหมายให้เล่นบทหอกข้างแคร่ โดยมีคนที่พวกนี้เชื่อฟังคอยให้ท้ายมาโดยตลอด
และแน่นอนว่า ไม่ใช่ ร.อ.ธรรมนัส เพราะร.อ.ธรรมนัส เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งในกระดานที่ผู้อยู่เบื้องหลังต้องการให้เล่นบทบาทนี้ เพื่อต้องการต่อรองอะไรบางอย่างเท่านั้น
พรรคเศรษฐกิจไทย ไม่ใช่พรรคของ ร.อ.ธรรมนัส แต่ ร.อ.ธรรมนัส เป็นเพียงลูกน้องที่ถูกสั่งให้มาช่วยดูแลพรรคนี้ เจ้าของตัวจริงคือใคร เด็กประถมก็นึกออก
ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย 18 ชีวิต อาจมีหลายคนสนิทกับ ร.อ.ธรรมนัส แต่เกือบทั้งหมดคือ คนของ “บิ๊กป้อม” ที่ถูกส่งไปอยู่พรรคสาขา
บิ๊กป้อม ประกาศิตคำเดียวพวกนี้พร้อมปฏิบัติตามทั้งหมด หากบอกให้สนับสนุน บิ๊กตู่ ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งแน่ แต่ทุกวันนี้ทำไมจึงยังกล้าฝืนคำสั่ง คอยจิกกัด บิ๊กตู่ อยู่
ประกาศิต บิ๊กป้อม ไม่ขลังแล้ว หรืออย่างไร หรือว่าเพราะที่ผ่านมา บิ๊กป้อม ไม่เคยสั่งให้หยุดต่างหาก
ที่สำคัญ “ร.อ.ธรรมนัส” คือ ลูกน้องของ “บิ๊กป้อม” ระดับพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์มากคอนเนกชั่น จะปราบพยศ ร.อ.ธรรมนัสไม่ได้ แค่ชี้นิ้วสั่งให้หยุดก็ต้องหยุด เพราะคนที่คุ้มกะลาหัวอดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐรายนี้ได้ตอนนี้มีเพียง บิ๊กป้อม คนเดียวเท่านั้น
ต่อให้ ร.อ.ธรรมนัส จะนักเลงขนาดไหนก็ไม่กล้างัดกับพี่ใหญ่แห่งมูลนิธิป่ารอยต่อฯ แต่ที่ยังไม่หยุด ก็เพราะมีบางคน ได้ประโยชน์จากการทำตัวเป็นหอกข้างแคร่ ของ ร.อ.ธรรมนัสหรือไม่
แล้วใครคือ คนที่ได้ประโยชน์ ตอนนี้ก็เห็นจะมีเพียงคนเดียว
ดังจะเห็นว่า ตั้งแต่ ร.อ.ธรรมนัสทำตัวเป็นหอกข้างแคร่ พี่น้อง 2 ป. อยู่ในอาการหวาดระแวง บิ๊กป้อม มาโดยตลอด แล้วหันกลับมาพินอบพิเทาเป็นพิเศษ ตั้งแต่การกลับไปรับประทานอาหารร่วมกัน ตลอดจนการกอดกันโชว์สื่อ เพื่อต้องการแสงให้เห็นว่า 3 ป. ยังเหนียวแน่น
เพราะ ร.อ.ธรรมนัส หรือไม่ ทำให้ 2 ป. ยังต้องเกรงใจ บิ๊กป้อม อยู่ ถ้าไม่มีกรณีของ ร.อ.ธรรมนัส ไม่รู้ว่า 2 ป.จะยังเกรงใจพี่ใหญ่อยู่หรือเปล่า
เพราะก่อนมีปัญหา “บิ๊กป้อม” แทบจะถูกน้องๆ ริบอำนาจไปแทบหมด ตั้งแต่การถูกหั่น รมว.กลาโหม ให้ต้องนั่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีอย่างเดียว เท่านั้นยังไม่พอ “บิ๊กตู่” ยังดึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปดูเอง
ทำให้ บิ๊กป้อม กลายเป็นคนขาลอย มีเพียง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐอย่างเดียวที่ยังทำให้ตัวเองพอมีอำนาจ และน้องๆยังเกรงใจ
ซึ่งคนระดับ บิ๊กป้อม ไม่ได้แฮปปี้กับการนั่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีคุมแค่การบริหารจัดการน้ำแน่
และหากจะต้องการถ่วงดุลอำนาจ ก็มีเพียงส.ส.ที่มีพลังมากที่สุดในการใช้ต่อรองกับน้อง หรือ ทำให้น้องยังต้องพึ่งพาตัวเองอยู่
และการเคลื่อนไหวของ ร.อ.ธรรมนัส และพรรคปัดเศษ จะไม่มีวันกลับมาเป็นเด็กดี ตราบใดยังไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการได้
จับตาดูให้ดี การปรับคณะรัฐมนตรีที่กำลังจะมีขึ้น มันอาจจะเป็นในส่วนโควตาของ “บิ๊กป้อม” แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพียงแต่จะไม่มีชื่อของ ร.อ.ธรรมนัส ที่อย่างไรน้องเลิฟ ย่อมไม่ยอม
หาก รมว.มหาดไทยไม่ได้ อย่างน้อยโควตาที่มีก็ต้องของพี่ทั้งหมด
“บิ๊กน้อย” ในฐานะหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย และ “เสี่ยโต” อภิชัย เตชะอุบล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ย้ายมาซบพรรคพลังประชารัฐ คือแคนดิเดต ที่คาดว่าจะถูกเสนอชื่อ
ซึ่งทั้งคู่คือสายตรง บิ๊กป้อม ซึ่งบิ๊กตู่ อาจต้องยอมหากจะลดแรงกระเพื่อม ก่อนศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ
แล้ววันนี้พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์แสดงบทบาทเองแล้ว ตั้งแต่การพูดเรื่องยุบสภาหลังเอเปก ที่หลายฝ่ายมองว่า เป็นการส่งสัญญาณให้เห็นว่า คือผู้ที่ชี้ชะตารัฐบาลได้ตัวจริง
และเป็นการกดดันน้องเลิฟทางอ้อม