xs
xsm
sm
md
lg

อเมริกา-ยุโรป...ใกล้แพ้ด้วยกันทั้งคู่!!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทับทิม พญาไท



เพียงแค่ได้ยิน “ข่าวล่า-มาเรือ” ว่าการเจรจาระหว่างหมีขาวรัสเซียกับยูเครน...ที่เจ๊าะๆ แจ๊ะๆ มาประมาณ 4 รอบ ณ ประเทศเบลารุส น่าจะหาข้อยุติ หาจุดลงตัว กันได้มั่งแล้ว “ราคาน้ำมัน” ที่เคยพุ่งพรวดๆ พราดๆ ไปถึง 130 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทำเอาประเทศเล็ก-ประเทศน้อย หรือประเทศที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลย ต่างร้องเจี๊ยกๆ จ๊ากๆไปตามกัน ก็มีอันลดฮวบๆ ฮาบๆ ลงมาเหลือแค่ 99.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเท่านั้นเอง ไม่ได้คิดทะลุโด่งไปถึงอวกาศ หรือถึงระดับ 300 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่งผลให้โลกทั้งโลก...พอได้หายใจทางปาก ไม่ใช่ต้องหายใจทางเหงือกกันไปโดยตลอด...

ยิ่งถ้าหาก “น้ำมันอิหร่าน” สามารถไหลสะพัดเข้าสู่ตลาดโลก อันเนื่องมาจากความสำเร็จในการกอบกู้ข้อตกลง “JCPOA” ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ที่น่าจะเข้าสู่ “ยกสุดท้าย” หลังเริ่มต้นเจรจามาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว หรือเนื่องมาจากการยกเลิกข้อกีดกัน ยกเลิกการแซงชั่น ของคุณพ่ออเมริกา ได้เป็นที่เรียบร้อย รวมทั้ง “น้ำมันเวเนซุเอลา” ที่ถูกห้ามซื้อ-ห้ามขาย เพราะคุณพ่ออเมริกาทั่นอีกนั่นแหละ ที่ต้องการเล่นงาน “เผด็จการ” อย่างประธานาธิบดี “นิโคลัส มาดูโร” แล้วเชิด “หุ่นประชาธิปไตย” อย่าง “นายฮวน ฆวยโต” หรือ “กุยโด” ขึ้นมารับใช้ บริการ อเมริกากันแทนที่ แต่เมื่อดันไป “ห้ามน้ำมันรัสเซีย” แบบดื้อๆ ทื่อๆ ก็เลยต้องหันไปขอร้อง วิงวอนเผด็จการเวเนฯ ที่ตัวเองเคยต่อต้าน ให้ช่วยผลิตน้ำมันส่งออกมายังอเมริกา แทนน้ำมันของเผด็จการรัสเซีย ที่ตัวเองเพิ่งหันมาต่อต้าน อันเนื่องมาจากการ “บุกยูเครน” ดังนั้น...ถ้าหากทั้งน้ำมันอิหร่าน เวเนซุเอลา และน้ำมันรัสเซีย สามารถไหลออกสู่ตลาด โดยไม่ได้ถึงกับติดๆ ขัดๆ อะไรมาก โอกาสที่ราคาน้ำมันจะลดๆ ลงไปยิ่งกว่านี้ และทำให้บรรดาชาวโลก ที่เพิ่งสร่างไข้ เพิ่งลดอาการโผๆ เผๆ จากการแพร่ระบาดของท่านเชื้อไวรัสโควิด-19 น่าจะมีโอกาสโล่งอก โล่งใจ ไปตามๆ กัน...

โดยเท่าที่ฟังจากน้ำเสียงของตัวแทนฝ่ายรัสเซีย “นายLeonid Slutsky” ประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศสภาดูมา เมื่อช่วงสองวันก่อน หรือจากตัวแทนฝ่ายยูเครน “นายOleksiy Arestovych” หัวหน้าคณะที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครนเมื่อช่วงวันจันทร์ (14 ก.พ.) ที่ผ่านมา ที่ถึงกับระบุว่า...โอกาสตกลงหาข้อยุติกับรัสเซีย อาจเป็นไปได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ หรืออย่างช้าที่สุดไม่เกินเดือนพฤษภาฯ ทุกสิ่งทุกอย่าง...ก็น่าจะเป็นไปได้ด้วยดี เพราะอย่างน้อยฝ่ายรัสเซียเขาก็ได้ย้ำแล้ว ย้ำอีก ไม่รู้จะกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ว่าไม่ได้คิด หรือไม่ได้มีแผนใดๆ ที่จะ “ยึดครองยูเครน” เอาเลยแม้แต่น้อย แต่หวังเพียงแค่จะ “Demilitarization” หรือหวังจะลดความเป็นไปได้ที่ใครก็แล้วแต่ คิดยุยง ส่งเสริม เพื่อให้ประเทศที่เป็นชนเผ่าสลาฟด้วยกันเองเช่นเดียวกับรัสเซีย ถูกแปรสภาพไปเป็น “เครื่องมือทางทหาร” ถูกเอาไว้ติดตั้งจรวด หรือเอาผลิตอาวุธเชื้อโรค ฯลฯ อะไรต่อมิอะไรทำนองนั้น การมุ่งทำลาย “โครงสร้างทางทหาร” หรือการ “กวาดล้างห้องแล็บ” ที่กำลังหมกมุ่น มัวเมา อยู่กับการวิเคราะห์ วิจัย เชื้อโรคชนิดต่างๆ ด้วยเงินสนับสนุนของคุณพ่ออเมริกาไปด้วยกันทั้งสิ้น โดยไม่พยายามพร่าผลาญ สังหารบรรดาชาวยูเครน จึงอาจเป็นสิ่งพอพูดคุยกันได้ไม่ยาก ถ้าฝ่ายรัสเซียเขามุ่งหวังไปที่เป้าหมายดังกล่าวจริงๆ...

ส่วนการ “De-Nazify” “De-Nazification” หรือการหาทางขจัดกวาดล้างบรรดาชาวยูเครน ผู้เลื่อมใสศรัทธา “ลัทธินาซี” แถมยังได้รับการฝึกปรือ ฝึกอาวุธ ได้รับเงินสนับสนุนจากคุณพ่ออเมริกาเขาอีกนั่นแหละ จนกลายเป็นกองกำลังที่มีบทบาท อิทธิพล มีส่วนชี้แนะ ชี้นำ รัฐบาลยูเครน ที่แม้จะมีประธานาธิบดีเป็น “ชาวยิว” แท้ๆ จนนำไปสู่การปะทะขัดแย้ง การฆ่าฟันกับบรรดาชาวยูเครนที่นิยมรัสเซีย ล้มตายจำนวนนับเป็นหมื่นๆ ก็คงไม่ถึงกับเป็นอุปสรรคขัดขวางมากมายสักเท่าไหร่เพราะเมื่อไหร่ที่ “อำนาจทางทหาร” หรือ “โครงสร้างทางทหาร” ของยูเครน ถูกทุบทำลายไปตามการ “Demilitarization” เรียบร้อยแล้ว มันก็คง “De-Nazify” ของมันไปเองโดยอัตโนมัตินั่นแล ด้วยเหตุนี้...โอกาสความเป็นไปได้ของการหาข้อยุติ หาจุดลงตัว ในกรณี “วิกฤตยูเครน” คราวนี้ น่าจะมีอยู่สูงเอามากๆ โดยเฉพาะถ้าหากไม่ถูกแทรกแซง ถูกยุแยงตะแคงรั่ว ให้ทุกสิ่งทุกอย่างต้องลากยาวว์ว์ว์ เกินไปกว่านี้...

แต่ก็นั่นแหละ...ผู้ที่อยากให้ “วิกฤต” ดังกล่าว ลุกลามบานปลาย ยิ่งไปกว่านี้ หรือให้ถึงขั้น “มหาอำนาจคู่แข่ง” อย่างรัสเซียมีอันต้องเจ๊ง...กับ...เจ๊ง หรือฉิบหาย...กับ...ฉิบหาย ลงไปต่อหน้าต่อตา คงหนีไม่พ้นไปจากคุณพ่ออเมริกาของหมู่เฮานี่เองที่พยายามอาศัยมาตรการ “แซงชั่น” ไล่ทุบ ไล่บี้ ไล่เหยียบ ไล่กระทืบหมีขาวรัสเซีย แบบกะให้ “ตายคาตีน” ให้จงได้ ชนิดถึงขั้นต้องออกมา “ขู่” พันธมิตรระดับ “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์” ของรัสเซีย อย่างคุณพี่จีน ว่าห้ามช่วยเหลือ ห้ามสนับสนุนรัสเซีย ห้ามสร้างช่องทางใดๆ ที่จะเปิดโอกาสให้รัสเซียหลีกเลี่ยงมาตรการแซงชั่นโดยเด็ดขาด ไม่เช่นนั้น...อาจต้องเจอกับผลพวงอันน่าสยดสยองพองขนตามไปด้วย ดังคำพูด คำแถลงของ “นายJake Sullivan” ที่ปรึกษาความมั่นคงทำเนียบขาว หลังได้พบปะเจรจากับตัวแทนฝ่ายจีน “นายYang Jiechi” ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารนโยบายต่างประเทศ และหนึ่งในคณะกรรมการกรมการเมือง พรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่กรุงโรม อิตาลี เมื่อวัน-สองวันที่ผ่านมา...

แต่ก็อย่างว่า...ขึ้นชื่อว่าคุณพี่จีน ที่กำลังผงาดขึ้นเป็น “มหาอำนาจทางเศรษฐกิจ” อันดับหนึ่งของโลก แทนที่คุณพ่ออเมริกาอีกไม่ใกล้-ไม่ไกลนับจากนี้ แถมยังเป็น “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์” ในระดับคิดจะเปลี่ยนโลก เปลี่ยนระบบโลก ร่วมกับคุณน้ารัสเซียอีกต่างหาก คำขู่ดังกล่าว...จึงน่าจะแทบไม่ได้ส่งผลใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย เพราะอย่างที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน “นายZhao Lijian” เขาได้ออกยืนหยัด ยืนกรานมาโดยตลอดนั่นแหละว่า ไม่ว่าจีนนั้นจะเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วยกับการ “บุกยูเครน” ของรัสเซียหรือไม่ อย่างไร ก็แล้วแต่ แต่ก็พร้อมที่จะปฏิเสธ คัดค้าน การแซงชั่นของคุณพ่ออเมริกาและตะวันตกต่อรัสเซีย ที่ไม่เพียงขาดความชอบธรรม ขัดต่อหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ยังกลับเป็นตัวเพิ่มความตึงเครียดและไม่ได้ช่วยให้เกิดคลี่คลายความขัดแย้งในกรณีดังกล่าวได้เลย ดังนั้น “จีนจะไม่เต้นรำตามจังหวะดนตรีของอเมริกาเป็นอันขาด” ไม่ว่าอเมริกาจะตีปี๊บ ป่าวร้องโฆษณา หรือปล่อยข่าว “เฟกนิวส์” ถึงขั้นว่าจีนกำลังส่งอาวุธไปช่วยรัสเซีย ในการบุกยูเครนไปโน่นเลย...

ในเมื่อประเทศมหาอำนาจเศรษฐกิจอันดับสองที่ใกล้จะเป็นอันดับหนึ่ง...ดันไม่เอาด้วย หรือไม่เห็นควรด้วยซะอย่าง โอกาสที่จะไล่บี้ ไล่เหยียบ ไล่กระทืบหมีขาวรัสเซียให้ “ตายคาตีน” จึงน่าจะ “เป็ง-ปาย-ม่าย-ล่าย” ยิ่งขึ้นไปเท่านั้น!!! ตรงกันข้ามการไล่เหยียบ ไล่กระทืบ ประเทศผู้ผลิตน้ำมันอันดับ 2 อันดับ 3 ของโลก อย่างรัสเซีย ที่เคยป้อนน้ำมัน ป้อนแก๊ส ให้กับบรรดาประเทศในยุโรปถึง 40 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณความต้องการ หรือป้อนน้ำมันให้กับอเมริกาไม่น้อยกว่า 90,000-200,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อไม่อาจส่งน้ำมัน ส่งแก๊ส ไปป้อนได้ตามปกติ ราคาพลังงานในยุโรปและอเมริกา มันก็เลยย่อมต้องพุ่งพรวดๆ พราดๆ ทะลุเพดาน ทะลุหลังคา กลายเป็นตัวดัน “ภาวะเงินเฟ้อ” ให้ยิ่งเฟ้อหนักขึ้นไปอีก หรือทำให้ภาวะเศรษฐกิจของทั้งอเมริกาและยุโรป ยิ่งตกต่ำ เสื่อมโทรม หรือกระทั่ง “ถดถอย” ทั้งระยะสั้น ระยะยาว อย่างเห็นได้โดยชัดเจนหรือทำให้ทั้งอเมริกาและยุโรป มีโอกาสเจ๊ง...กับ...เจ๊ง หรือฉิบหาย...กับ...ฉิบหาย ก่อนรัสเซียเอาเลยก็ไม่แน่!!!

อันนี้นี่แหละ...ที่ทำให้คุณปู่ “โจ ซึมเซา” ท่านคงง่วงเหงาหาวนอนอยู่ในอเมริกาอีกต่อไปไม่ได้แล้ว ต้องหันมาฉีดสเตียรอยด์ต้องหันมาวางกำหนดการ คิดเดินทางไปเยือน ไปเยี่ยมบรรดาประเทศพันธมิตรในยุโรป ในช่วงตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.ที่จะถึงหรือไม่ อย่างไร ก็ยังไม่ถึงกับชัดเจน แต่คงต้องหาทางปลุกขวัญ ปลุกใจ กันชนิดขนานใหญ่ หรืออย่างเป็นระบบเป็นกิจการไม่งั้น...โอกาสที่พันธมิตรตะวันตกผู้เคยเคียงบ่า-เคียงไหล่กับอเมริกามาโดยตลอด และเคยมีบทบาทอิทธิพลต่อโลกทั้งโลก นับตั้งแต่ยุค “ล่าอาณานิคม” เป็นต้นมา อาจต้องเจอกับอาการ “Westlessness” หรือการ “De-Westernize World” จนมีสิทธิซึมๆ เซาๆ ตามไปด้วย เนื่องจากพันธมิตรรายสำคัญอย่างคุณพ่ออเมริกาชักออกอาการ “Home Alone” หรือ “โดดเดี่ยวผู้น่ารัก” ยิ่งเข้าไปทุกที...




กำลังโหลดความคิดเห็น