xs
xsm
sm
md
lg

แนวรบยุโรปตะวันออกกับการบุก-ไม่บุกยูเครน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทับทิม พญาไท


Dmitry Peskov โฆษกของประธานาธิบดีรัสเซีย
วันนี้...คงต้องขออนุญาตแวะไปดู “แนวรบยุโรปตะวันออก” ที่ใครต่อใครกำลังรอรัก-รอลุ้น ถึง “การบุก-ไม่บุกยูเครน” ของกองทัพหมีขาวรัสเซียอยู่จนทุกวันนี้ โดยเฉพาะความพยายามแสดงออกถึงอาการ “หูแหก-ตาแหก” ของ “สามเกลอหัวแข็ง” หรือของคุณพ่ออเมริกา ผู้ดีอังกฤษ และคุณทวดอิสราเอล ที่ดูจะก่อให้เกิดความอิหลักอิเหลื่อ กระอักกระอ่วน หรือถึงขั้นคลื่นไส้-วิงเวียน ต่อบรรดาประเทศยุโรปแท้ๆ กันเป็นจำนวนไม่น้อย...

คือถึงขั้นคุณพ่ออเมริกาต้องออกมาป่าวประกาศ ว่ากำลังเตรียมอพยพผู้คน อพยพครอบครัว หรือบรรดาผู้ที่ไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสถานทูตสหรัฐฯ ออกจากประเทศยูเครน เอาเลยถึงขั้นนั้น รวมทั้งชี้แนะ ชี้นำ ให้บรรดาชาวอเมริกันชนทั้งหลาย หลีกเลี่ยงการท่องเที่ยว เดินทางไปยังประเทศรัสเซียในช่วงระยะนี้ และในเมื่อคุณพ่ออเมริกาแสดงออกถึงอาการหูแหก-ตาแหกไปได้ถึงขั้นนั้น ผู้ที่ได้ชื่อ ฉายา ว่า “สุนัขพูเดิลของอเมริกา” อย่างผู้ดีอังกฤษ เลยจำเป็นต้องเอาด้วย เห็นควรด้วย ประกาศจะอพยพชาวอังกฤษออกจากยูเครนเช่นเดียวกับอเมริกา ส่วนคุณทวดอิสราเอลที่แม้จะอยู่กันคนละซีกโลก หรือไม่น่าจะเกี่ยวอะไรด้วย กับการบุก-ไม่บุกยูเครนของกองทัพรัสเซีย แต่หลังจากที่มีการประชุมหารือ ของเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมต่างประเทศ และการขนส่ง ฯลฯ เมื่อช่วงวันอาทิตย์ (23 ม.ค.) ที่ผ่านมา ด้วยการอ้างถึงชุมชนชาวยิวที่มีอยู่ในประเทศยูเครนไม่น้อยไปกว่า 400,000 คน เห็นว่า...รัฐบาลอิสราเอลกำลังเตรียมจัดส่งเครื่องบินไปรับคนเหล่านี้ ออกมาจากประเทศยูเครนกันถึงที่...ฯลฯ

เรียกว่า...ถือเป็นการสร้างสีสัน บรรยากาศแห่งการ “Russians Are Coming” ชนิดอึกทึก-โครมคราม กันเลยทีเดียวเจียว ทั้งๆ ที่ในหมู่บรรดาประเทศยุโรปแท้ๆ หรือกระทั่งประเทศยูเครนเอง ต่างแทบไม่ได้คิดแสดงออกถึงลักษณะอาการขนหัวลุก ขนคอตั้งไปได้ถึงขั้นนั้น แถมไม่ว่าจะเป็นระดับผู้นำสูงสุด ประธานาธิบดียูเครน อย่าง “นายVolodymyr Zelensky” ที่ต้องออกมาสรุปสถานการณ์เอาไว้ประมาณว่า “ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องไปแตกตื่น” หรือนายกรัฐมนตรี “Denis Shmygal” ที่ต้องออกมาย้ำ ออกมาเตือน ว่า “หัวใจสำคัญอยู่ที่ต้องไม่คิดจะแตกตื่น” ไปจนถึงเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติยูเครน “นายAlexey Danilov” ที่ถึงกับออกมาขอร้องวิงวอน “ขอให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ” หรืออย่าได้ “หูแหก-ตาแหก” เพราะมีแค่สถานทูตของ 3 ชาติ 3 ประเทศในยูเครนเท่านั้น ที่ออกลักษณะอาการเช่นนี้...

ยิ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงผู้ไม่ประสงค์จะออกนามแต่ประสงค์ที่จะออกข่าวของยูเครน ยิ่งต้องหันไปใช้คำพูด คำเตือน ที่อาจพอช่วยให้เกิดการรั้งสติ หรือไม่ถึงกับสติแตกมากมายจนเกินไป เช่นคำพูดที่ว่า... “ถ้าพูดอย่างตรงไป-ตรงมาแล้ว...คนอเมริกันทั้งหลายในประเทศยูเครน อาจปลอดภัยซะยิ่งกว่าบรรดาอเมริกันชนที่อาศัยอยู่ในเมืองอันเต็มไปด้วยพิษภัยอาชญากรรม อย่างมหานครลอสแองเจลิสไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า” ดังนั้น...แทนที่ความพยายามแสดงออกถึงการแตกตื่น ตกใจ ของคุณพ่ออเมริกา อังกฤษและอิสราเอล จะทำให้บรรดาประเทศในยุโรปเกิดการ “หูแหก-ตาแหก” ตามไปด้วย กลับดูจะก่อให้เกิดความอิหลักอิเหลื่อ กระอักกระอ่วน หรือออกอาการคลื่นไส้ คลื่นเหียนวิงเวียน ไปซะแทนที่...

อย่างเช่น ผู้แทนระดับสูงแห่งสหภาพยุโรปด้านต่างประเทศและนโยบายความมั่น “นายJosep Borrell” ที่เพิ่งผ่านการพบปะ เจอะหน้า เจอะตา กับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ “นายAntony Blinken” มาหยกๆ และได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อช่วงวันจันทร์ (24 ม.ค.) ที่ผ่านมา ถึงการบุก-ไม่บุกยูเครนของกองทัพรัสเซียประมาณว่า... “ยังไม่น่าจะมีอะไรจริงๆ ผมไม่ได้คิดว่ามีอะไรใหม่ ที่จะเพิ่มความรู้สึกหวาดกลัวสำหรับการโจมตีแบบปัจจุบันทันด่วน...ไม่มี” รวมทั้งยังแสดงความคิด ความเห็นไว้ด้วยว่า สหภาพยุโรปคงไม่เดินตาม ไม่คิดจะหูแหก-ตาแหก ตามอย่างอเมริกาและอังกฤษแต่อย่างใด หรือไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไป “Dramatize” ถึงขั้นนั้น ด้วยเหตุเพราะ... “การที่เราไม่ได้ทำตามอย่างพวกเขา อาจเป็นเพราะเราไม่รู้ถึง...เหตุผลแบบพิเศษ...เหมือนอย่างพวกเขาก็เป็นได้” ส่วน “เหตุผลพิเศษ” ที่ว่าจะตื้น-ลึก-หนา-บาง ไปถึงขั้นไหน คงต้องเก็บไปคิดๆ เอาเองก็แล้วกัน...

หรืออย่างผู้นำฝรั่งเศส ประธานาธิบดี “Emanuel Macron” ที่นอกจากไม่คิดจะหูแหก-ตาแหก ตามแบบอเมริกา อังกฤษและอิสราเอลแล้ว ยังออกมาย้ำแบบหนักแน่นเอาไว้ด้วยว่า ยังคงมีพื้นที่ทางการทูตอยู่อีกเยอะ ที่จะช่วยลดความตึงเครียดของฉากสถานการณ์ยูเครนให้ลดน้อยถอยลงไปตามลำดับ และด้วยความพยายามมองโลกในแง่บวกของทั้งผู้นำฝรั่งเศสและผู้นำเยอรมนี “นายOlaf Scholz” นั่นเอง ที่น่าจะมีส่วนกระตุ้น มีส่วนให้คำแนะนำต่อประเทศยูเครน ที่กำลังคิดส่งตัวแทนไปพบปะเจรจากับฝ่ายรัสเซีย ที่กรุงปารีส ในช่วงวันพุธ (26 ม.ค.) ที่ผ่านมา โดยอาจก่อให้เกิดการขยายผลไปสู่การหาลู่ทางนั่งโต๊ะเจรจาระหว่างผู้มีส่วนเกี่ยวข้องประมาณ 4 ฝ่ายด้วยกัน คือฝรั่งเศส เยอรมนี รัสเซีย และยูเครน หรือที่เรียกๆ กันว่า “Normandy Four” นั่นเอง อันอาจถือได้ว่า...เป็นความพยายามหาทางออก ทางไป ของบรรดาประเทศในยุโรปด้วยกันเอง โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยบริการของ “ประธานสมาคม...เสือก...กิตติมศักดิ์” อย่างคุณพ่ออเมริกาเอาเลยก็ไม่แน่!!!

อันนี้นี่แหละ...ที่ต้องถือเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ น่าคิดสะกิดใจมิใช่น้อย เพราะความพยายามสร้างความน่าเกลียดน่ากลัว ให้กับ “มหาอำนาจคู่แข่ง” ของคุณพ่ออเมริกาอย่างคุณน้ารัสเซีย หรือแม้แต่คุณพี่จีนก็แล้วแต่ ต่อบรรดาประเทศยุโรปทั้งหลาย เอาไป-เอามาแล้ว...มันมักก่อให้เกิด “ผลเสีย” มากกว่า “ผลได้” ต่อประเทศต่างๆ ยุโรป ไม่ว่าจะในแง่เศรษฐกิจการค้า การลงทุน การพลังงาน ฯลฯ ไปจนถึงการเมือง-การทหารเอาเลยก็ว่าได้ ไม่งั้น...ผู้นำฝรั่งเศส อย่างประธานาธิบดี “Macron” ท่านคงไม่เสียเวลาครีเอทีฟ ไม่คิดจะกระฉูดไอเดีย เรื่องการจัดตั้ง “กองกำลังยุโรป” โดยเฉพาะ แทนที่จะต้องหันไปพึ่ง “กองกำลังนาโต” ที่ถูกอเมริกาควบคุมและบงการ แถมยังพยายามรีดไถเงินภาษี เงินช่วยเหลือสนับสนุนองค์กร ในช่วงยุคอดีตประธานาธิบดี “ทรัมป์บ้า” จนก่อให้เกิดความอิหลักอิเหลื่อ กระอักกระอ่วนใจ ไม่ว่าต่อฝรั่งเศส หรือเยอรมนี อย่างเห็นได้โดยชัดเจน...

อีกทั้งความพยายามหาทางออก ทางไป ของบรรดาประเทศยุโรปด้วยกันเอง โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคุณพ่ออเมริกาและนาโต ก็เคยสามารถนำมาซึ่งความสงบและสันติภาพให้กับภูมิภาคยุโรปตะวันออก ได้ต่อเนื่องยาวนานมาเกือบเป็นสิบปีเช่นการร่วมไม้-ร่วมมือระหว่างฝรั่งเศส เยอรมนี รัสเซีย ในการจัดการปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลยูเครนกับปวงชนแห่งแคว้น “Donbas” ที่พยายามแยกตัว แยกประเทศ ถึงขั้นเตรียมจัดตั้งสาธารณรัฐ “Donetsk People’s Republic” และ “Luhansk’s People Republic” รองรับเอาไว้แล้วล่วงหน้า จนเกิดข้อยุติ เกิดจุดลงตัว ตาม “ข้อตกลงที่เมืองมินสก์” หรือ “Minsk Agreement” หรือ “Minsk Protocol” ในช่วงปี ค.ศ. 2014 มาแล้วนั่นเอง...

นอกเหนือไปจากนั้น...อย่างที่ว่าเอาไว้แล้วนั่นแหละว่า ฝ่ายรัสเซียเองเขายังมี “หน้าไพ่” ให้เล่นอีกเยอะแยะมากมาย ไม่ใช่แค่คิดจะบุก-ไม่บุกยูเครนกันท่าเดียว อย่างที่โฆษกประธานาธิบดีรัสเซีย “นายDmitry Peskov” เพิ่งออกมาให้ข่าวกับสื่อมวลชนไปเมื่อวัน-สองวันที่ผ่านมานั่นแหละว่า เมื่อช่วงวันจันทร์ (24 ม.ค.) ที่ผ่านมา...ด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่ ที่ทำให้ผู้นำรัสเซียประธานาธิบดี “วลาดิมีร์ ปูติน” ตัดสินใจยกหูโทรศัพท์ไปเจ๊าะแจ๊ะเจรจากับประธานาธิบดี “Miguel Diaz-Canel” ผู้นำคิวบา ประเทศที่อยู่ปากประตูหน้าบ้านอเมริกา โดยจะมีการพูดถึงเรื่องการส่งทหารรัสเซีย ส่งจรวดรัสเซีย ไปติดตั้งในประเทศนี้หรือไม่ อย่างไร ก็ยากที่จะสรุปได้ แต่อาจด้วยเหตุเพราะทั้งรัสเซียและคิวบา ต่างมีสถานะแบบที่เรียกว่า “Synchronization of Position” หรือต่างก็มีหัวอกเดียวกันนั่นเอง ความพยายามสร้างแรงกดดัน สร้างความน่าเกลียด น่ากลัว ให้กับรัสเซียของคุณพ่ออเมริกาคราวนี้ จึงคงไม่ได้จบกันตรงที่การ “บุก-ไม่บุกยูเครน” แต่เพียงเท่านั้น!!!




กำลังโหลดความคิดเห็น