ถึงช่วงจังหวะปิดฉาก-ปิดท้ายสุดสัปดาห์นี้...คงต้องขออนุญาตชี้แนะ ชี้นำ ให้หมั่นหาทาง “ทำใจ” และ “ทัมใจ” ให้สบายๆ ไม่ว่าต่อข่าวสารบ้านเมือง หรือข่าวคราวความเป็นไปของโลก ที่มันออกจะเยอะแยะตาแป๊ะไก๋ซะเหลือเกิน แถมแต่ละข่าว แต่ละคราว สามารถก่อให้เกิดความปวดเศียร-เวียนเกล้ามากบ้าง-น้อยบ้างไปด้วยกันทั้งสิ้น...
คืออย่าถึงกับต้องไป “หูแหก-ตาแหก” ไปตื่นเต้ลล์ล์ล์ ตกใจ กับกระแสความเคลื่อนไหวขึ้นๆ-ลงๆ ของแต่ละสิ่ง แต่ละอย่างที่ล้วนแล้วแต่เป็นตัว “ปรุงแต่ง” อารมณ์-ความรู้สึก ของแต่ละปัจเจกบุคคล ให้วูบๆ ไหวๆ ไปตาม “รสนิยม” ไปตามความชอบ ความชัง ความเกลียด ความรัก ที่ต่างไม่ได้จีรังยั่งยืน คงทนถาวรไปด้วยกันทั้งนั้น ถือซะว่า...ทุกสิ่งทุกอย่าง “มันเป็นเช่นนั้นเอง-มันเป็นพรรค์นั้นแหละ” ความมี “สติ” และ “สมาธิ” ถึงพอจะหวนคืนกลับมา ส่งผลให้เกิด “ปัญญา” ในการใคร่ครวญพิจารณา แต่ละเรื่อง แต่ละราว แต่ละข่าวคราว ได้อย่างชัดเจน แจ่มใส ยิ่งขึ้นๆ...
อย่างเรื่อง “การบุก-ไม่บุกยูเครน” ของกองทัพรัสเซีย...ที่เล่นเอาใครต่อใครใจหาย-ใจคว่ำยิ่งเข้าไปทุกที โดยเฉพาะเมื่อได้อ่านข่าว ฟังข่าว จากบรรดา “สื่อตะวันตก” ทั้งหลาย รวมทั้งการแสดงออกถึงความคิด ความเห็นของบรรดาผู้ที่มีบทบาท อำนาจในอเมริกาและในระดับโลก ไม่ว่าจะระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ โฆษกทำเนียบขาว ฯลฯ ที่ดูๆ แล้ว...ต่างก็ปรารถนาและต้องการให้มันมี “ปัญหา” ให้มากๆ เข้าไว้ อย่างน้อย...ก็เพื่อปิดบัง “ปัญหา” ของตัวเอง ที่เผลอๆ อาจยุ่งซะยิ่งกว่าปัญหายูเครน ปัญหาแนวรบยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง หรือทะเลจีนใต้ ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า การโหมกระแสตีปี๊บ ตีฉิ่ง ตีฉาบ ในเรื่องการบุกยูเครนของกองทัพรัสเซีย ถึงขั้นว่า...สามารถเกิดขึ้นในทุกๆ วินาทีนับจากนี้ อะไรทำนองนั้น เลยเป็นอะไรที่ออกจะ “เวอเรอเบิล” (เว่อร์) อย่างเห็นได้โดยชัดเจน...
ในขณะที่ “ปัญหา” ในอเมริกาเอง...ช่วงระหว่างนี้ ต้องเรียกว่าหนักหนาสาหัส ชนิดแทบหาทางออก ทางไป และทางรอดแทบไม่เจอ เฉพาะแค่ปัญหาสุขภาพ อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของท่านเชื้อไวรัสโควิด ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จนกระทั่งไม่ว่ากลายพันธุ์ไปเป็น “เดลตา” หรือ “โอมิครอน” ต่างเล่นเอาบรรดาอเมริกันชนทั้งประเทศแทบอ้วกแตก อ้วกแตน ไปด้วยกันทั้งสิ้น ต้องฝืนใจรับตำแหน่ง “แชมป์โรค” ด้วยการทำลายสถิติ “ผู้ติดเชื้อ” คราวแล้ว คราวเล่า เรียกว่า...ติดกันวันละเป็นล้านๆ ราย ทั้งๆ ที่ผู้นำประเทศอย่าง “ผู้เฒ่าโจ ซึมเซา” เคยโฆษณาหาเสียงเอาไว้เป็นมั่น เป็นเหมาะ ว่าจะหาทางยุติปัญหาสุขภาพอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อโรคชนิดนี้ให้จงได้...
แถมระหว่างนี้ ยังต้องเจอกับปัญหาเศรษฐกิจ ที่ออกจะหนักหนาสาหัสเอามากๆ ด้วยเหตุเพราะ “ภาวะเงินเฟ้อ” ซึ่งเคยถูกรัฐบาลและธนาคารกลาง ออกมาปลอบประโลมว่าเป็นแค่ “ปัญหาชั่วคราว” แต่เอาไป-เอามา...มันชักจะหนักหน่วงรุนแรง ยิ่งเข้าไปทุกที เรียกว่า... “เฟ้ออ์อ์อ์” กันระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีเอาเลยถึงขั้นนั้น แถมยังต้องเจอปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ขาดแคลนชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่จะเอามาประกอบเป็นสินค้าแต่ละชนิด หรือที่เรียกว่า “Supply Chains” ซะอีกด้วยต่างหาก ข้าว-ปลา-อาหาร ราคาแก๊ส ราคาพลังงาน นับวันยิ่งพุ่งโด่งทะลุเพดาน ทะลุหลังคา ยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ อีกทั้งบรรดาร้านค้า ร้านชำ จำนวนมากมายมหาศาล ที่เคยมีผัก-ผลไม้ วางเรียงรายตามชั้นสินค้าต่างๆ มาถึง ณ ขณะนี้...ต้องเรียกว่า โล่งง์ง์ง์โจ้งง์ง์ง์ไปโดยตลอด เหลือแต่ชั้นสินค้าเปล่าๆ หาสินค้าอุปโภค-บริโภคใดๆ แทบไม่ได้ ด้วยเหตุเพราะ “ราคาค่าขนส่ง” ที่บรรดา “สิงห์รถบรรทุก” ทั้งหลาย เคยตั้งเอาไว้เป็นมาตรฐานประมาณ 7,000 ดอลลาร์ในการขนส่งระหว่างพื้นที่ด้านตะวันออกมาสู่อ่าวตะวันตก หลังๆ นี้...เห็นว่า ต้องเขยิบขึ้นราคาไปถึงเที่ยวละ 18,000-22,000 ดอลลาร์ เอาเลยถึงขั้นนั้น ส่งผลให้บรรดาร้านค้า ร้านชำต่างๆ ต้องปล่อยให้ชั้นวางสินค้าโล่งโจ้ง แม้ยังพอมีเงินแต่ก็หาซื้อสินค้าต่างๆ แทบไม่ได้...
ภายใต้สีสันบรรยากาศ ทำนองนี้นี่เอง...ที่ทำให้ศัตรู-คู่กัดของ “ผู้เฒ่าโจ ซึมเซา” อย่างอดีตประธานาธิบดี “ทรัมป์บ้า” เลยต้องออกมา “หาเสียง” ตั้งแต่ไก่ยังไม่ทันโห่ หรือออกมาเปิดปราศรัยรณรงค์หาเสียงสำหรับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งหน้า ที่เมืองฟลอเรนซ์ รัฐแอริโซนา เมื่อช่วงวัน-สองวันที่ผ่านมา ด้วยคำพูด คำจา ด้วยข้อกล่าวหาต่อนักการเมืองฝ่ายตรงกันข้าม ที่หนักหน่วงรุนแรง ยิ่งกว่า “ผู้กองธรรมนัส” หรือ “อดีตรัฐมนตรีแป้ง” บ้านเรา ไม่รู้จะกี่เท่าต่อกี่เท่า คือถึงขั้นระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบันอย่าง “ผู้เฒ่าโจ ซึมเซา” นั้น กำลังนำพาประเทศมหาอำนาจอันดับหนึ่งอย่างอเมริกา เข้าสู่เส้นทางเดียวกันกับประเทศที่ต้องเจอกับภาวะเงินเฟ้อระดับติดจรวดไปถึงดวงจันทร์ ถึงดาวอังคาร อย่าง “เวเนซุเอลา” เอาเลยถึงขั้นนั้น โดยไม่ว่าจะเป็นแค่ข้อกล่าวหา เป็นการป้ายขี้ ป้ายอุจจาระไปตามเรื่อง ตามราว แต่คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้ว่า...มันค่อนข้าง “เข้ากับบรรยากาศ” ความเป็นไปในประเทศอเมริกาช่วงนี้ได้เป็นอย่างดี บรรยากาศที่บรรดาอเมริกันชนจำนวนไม่น้อย ค่อนข้าง “เชื่อ” เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ว่า กำลังนำไปสู่ “ความถดถอยทางเศรษฐกิจ” แบบเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ แบบต่อเนื่องและยาวนาน...
ด้วยเหตุนี้...จึงถือเป็นเรื่องไม่แปลก ที่เมื่อ “สำนักวิจัย” หรือนักทำโพลแห่ง “The Morning Consultant and Politico” ได้ออกสำรวจความคิด ความเห็น ของบรรดาอเมริกันชนในช่วงนี้ เลยถึงกับต้อง “ผงะ” เมื่อพบว่าผลสำรวจ หรือผลสรุปชี้ชัดออกมาในทำนองว่า 2 ใน 3 ของบรรดาชาวอเมริกัน หรือ 68 เปอร์เซ็นต์จากผู้ตอบแบบสำรวจ ต่างพร้อมที่จะฟันธงและฟันเฟิร์ม ว่าผู้นำประเทศของตนในปัจจุบัน หรือ “ผู้เฒ่าโจ” นั่นแหละ กำลัง “นำพาประเทศไปในทางที่ผิด” แถมเมื่อลองจัดเกรด ให้เกรดต่อผู้นำรายนี้ ปรากฏว่า...มีผู้ที่ให้ “เกรด A” กับ “ผู้เฒ่าโจ” เพียงแค่ 6 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง 14 เปอร์เซ็นต์ให้ “เกรด B” นอกนั้นตัดสินใจให้ “เกรด F” ไปด้วยกันทั้งแผง หรือไม่ต่ำกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสำรวจ...
นี่...เมื่อเจอกับ “ปัญหาภายใน” ในลักษณะนี้ ก็จึงไม่ถึงกับต้องน่าแปลกใจอะไรมากมาย ที่ผู้นำประเทศอย่าง “ผู้เฒ่าโจ” ท่านเลยต้องหันไปหา หันไป “เบี่ยงเบน” ความสนใจของผู้คน ให้ห่างๆไปจาก “ปัญหาที่แท้จริง” เข้าไว้ หรือให้ไหลออกไปนอกประเทศ ไปสู่ “แนวรบ” แต่ละด้าน แต่ละซีกโลก นั่นแหละเป็นหลัก ไม่เพียงแต่การยุแยงตะแคงรั่ว ให้เกาะเล็กๆ อย่าง “ไต้หวัน” หาทางสร้างความเปรี้ยวมือ เปรี้ยวเท้า ให้กับมหาอำนาจคู่แข่งอย่างคุณพี่จีนให้มากๆ เข้าไว้ จนแนวรบในทะเลจีนใต้ชักจะร้อนฉ่า ร้อนแรง ยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ อาศัยการหันไปเจ๊าะแจ๊ะเจรจากับอิหร่าน ในเรื่องข้อตกลง “JCPOA” ที่กรุงเวียนนาเป็น “แรงกระตุ้น” ให้พันธมิตรอย่างอิสราเอล เตรียมก่อปัญหาจนแนวรบในตะวันออกกลาง อาจเกิดไฟนรกสุดขอบฟ้าขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ และก็แน่นอนนั่นแหละว่า...การหันไปยุแยงตะแคงรั่ว การส่งอาวุธ สนับสนุนยุทโธปกรณ์ รวมทั้งการฝึกอบรมทหารยูเครน ให้สร้างแรงกดดันต่อมหาอำนาจคู่แข่งอีกรายอย่างคุณน้ารัสเซียให้มากๆ เข้าไว้ มันจึงต้องเป็นไปในแบบ “มันเป็นเช่นนั้นเอง...มันเป็นพรรค์นั้นแหละ” ไปด้วยประการละฉะนี้...
ด้วยเหตุนี้...ก็อย่าถึงกับต้องไปตื่นเต้ลล์ล์ล์ ตกใจ ต้องไป “หูแหก-ตาแหก” อะไรกันมากมาย จนกว่ากระสุนนัดแรก จรวดลูกแรก หรือขีปนาวุธล็อตแรก มันจะตกใส่หัวกบาลฝ่ายหนึ่ง-ฝ่ายใดขึ้นมาจริงๆ ถึงค่อยไปว่ากันอีกที เพราะโดยขั้นตอน โดยกระบวนการทางการเมืองระหว่างประเทศนั้น มันยังมีอะไรที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน ไปกว่านั้นกันอีกเยอะ แค่เฉพาะการเมืองภายในประเทศ อย่างการเมืองบ้านเรา ณ ช่วงขณะนี้ ที่เกิดการขับใครต่อใครออกจากพรรคแกนนำรัฐบาล อย่างพรรค “พปชร.” ก็เล่นเอา “ปวดหัวตายห่า” อยู่พอสมควรแล้ว...