xs
xsm
sm
md
lg

ส่องดูภาพการลงทุนปีเสือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปี 2564 นับเป็นปีที่ 2 หลังจากไวรัสโควิด 19 ได้แพร่ระบาดในวงกว้าง และเป็นปีที่เราคาดหวังว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวได้ดี แต่อย่างไรก็ตามการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่ รวมไปถึงความสามารถในการเข้าถึงวัคซีนของแต่ละประเทศที่ไม่เท่ากัน รวมทั้งนโยบายที่ใช้รับมือกับการแพร่ระบาดในแต่ละพื้นที่ ส่งผลให้การฟื้นตัวนั้นช้าลงกว่าที่เราคาดการณ์กันไว้ ในปี 2565 เรามาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่นักลงทุนต้องคอยจับตาเป็นพิเศษครับ

ประเด็นแรกเลยคงหนีไม่พ้นปัจจัยภายนอกประเทศอย่างการเปลี่ยนผ่านนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางทั่วโลกที่ผมเคยได้เขียนไว้ในครั้งก่อน แรงกดดันจากเงินเฟ้อ และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งส่งผลให้ความจำเป็น ในการใช้นโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลายนั้นหายไป การเปลี่ยนผ่านทางนโยบายทางการเงินจะส่งผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์ผ่านทั้งสภาพคล่องที่ลดจากการทำ Quantitative tightening ผลตอบแทนที่แท้จริง (Real yield) ที่ลดลงจากแนวโน้มดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเราจะเริ่มเห็นพัฒนาการเหล่านี้มากขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมเป็นต้นไป

ประเด็นต่อมา ที่ต้องจับตามองคือเศรษฐกิจจีน ที่เป็นปัจจัยภายนอกอีกอย่างที่เราคงต้องให้ความสำคัญมากขึ้น เพราะการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในอดีตนั้นมีความสัมพันธ์กับเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจในภูมิภาค หากประเทศจีนยังคงมาตรการ Zero covid ก็จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจในภาพรวมได้ แต่ในอีกด้านหนึ่งแล้วเราอาจ
เริ่มเห็นการลงทุนออกจากประเทศจีนกระจายมายังภูมิภาคมากขึ้น อาจจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจในแถบนี้ได้เช่นกัน

ย้อนกลับมาดูปัจจัยในประเทศบ้าง ในปีนี้ก็ยังเป็นปีที่ท้าทายอยู่ เราได้เห็นผลกระทบจากเงินเฟ้อที่ส่งผลให้ค่าครองชีพนั้นปรับตัวสูงขึ้น ต่างออกไปจากในประเทศที่พัฒนาแล้วที่เงินเฟ้อนั้นถูกขับเคลื่อนด้วยการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง แต่สำหรับประเทศไทยเองนั้นพื้นฐานทางเศรษฐกิจในปัจจุบันยังคงเปราะบางอยู่ แรงกดดันจากเงินเฟ้อที่ถูกขับเคลื่อนด้วยปัจจัยภายนอกอย่างต้นทุนการผลิต ราคาน้ำมัน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ที่ปรับตัวสูงขึ้นจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการบริโภคและการใช้จ่ายในประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ภาวะ Stagflation ดูจะเป็นอะไรที่น่ากังวลไม่น้อยหากเศรษฐกิจยังไม่สามารถฟื้นตัวตามที่ควร

ส่วนปัจจัยสุดท้ายนั้นคงต้องจับตาประเด็นการเมืองภายในประเทศให้ดีในปีนี้ครับ เพราะรัฐบาลปัจจุบันจะหมดวาระช่วงต้นปี 2566 นโยบายภาครัฐที่จะถูกอัดฉีด รวมไปถึงความเคลื่อนไหวทางการเมืองจากหลายฝ่ายมีโอกาสสร้างความผันผวนต่อภาพการลงทุนในระยะสั้นได้ ปี 2565 ผมมองว่าเป็นปีท้าทายต่อภาพการลงทุนเป็นอย่างมาก ทั้งปัจจัยภายนอก และปัจจัยภายในสามารถสร้างความผันผวนต่อสินทรัพย์เสี่ยงได้ตลอดเวลา นักลงทุนควรจะมีการกระจายความเสี่ยงออกไปยังสินทรัพย์หลบภัย Defensive มากขึ้นเพื่อรับมือกับความผันผวนในปีนี้ครับ

โดย ประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทาลิส จำกัด


กำลังโหลดความคิดเห็น