ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวผันผวนในเช้าวันนี้ โดยบางส่วนถูกกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบในวันศุกร์ (14 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4/2564 ของธนาคารสหรัฐฯ ขนาดใหญ่ในช่วงเริ่มต้นฤดูเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจจีนหลายรายการในวันนี้ รวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2564
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,332.72 จุด เพิ่มขึ้น 208.44 จุด หรือ +0.74%, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,522.09 จุด เพิ่มขึ้น 0.83 จุด หรือ +0.02% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,390.29 จุด เพิ่มขึ้น 6.97 จุด หรือ +0.03%
ภาวะการซื้อขายในภูมิภาคถูกกดดันหลังการเปิดเผยผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่ในสหรัฐฯ โดยหุ้นเจพีมอร์แกน ดิ่งลง 6.26% หลังรายงานผลประกอบการที่อ่อนแอ และเตือนว่า เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน และรายได้จากการซื้อขายจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของอุตสาหกรรมในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ยังเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ยอดค้าปลีกดิ่งลง 1.9% ในเดือน ธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า อาจทรงตัวในเดือนดังกล่าว หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือน พ.ย.
นักวิเคราะห์จาก ANZ Research ระบุว่า ตลาดหลายแห่งซึมซับข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของสหรัฐฯ ในเดือน ธ.ค. จากยอดค้าที่ปลีกดิ่งลง ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมก็ปรับลดลง โดยได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อที่สูง 3 เท่า การขาดแคลนด้านอุปทานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน เราคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะต้องปรับทวนตัวเลขประมาณการอัตราเงินเฟ้อและแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนข้างหน้าในการประชุมที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า
นักลงทุนยังจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของจีนหลายรายการ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2564 การผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก, การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร และอัตราว่างงานเดือน ธ.ค. รวมถึงยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือน พ.ย.ของญี่ปุ่น