ด้วยเหตุเพราะถูกจี้ ถูกเร่ง ให้ต้องส่ง “ต้นฉบับ”ในช่วงวันหยุดส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ ไม่เกินไปกว่าวันที่ 30 ธันวาฯ เลยหนีไม่พ้นต้องปั่นข้อเขียนชิ้นนี้เอาไว้ก่อนล่วงหน้า ไม่รู้จะกี่วันต่อกี่วัน โอกาสที่จะ “อัพเดต”ให้ทันสมัย สอดคล้องไปกับสถานการณ์ความเป็นไปของโลก ที่มันเปลี่ยนกันแบบวันต่อวัน หรืออาจนาทีต่อนาทีเอาเลยก็ว่าได้ จึงเป็นอะไรที่ยากส์ส์ส์เอามากๆ มีแต่ต้องหันไปอาศัย “จินตนาการ”ต้องหลับตา-จุดเทียน หรือ “นั่งเทียน” อะไรต่อมิอะไรไปตามสภาพ...
ดังนั้น...เอาเป็นว่า ไหนๆ ตลอดช่วงปี-สองปีที่ผ่านมา เนื่องจากบรรดาข่าวคราวความเป็นไปของโลกมันออกจะร้อนฉ่า ร้อนแรง หนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ หรืออย่างที่ว่าๆเอาไว้แล้วนั่นแหละว่า ไม่ว่าจะ “แนวรบ” ด้านไหนต่อไหน ยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง หรือทะเลจีนใต้ นับวันมันชักจะเขม็งตึงเครียด เข้มข้น ขุ่นคลั่ก ยิ่งเข้าไปทุกที ด้วยสีสัน-บรรยากาศในลักษณะทำนองนี้ เลยอาจส่งผลให้ใครต่อใคร เกิดอาการ “หูแหก-ตาแหก” เอาง่ายๆ ชนิดอาจคิดไปไกล คิดไปได้ ถึงขั้นว่าเผลอๆ...อาจเกิดสงครามระดับโลก หรือ “สงครามโลกครั้งที่ 3” ในอีกไม่นานนับจากนี้เอาเลยก็ไม่แน่!!!
เพราะฉะนั้น...สำหรับวันนี้ หรือวันที่กำลังเข้าสู่ช่วงบรรยากาศ “ส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่”คงต้องลองหันมาเปลี่ยนสีสันบรรยากาศ หรือลองหันมา “มองโลกในแง่บวก” เอาไว้หน่อย แม้ไม่ถึงกับ “โลกสวย” แบบชนิดสดชื่นเหมือนยืนอยู่บนเนินเขามากมายสักเท่าไหร่ แต่ก็อาจพอช่วยให้เกิดการลดอาการ “หูแหก-ตาแหก” ลงไปได้มั่ง แม้แต่เล็กๆ-น้อยๆ ก็ยังดี คือถ้าลอง “จินตนาการ”ถึงความฉิบหาย-วายป่วง อันเนื่องมาจากการจุดชนวน จุดไฟนรกสุดขอบฟ้า ในระดับ “สงครามโลกครั้งที่ 3”ขึ้นมาแล้ว คงต้องยอมรับว่า...สำหรับมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาๆ โดยปกติแล้ว ไม่น่าจะมีใคร “บ้า”ไปได้ถึงขั้นนั้น!!! แม้แต่กระทั่งระดับอดีตผู้นำโลก ผู้นำอเมริกา อย่าง “ทรัมป์บ้า”ก็เถอะ อย่างมาก...ก็ “บ้าก็บ้าวะ”ไปตามเรื่อง ตามราว ตามความเลื่อนไหลของฉากสถานการณ์ในแต่ละห้วง แต่ละระยะ แต่ถ้าหากเมื่อไหร่ถึงขั้นต้องจุดไฟนรกสุดขอบฟ้าขึ้นมาด้วยน้ำมือตัวเอง จนอาจนำไปสู่ “สงครามนิวเคลียร์”ในระดับล้างโลก สิ้นโลก เอาเลยก็ไม่แน่ ด้วย “ความเป็นมนุษย์” โดยปกติ-ทั่วไปแล้ว อาจต้องเกิดอาการยับยั้งชั่งใจอยู่มั่ง ไม่มาก-ก็น้อย...
และด้วย “จินตนาการ”ในทำนองนี้นี่เอง...เมื่อนำเอาบรรดาข้อมูล ข้อเท็จจริงต่างๆ เข้ามาบวก มาผสม บรรดานักวิเคราะห์นักสังเกตการณ์ หรือนักประเมินสถานการณ์จำนวนไม่น้อย จึงค่อนข้างเห็นไปในแนวเดียวกันว่า แม้ว่าประเทศมหาอำนาจสูงสุดในโลก ระดับพอๆ กับ “ประมุขโลก” อย่างคุณพ่ออเมริกา จะไม่มีทางยินยอมโดยหัวเด็ด-ตีนขาด ที่จะให้ “มหาอำนาจคู่แข่ง” ใดๆ ก็ตาม ผงาดขึ้นมาเบียด มาแซง มาหายใจรดต้นคอตัวเองได้โดยเด็ดขาด!!! แต่ถึงกระนั้นก็ตาม...ถ้าหากเมื่อไหร่ที่อาจต้องเผชิญหน้าในทางทหารกับ 2 คู่แข่ง อย่างจีนและรัสเซียแบบตรงไป-ตรงมา หรือแบบต้องมีอัน “ฉิบหาย”ลงไปข้าง โอกาสที่คุณพ่ออเมริกาจะ “แฉลบออกข้าง” หรือจะ “ลื่นไถล” แบบเดียวกับการ “ปิดไฟใส่กลอน” ฐานทัพอเมริกันในอัฟกานิสถาน หรือเผ่นหนีแบบหนียะย่าย พ่ายจะแจในครั้ง “สงครามเวียดนาม”ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เอาเลย แม้จะได้ชื่อว่าเป็น “เครื่องจักรสังหาร” อันทรงประสิทธิภาพที่สุดในโลกก็เถอะ...
คือพูดง่ายๆ ว่า...ถ้าหากต้องปะทะกับจีน กับรัสเซีย แบบตรงไป-ตรงมาแล้ว ไม่ใช่แค่อาจต้องฉิบหาย-วายป่วงกันไปทั้งโลก แต่เผลอๆ...อาจ “รบแพ้”เอาเลยก็เป็นได้ เหมือนอย่างที่ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เคยแสดงออกถึงความปริวิตกกังวล ว่าการเผชิญหน้ากับ “มหาอำนาจคู่แข่ง” ถึง 2 รายซ้อน หรือทั้ง 2 ด้านพร้อมกัน ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยบังเกิดขึ้นกับกองทัพอเมริกามาก่อนเลย อีกทั้งพัฒนาการทางการเมือง เศรษฐกิจ และการทหารของคู่แข่งที่ว่า ก็ออกจะน่าเกลียด น่ากลัว อยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะการยกระดับขีดความสามารถ “อาวุธในแบบ” (conventional weapons) เช่นประเภทอาวุธ “ไฮเปอร์โซนิก”ทั้งหลาย ชนิดอาจก้าวล้ำ นำหน้า ไปซะยิ่งกว่ากองทัพอเมริกาไม่รู้จะกี่ช่วงตัว...
ด้วยเหตุนี้นี่เอง...ความร้อนฉ่า ร้อนแรง ของ “แนวรบ”ด้านต่างๆ ที่กำลังปรากฏเป็นข่าวคราวไม่เว้นในแต่ละวัน จึงไม่อาจถือเป็นการสะท้อนความต้องการว่ามหาอำนาจสูงสุดอย่างอเมริกา คิดจะเปิดฉากสงครามระดับโลก คิดจะรบกับรัสเซีย คิดจะรบกับจีนแบบจริงๆ-จังๆ แม้ว่าเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯ และพันธมิตรจะพยายามแวะเวียนเข้ามาในช่องแคบไต้หวันเที่ยวแล้ว เที่ยวเล่า หรือแม้ว่าความพยายามเกลี้ยกล่อม โน้มน้าว ให้องค์กรทางทหารอย่าง “นาโต” ขยายบทบาทอิทธิพลเข้าไปในยูเครน หรือพยายาม “ละเมิดเส้นตาย”ของรัสเซียอย่างกระเหี้ยนกระหือรือ ไปจนถึงการเปิดไฟเขียวแบบเปิดๆ-ปิดๆ ให้กับอิสราเอลในการบุกโจมตีอิหร่าน ฯลฯ ก็ตาม...
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม...สิ่งที่บทบรรณาธิการ “Global Times”ของจีน เขาได้พยายามชี้ให้เห็นไว้ในข้อเขียน บทความ เมื่อช่วงวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา หรือในเรื่อง “US making calculating move in dangerous game of Ukraine crisis” ก็เป็นอะไรที่น่าคิด น่าสะกิดใจ มิใช่น้อย คือแม้ไม่อยากจะรบกับจีนกับรัสเซีย แบบตรงไป-ตรงมา แต่ด้วยการอาศัยการสร้าง “ความตึงเครียด” ให้เกิดขึ้นกับพื้นที่อาณาบริเวณรายรอบมหาอำนาจคู่แข่งทั้งสอง อย่างไม่คิดจะบันยะบันยังใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย สิ่งเหล่านี้นี่แหละ...ที่พอจะช่วยให้ประเทศมหาอำนาจสูงสุดอย่างอเมริกา ยังสามารถดำรงบทบาทและอิทธิพลของตัวเอง ได้อย่างไม่ถึงกับรูดมหาราชมากมายจนเกินไป...
คือพูดง่ายๆ ว่า...การทำให้รัสเซียเป็นอะไรที่น่าเกลียด น่ากลัว ให้มากๆ เข้าไว้ ถึงขึ้นคิดจะบุกยูเครนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าย่อมทำให้บรรดาประเทศในยุโรปตะวันตกทั้งหลาย ที่ถูกอเมริกาปั้นให้เป็นรูป เป็นร่าง มาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ยังคงหนีไม่พ้นต้องหันไป “พึ่งอเมริกา”ในแต่ละเรื่อง แต่ละกรณี อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ หรือทำให้อเมริกายังคงมีบทบาทในการควบคุมยุโรปทั้งยุโรปต่อไปได้อีกสักพักใหญ่ๆ เช่นเดียวกับการทำให้ช่องแคบไต้หวัน ร้อนฉ่า ร้อนแรง ยิ่งขึ้นไปเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้โอกาสที่จะผนึกความเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ไปจนถึงแม้แต่การยุแยงตะแคงรั่วในหมู่ชาติอาเซียนทั้งหลาย ยิ่งมีโอกาสเป็นไปได้ยิ่งขึ้นไปเท่านั้น...
ด้วยเหตุนี้...การสร้างความร้อน ความแรง หรือ “ความตึงเครียด” ให้มากๆ เข้าไว้ใน “แนวรบ”แต่ละด้าน แม้มันอาจไม่ไปไกลถึงขั้นก่อให้เกิดการ “จุดไฟนรกสุดขอบฟ้า”ขึ้นมาจริงๆ แต่มันก็ออกจะเป็น “อันตราย” เอามากๆ ต่อความสงบเรียบร้อย ความอยู่-เย็น-เป็น-สุข ของบรรดาชาวโลกทั้งหลาย อย่างที่บทบรรณาธิการ “Global Times”เขาว่าเอาไว้นั่นแล หรือแทบไม่ต่างอะไรไปจากการไต่ขอบเหว ไต่ขอบประตูนรก อะไรประมาณนั้น โดยเฉพาะถ้าหากมันเกิดนำมาซึ่ง “อุบัติเหตุ” หรือเหตุปัจจัยที่แม้แต่รัฐบาลอเมริกันเองก็อาจควบคุมแทบไม่ได้ อย่างเช่นการคิด “บุกอิหร่าน” ของอิสราเอลในแนวรบตะวันออกกลางโดยลำพัง หรือโดยไม่จำเป็นต้อง “พึ่งอเมริกา” เป็นต้น...
แต่ก็นั่นแหละ...การไต่ขอบเหว ขอบประตูนรก ของคุณพ่ออเมริกา มันอาจเป็นสิ่งที่มิอาจปฏิเสธได้เลย โดยเฉพาะถ้าหากมองถึง “ปัญหาภายใน” ของสังคมอเมริกัน ที่ออกอาการเละเป็นขี้-เละเป็นโจ๊กยิ่งเข้าไปทุกที ดังนั้น...การหันไปคว้าม้า คว้าเรือ ออกมาโขกในกระดาน “หมากรุก” ในแต่ละช่อง แต่ละตา ฉวยโอกาสเพิ่มจังหวะ “รุกฆาต” ในแนวรบแต่ละด้าน ขณะที่จีนและรัสเซียพยายามบีบกระชับด้วย “หมากล้อม” จนกว่าอเมริกาจะ “เหี่ยวปลาย” ลงไปเอง ก็อาจส่งผลให้บรรดาชาวโลกอย่างเราๆ-ทั่นๆ ทั้งหลาย อาจหายใจ-หายคอไม่ทั่วท้องไปโดยตลอดนั่นแหละ เพียงแต่อย่าถึงกับต้อง “หูแหก-ตาแหก”จนเกินไป แม้ว่าโลกแห่งความจริงมันคงไม่ถึงกับ “โลกสวย”มากมายสักเท่าไหร่นัก...