xs
xsm
sm
md
lg

อนาคตอเมริการะหว่างสงครามกลางเมืองกับสงครามโลก???

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทับทิม พญาไท



แรง-ไม่แรง...ก็ยังไม่เป็นที่สรุปโดยชัดเจน แต่ในแง่ความ “เร็ว” แห่งการแพร่ การระบาด ของท่านเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ตัวใหม่ อย่าง “Omicron” นี่สิทั่น!!! คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า อะไรจะว่องไวซะยิ่งกว่า “กามนิตหนุ่ม” เท่านี้ย่อมไม่มีอีกแล้ว เอาง่ายๆ...แค่ดูจาก “ข่าวล่า-มาเรือ” ที่ปรากฏอยู่ในประเทศ “แชมป์โรค” อย่างคุณพ่ออเมริกา เมื่อช่วงวันเสาร์ (18 ธ.ค.) ที่ผ่านมา...

เรียกว่า...จากจำนวน “ผู้ติดเชื้อ” โควิดในระดับวันละนับแสนๆ รายของอเมริกาเขา สรุปได้ว่ามีถึง 73.2 เปอร์เซ็นต์ ที่เป็นเชื้อตัวใหม่อย่าง “Omicron” ไม่ใช่ “Delta” หรืออะไรต่อมิอะไรต่อไปอีกแล้ว ทั้งๆ ที่เพิ่งตรวจพบผู้ติดเชื้อตัวนี้แค่ไม่กี่วัน กี่สัปดาห์ ที่ผ่านมานี่เอง หรือในบางเขต บางพื้นที่ ว่ากันว่า...ปาเข้าไปถึงประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้ติดเชื้อเอาเลยก็ยังมี ส่งผลให้บรรดาอเมริกันชนทั้งหลาย ชักกลายเป็น “ตัวอันตราย” ในสายตาใครต่อใครขึ้นมามั่งแล้ว ชนิดระดับพันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์อย่างคุณทวดอิสราเอล ยังถึงกับต้องประกาศ “ห้ามเข้า” หรือห้ามนักท่องเที่ยว-เดินทางจากอเมริกาเข้าประเทศไปแล้ว เอาเลยถึงขั้นนั้น!!!

เฮ้ออ์อ์อ์....ไปๆ-มาๆ มันคงหนีไม่พ้นไปจาก “ฤดูกาลแห่งการป่วย-การตาย” อย่างที่ผู้นำโลก ผู้นำประเทศ ผู้เฒ่า “โจ ซึมเซา” ท่านได้ออกมากล่าวเตือนเอาไว้ก่อนหน้า เมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยจะป่วย-จะตายกันไปอีกถึงเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ก็ยังมิอาจคาดคะเนได้ ทั้งที่ตายไปแล้วหวิดๆ นับเป็นล้านราย (806,302 ราย) ติดเชื้อสะสมมาแล้วถึง 50,777,087 ราย แม้จะไล่ฉีดวัคซีนแบบฉีดแล้ว-ฉีดอีก ปาเข้าไปถึง 491,254,695 โดสเอาเลยถึงขั้นนั้น แต่ด้วยเหตุเพราะเชื้อตัวใหม่อย่าง “Omicron” มันดันไม่คิดจะกลัววัคซีน แม้จะเข็มหนึ่ง เข็มสอง ไปแล้วก็ตาม เหลืออยู่แค่เข็มสามที่อาจพอช่วยให้มันกลัวๆ ขึ้นมามั่ง แต่ก็นั่นแหละ...การไล่ฉีด บังคับฉีด หรือกระทั่งข่มขู่ให้ฉีด มันออกจะเป็นอะไรที่ขัดแย้งกับ “เสรีภาพ” ตามแบบฉบับอเมริกาหรือบรรดาชาวตะวันตกทั้งหลาย การต้องเจอกับการประท้วง การปฏิเสธในแต่ละรูป แต่ละแบบ ย่อมทำให้โอกาสต่อสู้เอาชนะท่านเชื้อไวรัสโควิด-19 ของคุณพ่ออเมริกา ยิ่งเป็นอะไรที่ยากส์ส์ส์ยิ่งขึ้นไปเท่านั้น...

และที่ยากส์ส์ส์ซะยิ่งกว่ายากส์ส์ส์ยิ่งขึ้นไปอีก...ก็คือด้วยระบบการเมือง-เศรษฐกิจ-สังคมในอเมริกาทุกวันนี้ ดูๆ มันจะไม่ค่อยเอื้ออำนวยไปซะทุกเรื่อง ทุกราว เอาเลยก็ว่าได้ เศรษฐกิจนั้น...แทบไม่ต้องพูดถึง!!! เจอกับภาวะเงินเฟ้อพุ่งขึ้นไปถึง 6.8 เปอร์เซ็นต์ หรือระดับสูงสุดในรอบ 30-40 ปี เล่นเอาบรรดาอเมริกันชนออกอาการ “กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง” กันไปแทบทั้งประเทศ แถมยังตามมาด้วยปัญหา “หนี้สิน” ที่สูงที่สุดในโลก ชนิดเกิดแล้วตาย-ตายแล้วเกิดอีกกี่ชาติต่อกี่ชาติ ก็ยังไม่ถึงแน่ใจว่าจะชดใช้ได้หมด หรือได้ทันกำหนด ไม่ต้องเจอกับภาวะ “ผิดนัดชำระหนี้” ที่ว่ากันว่าใกล้ๆ จะเกิดในช่วงปลายเดือนนี้ไม่ก็กลางเดือนหน้า หรือไม่? อย่างไร? ก็ยังมิอาจสรุปได้ชัดเจน...

แต่ที่หนักหนา-สาหัสยิ่งไปกว่านั้น...ก็คือภาวะความแตกแยกทางการเมืองและสังคม ที่นับวันจะเป็นอะไรที่ชัดเจนและน่าจะหนักหน่วงรุนแรงยิ่งเข้าไปทุกที เพราะอย่างที่เคยว่าไว้แล้วเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานั่นแหละว่า ขนาดระดับ “อภิมหาเศรษฐี” อเมริกัน อย่าง “นายRay Dalio” ผู้ก่อตั้งกองทุนลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก อย่าง “Bridgewater Association” ยังถึงกับเชื่อแล้ว-เชื่ออีก ว่าภายในอีกไม่เกิน 10 ปีข้างหน้า โอกาสที่บรรดาอเมริกันชนทั้งหลายจะต้องเจอกับ “สงครามกลางเมืองครั้งที่ 2” ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ หรือล่าสุด...ผู้ที่แม้จะไม่ใช่อภิมหาเศรษฐี แต่ก็มีข่าวสารข้อมูลภายในมือมากพอที่จะคาดเดา ที่จะประเมิน อะไรต่อมิอะไรภายในสังคมอเมริกันได้ไม่ยาก นั่นก็คือคุณ “Barbara F. Walter” ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการก่อการร้ายและความรุนแรงภายในสังคม โดยเฉพาะในเรื่อง “สงครามกลางเมือง” อย่างเป็นพิเศษ ที่ไม่เพียงแต่ได้เข้าเป็นสมาชิกถาวรขององค์กรวิเคราะห์และวิจัยทางการเมืองระดับโลก อย่าง “CFR” หรือ “Council on Foreign Relations” เมื่อช่วงเกือบ 10 ปีที่ผ่านมานี่เอง ยังมีฐานะ ตำแหน่งเป็นถึง “ที่ปรึกษา CIA” อีกด้วยต่างหาก...

และสิ่งที่คุณ “Barbara” เธอออกมาสรุปไว้ในหนังสือเล่มใหม่ และหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ นำมาขยายความไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็คือการฟันธงและฟันเฟิร์มลงไปอย่างมิดด้าม เต็มด้าม ว่า “อเมริกากำลังใกล้เข้าสู่จุดระเบิดของสงครามกลางเมือง...มากกว่าที่เราทั้งหลายเคยคาดว่าจะเป็นไปได้” นี่...หนักหนา-สาหัสไปแล้วถึงขั้นนั้น ด้วยเหตุเพราะสิ่งที่เคยเป็นอะไรที่ดูสูงส่งวิเศษวิเสโสของอเมริกามาโดยตลอด นั่นก็คือความเป็น “ประชาธิปไตย” นั่นเอง แต่ทุกวันนี้...แม้จะเพิ่งอาสาเป็นเจ้าภาพจัดประชุม “Democracy Summit” ไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็เถอะ แต่ในทัศนะของคุณ “Barbara” แล้วมันกำลังเป็นสิ่งที่นำพาประเทศอเมริกาเข้าสู่ “พื้นที่อันตราย” หนักยิ่งเข้าไปทุกที อันเนื่องมาจากความที่มันไม่ได้เป็น “Democracy” แบบจริงๆ-จังๆ หรือแบบของแท้และดั้งเดิมใดๆ ต่อไปอีกแล้ว แต่หนักไปทาง “Anocracy” หรือเป็นเผด็จการภายใต้เสื้อคลุมแห่งความเป็นประชาธิปไตย หรือเป็นประชาธิปไตยแบบลูกผสม ระหว่างความเป็น “อัตตาธิปไตย” กับ “ประชาธิปไตย” จนก่อให้เกิดความสับสนและความระส่ำระสาย ต่อบรรดาผู้ถือหางประชาธิปไตยในคนละแบบ คนละข้างหรือคนละฝ่าย ที่ต่างก็ใกล้จะเปิดฉาก “สงครามกลางเมือง” ระหว่างกันและกันเต็มที...

แต่ที่หนักและอาจ “หนาวว์ว์ว์” ยิ่งไปกว่านั้น...ก็คือการออกมา “แจ้งเตือน” สังคมอเมริกัน รัฐบาล ไปจนถึงกระทรวงกลาโหมของอดีตนายทหารเกษียณ 3 ราย ผ่านข้อเขียน บทความ ในหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ โดย “พลตรีPaul Eaton” “พลเอกSteven Anderson” และ “พลตรีAntonio Taguba” ที่แต่ละรายล้วนแต่เป็นอดีตนายทหารที่โดดเด่น โด่งดัง ในวิชาชีพตัวเองมาโดยตลอด หรือต่างได้รับการยกย่องสรรเสริญ ได้รับเหรียญเชิดชูชนิดต่างๆ ชนิดต้องเก็บใส่ลัง ใส่โกดัง ไว้ที่บ้านไปด้วยกันทั้งสิ้น แม้แต่ผู้ที่มีสัญชาติเป็นฟิลิปปินส์ อย่าง “พลตรีAntonio Taguba” ก็เถอะ แต่ในแง่ของฝีไม้ลายมือ ในการฝึก การอบรม บรรดาทหารในกองทัพ ตั้งแต่ยุคที่อเมริกาตัดสินใจบุกอิรักโน่นเลย ถือได้ว่าเป็นผู้ที่ “เข้าถึง-เข้าใจ” ต่อบรรดาทวยทหารอเมริกันอย่างชนิดลึกซึ้งเอามากๆ...

แต่สิ่งที่เป็น “คำเตือน” ของอดีตทวยทหารทั้ง 3 นี่เอง...ที่ฟังแล้ว “หนาวว์ว์ว์” เอามากๆ เพราะเจ้าตัวเองถึงกับสารภาพไว้ในข้อเขียน บทความว่ายังรู้สึก “หนาวเข้าไปถึงกระดูก” สำหรับความเคลื่อนไหว ความเป็นไปได้ ที่อาจเกิดการ “ก่อรัฐประหาร” ขึ้นมาในสังคมอเมริกัน หรือภายในกองทัพอเมริกา ที่บรรดาความแตกแยก ขัดแย้ง ทางการเมืองและสังคมซึมลึกเข้าไปถึงยิ่งเข้าไปทุกที ไม่ว่านับตั้งแต่กรณีการก่อจลาจลบุกรัฐสภาช่วงวันที่ 6 มกราคมเป็นต้นมา ไปจนความพยายามบีบบังคับให้บรรดาทหารอเมริกันทั้งหลาย ต้องฉีดวัคซีน ไม่งั้นต้องเจอปลดออก ไล่ออก บรรดาแรงกดดันทางการเมือง สังคม ไปจนถึงเศรษฐกิจที่กำลังตกสะเก็ดอย่างแทบไม่อาจเยียวยาได้เลย ฯลฯ อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้นี่เอง...ที่ทำให้อดีตทหารทั้ง 3 เชื่อว่า กำลังจะนำไปสู่การก่อการรัฐประหารในอเมริกา ชนิดถึงกับต้องออกมาแจ้งเตือนให้กระทรวงกลาโหมเตรียมรับมือเอาไว้ซะแต่เนิ่นๆ หรือก่อนหน้าที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งใหม่จะมาถึง...

นี่...แทบไม่น่าเชื่อ-แต่คงต้องเชื่อนั่นแหละทั่น!!! ว่าอะไรต่อมิอะไรในสังคมอเมริกันทุกวันนี้ มันชัก “เละเป็นขี้-เละเป็นโจ๊ก” ยิ่งเข้าไปทุกที และอาจด้วยเหตุนี้นี่เอง...ที่ทำให้ผู้นำอเมริกันที่กำลังมี “คะแนนนิยม” ตกต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ เลยต้องหันไปหา “ศัตรู” หรือ “คู่แข่ง” ภายนอก อย่างจีนและรัสเซีย ชนิดเป็นระบบเป็นกิจการ หรืออย่างเอาจริง-เอาจังยิ่งเข้าไปทุกที จน “แนวรบ” ในแต่ละด้านร้อนฉ่า ร้อนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ หรือพูดง่ายๆ ว่า...ถ้าหากไม่คิดจะจุดชนวน “สงครามโลกครั้งที่ 3” ขึ้นมาให้ทันท่วงที โอกาสที่จะต้องเจอกับ “สงครามกลางเมืองครั้งที่ 2” ในอเมริกา ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เอาเลย!!!




กำลังโหลดความคิดเห็น