วันนี้...คงต้องขออนุญาตชวนไปแวะแถวๆ “ปากประตูบ้าน” ของคุณพ่ออเมริกา หรือแถวๆ ประเทศเกาะเล็กๆ ในทะเลแคริบเบียนอย่างประเทศ “คิวบา” เขาไว้สักหน่อย เพราะช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หรือเมื่อช่วงวันเสาร์ที่ 25 ธ.ค.ใกล้ๆ จะสิ้นปีนี้นี่เอง ก็มีข่าวเล็กๆ ที่แทบไม่มีใครคิดจะสนใจ หรือแทบไม่คิดจะนำมาเป็น “ข่าว” พาดหง พาดหัว แบบประเภทข่าวการฮึ่มกันไป-ฮึ่มกันมา ระหว่างรัสเซียกับอเมริกาและนาโตในกรณียูเครน ข่าวการคิดจะ “บอมม์ม์ม์” อิหร่านของอิสราเอล หรือข่าวการยั่วยวนกวนส้นตีนคุณพี่จีนแถวๆ ช่องแคบไต้หวัน ฯลฯ อะไรทำนองนั้น...
นั่นก็คือ...ข่าวการเซ็นสัญญาข้อตกลงความร่วมมือระยะยาว ระหว่างรัฐบาลจีนกับรัฐบาลคิวบา ในการสนับสนุนส่งเสริม “อภิมหาโครงการเปลี่ยนโลก” หรือโครงการ “BRI” (Belt and Road Initiative) ของคุณพี่จีนเขา อันถือเป็นข้อตกลงความร่วมมือที่ออกจะกว้างขวางและครอบคลุมเอามากๆ อีกทั้งต่อเนื่อง ยาวนาน ชนิดสามารถ “ฝังราก” หรือ “ฝังลึก” อะไรต่อมิอะไรต่างๆ ได้อย่างเป็นระบบและเป็นกระบวนการไปอีกตราบนานเท่านาน ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือในการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน ความร่วมมือในด้านเทคโนโลยี วัฒนธรรมและการศึกษา ไปจนถึงการท่องเที่ยว สื่อสาร พลังงานและความร่วมมือในเรื่องเทคโนโลยีชีวภาพ ฯลฯ ระหว่างพญามังกรจีนกับประเทศปากประตูหน้าบ้านของคุณพ่ออเมริกาอย่างคิวบา ชนิดไหลลื่น ลอดเลื้อย และโอบกระหวัดรัดพัน ได้อย่างน่าตื่นตา ตื่นใจ เอามากๆ...
คืออันที่จริง...ประเทศเล็กๆ อย่างคิวบานั้น แม้ว่าเล็กก็จริงแต่ออกไปทาง “เล็กดี-รสโต” อะไรประมาณนั้น หรือเป็นประเทศที่คุณพ่ออเมริกาออกจะมีความรู้สึก “อ่อนไหว” เอามากๆ กับความเป็นมา-เป็นไปของประเทศดังกล่าว โดยเฉพาะหลังเกิดการเปลี่ยนแปลงจากที่เคยตกอยู่ในฐานะสมุนบริวารของอเมริกา หรือของ “มาเฟีย” อเมริกัน กลายมาเป็นประเทศปีกซ้ายที่ฝักใฝ่คอมมิวนิสต์ หรือสังคมนิยม ภายใต้การลุกฮือขึ้นปฏิวัติของคุณลุง “ฟิเดล คาสโตร” เพื่อนซี้แหงย่ำปึ่ก ของอดีตอภิมหานักปฏิวัติอย่าง “เช เกวารา” นั่นแหละ ความพยายามหาทางเล่นงาน ระดับคิดลอบฆ่า ลอบสังหารผู้นำประเทศนี้ ไม่รู้จะกี่สิบ-กี่ร้อยครั้งของคุณพ่ออเมริกา เพื่อหาทางเปลี่ยนแปลงระบอบการเมือง-การปกครอง ให้หวนกลับคืนมาเป็นบริวารของอเมริกาหรือไม่ก่อให้เกิด “อันตราย” ใดๆ ที่จะเข้ามาเยือนถึงปากประตูหน้าบ้านของอเมริกา จึงเป็นอะไรที่เอาจริง-เอาจังมาโดยตลอด แม้จะประสบความล้มเหลวครั้งแล้ว ครั้งเล่า...
โดยเฉพาะในครั้งที่ประเทศคิวบาต้องหันไป “ซบอก” หมีขาวโซเวียตรัสเซีย หลังจากความพยายามก่อการกบฏที่ “อ่าวหมู” (Bay of Pigs) ของอเมริกาและกลุ่มกบฏคิวบา อุบัติขึ้นมาในช่วงปี ค.ศ. 1962 จนนำไปสู่วิกฤตการณ์ระดับโลก ที่รู้จักกันในนาม “วิกฤตจรวดคิวบา” หรือ “วิกฤตเดือนตุลาฯ” หรือ “วิกฤตแคริบเบียน” ฯลฯอะไรทำนองนั้น ซึ่งแทบไม่ต่างอะไรไปจาก “วิกฤตยูเครน” ระหว่างรัสเซียกับอเมริกาและนาโตในทุกวันนี้ เพราะการนำเอา “จรวดนิวเคลียร์” ของโซเวียตรัสเซียไปติดตั้งไว้ในคิวบานั้น เป็นอะไรคุณพ่ออเมริกายอมไม่ได้โดยเด็ดขาด!!! ไม่คิดจะ “Open Door Policy” เหมือนอย่างที่พยายามชักจูงให้ยูเครนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกนาโต เพื่อที่จะสามารถติดตั้งจรวดเอาไว้ในยูเครน หรือสามารถขยายอิทธิพลของอเมริกาและนาโต เข้าไป “ละเมิดเส้นตาย” ของรัสเซียทุกวันนี้ เอาเลยแม้แต่น้อย...
แต่ก็นั่นแหละ...ด้วย “ความร่วมมือทางทหาร” ระหว่างโซเวียตรัสเซียกับคิวบาเมื่อครั้งอดีต ย่อมผิดแผกแตกต่างไปจากความร่วมมือระหว่างคุณพี่จีนกับประเทศเกาะเล็กๆ แห่งนี้เมื่อช่วงไม่กี่วันผ่านมา แบบคนละเรื่อง คนละม้วน ด้วยเหตุเพราะมันไม่ได้มีสีสันบรรยากาศใน “ทางทหาร” ใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย เป็นเพียงแค่ความร่วมมือในทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม เทคโนโลยี ฯลฯ ที่แม้จะก่อให้เกิดผลในทาง “การเมือง” เพียงใดก็ตาม อันนี้นี่แหละ...ที่ต้องถือเป็นภาพสะท้อนของความเชี่ยวกราก หรือ “ความเขี้ยว” ของพญามังกรอย่างคุณพี่จีนในการลอดเลื้อยและโอบกระหวัดรัดพัน บรรดาประเทศต่างๆ ด้วยอภิมหาโครงการที่เรียกขานกันในนาม “BRI” ชนิดแทบจะเกลี้ยงไปทั้งโลก หรือชนิดจ่อเข้ามาถึงปากประตูหน้าบ้านของคุณพ่ออเมริกาแบบเงียบๆ เชียบๆ หรือแบบแทบไม่รู้จะคัดค้าน ต่อต้าน เหมือนอย่างที่เคยต่อต้านอภิมหาอำนาจโซเวียตรัสเซียเมื่อครั้งอดีต กันในแบบไหน? อย่างไร???
และอันที่จริงก็ไม่ใช่แต่เฉพาะ “ปากประตูหน้าบ้าน” ของอเมริกาอย่างประเทศคิวบาเท่านั้น ที่ “เสร็จพญามังกร” หรือเรียบโร้ยย์ย์ย์โรงเรียนจีน ไปอย่างมิเป็นที่พึงสงสัยใดๆ อีกต่อไป ยิ่งถ้าหากหันไปดู “สวนหลังบ้าน” ของคุณพ่ออเมริกาในช่วงนี้ ยิ่งเป็นอะไรที่น่าหนาวว์ว์ว์ น่าเย็นยะเยือกยิ่งขึ้นไปใหญ่ เพราะช่วงประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา คงต้องเรียกว่า...บรรดาประเทศต่างๆ แทบทั่วทั้งทวีปละตินอเมริกา หรือกว่าครึ่งต่อครึ่ง ต่างค่อยๆ กลายสภาพไปเป็น “รัฐบาลปีกซ้าย” หรือรัฐบาลที่ไม่คิดจะเอาด้วยกับประเทศ “ทุนนิยมเสรี” อย่างอเมริกา อย่างเห็นได้ชัดเจนยิ่งเข้าไปทุกที ไม่ว่าจะประเทศเม็กซิโก อาร์เจนตินา โบลิเวีย เปรู ฮอนดูรัส คิวบา นิการากัว เวเนซุเอลา ฯลฯ หรือแม้แต่ประเทศยักษ์ใหญ่แห่งทวีปนี้อย่างบราซิล คงไม่น่าจะเกินปีหน้า หรือไม่เกินช่วงเลือกตั้งครั้งใหม่นั่นแหละ ที่นักการเมืองปีกซ้ายอย่างอดีตประธานาธิบดี “Luiz Inacio Lula da Silva” น่าจะผงาดขึ้นเป็นประธานาธิบดีได้อีกครั้ง แทนที่นักการเมืองปีกขวา ผู้ได้ชื่อ ฉายา ว่า “ทรัมป์ 2 แห่งละตินอเมริกา” อย่าง “นายJair Bolsonaro” ที่ทำเอาบรรดาชาวบราซิเลียนทั้งหลาย ติดเชื้อไวรัสโควิดไม่ว่าจะสายพันธุ์ “Delta” หรือ “Omicron” ชนิดงอมๆ แงมๆ อยู่ในทุกวันนี้ และล่าสุด...ก็คือประเทศชิลี ที่เพิ่งเกิดการเทคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีให้กับนักการเมืองหนุ่มปีกซ้าย อย่าง “นายGabriel Boric” ผู้ถึงกับกล้าป่าวประกาศแบบตรงไป-ตรงมา ว่าจะหาทางทำให้ประเทศชิลี กลายเป็น “จุดอวสานของทุนนิยมเสรี” เอาเลยถึงขั้นนั้น!!!
การที่ “สวนหลังบ้าน” ของอเมริกา...เต็มไปด้วยพวก “ปีกซ้าย” โผล่หน้า โผล่ตา ชนิดสลอนไปแทบจะทั่วทั้งหมด ย่อมทำให้คุณพ่ออเมริกาออกจะหนาว ออกจะยะเยือกมิใช่น้อย โดยเฉพาะถ้าหากบรรดาพวกรัฐบาลปีกซ้ายเหล่านี้ หันไปแสดงความปลาบปลื้ม ยินดี กับอภิมหาโครงการ “BRI” ของรัฐบาลคอมมิวนิสต์ฉบับของจริง-ของแท้อย่างคุณพี่จีน มากยิ่งขึ้นไปเท่าไหร่ เรียกว่า...ถึงขั้นที่รัฐบาลอเมริกัน ถึงกับต้องส่งรองที่ปรึกษาความมั่นคงด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ อย่าง “นายDaleep Singh” ออก “เดินสาย” ร่วมกับหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการด้านการเงินแห่ง “US International Development Finance Corporation” อย่าง “นายDavid Marchick” ไปเยือนประเทศโคลอมเบีย เอกวาดอร์ ปานามา ฯลฯ พร้อมกับเสนอที่จะให้เงินกู้จำนวนไม่รู้กี่ร้อย กี่พันล้านดอลลาร์ ให้กับบรรดาประเทศเหล่านี้ ตามแนวทาง แนวนโยบาย ที่เรียกขานกันในนาม “B3W” หรือ “Build Back Better World Partnership” ที่ถูกประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาเมื่อต่อสู้กับอภิมหาโครงการ “BRI” ของคุณพี่จีนกันโดยเฉพาะ...
คือพูดง่ายๆ ว่า...มาถึงยุคนี้ สมัยนี้ โอกาสที่คุณพ่ออเมริกาจะปัดกวาดสวนหลังบ้าน ปากประตูหน้าบ้าน ด้วยวิธีสกปรกๆ แบบการก่อการปฏิวัติ ยึดอำนาจ เปลี่ยนแปลงอำนาจ หรือลอบสังหารผู้นำประเทศ ฯลฯ เหมือนยุคก่อนๆ แทบจะเป็นไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว อีกทั้งเมื่อเจอกับลีลาการลอดเลื้อยของ “พญามังกรจีน” ที่แทบไม่ได้สนใจว่าใครจะเป็นปีกขวา ปีกซ้าย แต่ไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ ล้วนแล้วแต่ต้องเจอกับ “ข้อเสนอที่เอ็งมิอาจปฏิเสธได้” ของคุณพี่จีน จนทำให้ไม่ว่าสวนหลังบ้าน หรือปากประตูหน้าบ้านของอเมริกา เต็มไปด้วยผู้ที่พร้อมจะ “เซ็งลี้ฮ้อ” กับจีนไปด้วยกันทั้งสิ้น อันนี้นี่แหละที่ต้องถือว่าเป็น “ศิลปะ” เป็น “ขีดความสามารถ” ของพญามังกรจีนกันโดยเฉพาะ และทำให้แม้ว่าคุณพ่ออเมริกาพยายามที่จะเดิน “หมากรุก” คว้าม้า คว้าเรือ โขกลงไปในกระดานแบบ “รุกฆาต” ไปทั่วทุกแนวรบ ไม่ว่าแนวรบยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง หรือทะเลจีนใต้ แต่เมื่อเจอกับ “หมากล้อม” ของจีน ที่ลอดเลื้อยเข้าไปโอบกระหวัดรัดพัน ตลอดสวนหลังบ้านและปากประตูหน้าบ้านอเมริกาอย่างชนิดมิรู้จะขยับตัวไปทางไหน โอกาสที่อภิมหาอำนาจสูงสุดแห่งโลกอย่างอเมริกาจะ “โดดเดี่ยว-โฮมอโลน” ถึงขั้นต้อง “เหี่ยวปลาย” ลงไปเอง จึงใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เอาเลย!!!