โลกแห่งความจริงที่คงต้อง “เจ๊ง...กันไปข้าง”

เพิ่งผ่านการพบปะเจรจาเจ๊าะๆ แจ๊ะๆ กับหนึ่งในผู้นำ “มหาอำนาจคู่แข่ง” อย่างประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ของจีนไปหมาดๆ แต่โดยลักษณะอาการที่ค่อนข้างคึกๆ คักๆ หลังไปส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่เมื่อวัน-สองวันที่ผ่านมา หรือเพราะด้วยการฉีด “สเตียรอยด์” เข้าเส้นเลือดไปสักกี่เข็ม ต่อกี่เข็ม หรือไม่ อย่างไร ก็มิอาจทราบได้ ผู้นำมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก อย่าง “ผู้เฒ่าโจ ซึมเซา” หรือ “โจ ไบเดน” ก็น่าจะได้โอกาส ได้จังหวะเวลา ในการพบปะเจ๊าะๆ แจ๊ะๆ เจรจากับอีกหนึ่งในผู้นำมหาอำนาจคู่แข่ง อย่างประธานาธิบดีรัสเซีย “วลาดิมีร์ ปูติน” ภายในช่วงก่อนสิ้นปีนี้...

อันนี้ถ้าว่ากันตาม “ข่าวล่า-มาเรือ” ที่ไม่ว่าจะเป็นระดับรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซีย “นายSergey Ryabkov” หรือโฆษกประธานาธิบดีแห่งวังเครมลิน “นายDmitry Peskov”ต่างออกมา “ฟันเฟิร์ม” กับทีวีช่อง 1 ของรัสเซีย เอาไว้เมื่อช่วงวันอาทิตย์ (21 พ.ย.) ที่ผ่านมา ซึ่งก็ถือเป็นสิ่งที่อาจพอช่วยให้สีสัน บรรยากาศ ของโลกใบนี้ ไม่ถึงกับต้องขมึงตึงเครียดมากมายเกินไปนัก แต่จะถึงขั้น “โลกสวย” แบบที่บรรดาคอลัมนิสต์ของ “เอเชียไทมส์ ออนไลน์” ไม่ว่าจะเป็นอดีตท่านทูตอินตะระเดีย “เอ็ม.เค. ภัทรกุมาร” (M.K. Bhadrakumar) หรือ “นายเดวิด พี. โกลด์แมน” (David P. Goldman) ร่ายเรียงเอาไว้ข้อเขียน บทความเรื่อง “ซัมมิตสหรัฐฯ-จีน ประกาศเริ่มต้นของการแข่งขันอย่างมีความรับผิดชอบ” (US, China Commence responsible Competition) และ “รูปร่างหน้าตาของข้อตกลงสหรัฐฯ-จีนอาจเกิดขึ้นภายหลังซัมมิตสี-ไบเดน” (The shape of a potential US-China deal) ดังที่สำนักข่าว “ผู้จัดการ” ของหมู่เฮา นำมาถ่ายทอดเอาไว้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หรือไม่ อย่างไรนั้น คงต้องเก็บไป “คิดเป็นการบ้าน” เอาเองก็แล้วกัน...

คือโดยลักษณะอาการของผู้นำอเมริกันอย่าง “ผู้เฒ่าโจ” นั้น...ดูๆ ท่านน่าจะออกไปทาง “จิงโจ้” ไม่ได้ถึงกับ “จริงใจ” ต่อการเจ๊าะๆ แจ๊ะๆ การพบปะเจรจากับบรรดาผู้นำมหาอำนาจคู่แข่งไม่ว่าจะจีน หรือรัสเซีย มากมายสักเท่าไหร่นัก เพราะขนาดเพิ่งรับปาก รับคำ กับประธานาธิบดี “สี” ว่าจะ “ไม่เล่นกับไฟ” หรือไม่คิดหันไปยุยง ส่งเสริม ความพยายามดิ้นรนที่จะเป็นเอกราชของไต้หวัน ยังพร้อมยอมรับต่อ “นโยบายจีนเดียว” อย่างไม่คิดจะเป็นอื่น แต่ก็เมื่อวันศุกร์ (19 พ.ย.) ที่ผ่านมานี่เอง หรือจะเรียกว่า...ตดยังไม่ทันหายเหม็น!!! ผู้ช่วยรัฐมนตรีเศรษฐกิจ พลังงาน และสิ่งแวดล้อมของอเมริกา “นายJose Fernandez” ก็ออกมาป่าวประกาศแบบเสียงดัง-ฟังชัด ว่าเตรียมจะพบปะ เปิดประชุมเสมือนจริง กับรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไต้หวัน “นายWu Tsung-tsong” และรัฐมนตรีเศรษฐกิจ “นายWang Mei-hua” เพื่อกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับไต้หวันเป็นครั้งที่ 2 ในวันจันทร์ที่ 22 พ.ย. หลังจากเคยเริ่มต้นประชุมครั้งแรกในยุค “ทรัมป์บ้า” หรือยุคที่สงครามการค้า สงครามเทคโนโลยี ฯลฯ ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ กำลังลุกลามบานปลาย ชนิดแทบกลายเป็น “สงครามเลือด” เอาเลยถึงขั้นนั้น...

หรือพูดง่ายๆ ว่า...ไม่ว่าจะถือเป็นผลประโยชน์ของอเมริกา ในอันที่จะได้ “ชิป” ราคาถูกๆ ที่ผลิตขึ้นมาในไต้หวัน เอาไว้ “แข่งขัน” กับจีน อย่างมีความรับผิดชอบหรือไม่ เพียงใด ก็แล้วแต่ หรือจะได้ประโยชน์จากการส่ง “หมูเนื้อแดง” ที่เร่งสารพิษเข้าไปจำหน่ายในไต้หวันได้อย่างอิสระและเสรี ฯลฯ แต่สิ่งเหล่านี้...ก็ดูจะทำให้ความคลุมๆ เครือๆ ตามแบบยุทธศาสตร์ “Strategic Ambiguity” ของอเมริกา ออกจะ “เอียงข้าง” ไปทางไต้หวันนั่นแหละเป็นหลัก นั่นยังไม่รวมไปถึงการหันไปยุยงส่งเสริมประเทศเล็กๆ ในยุโรปตะวันออก อย่างลิทัวเนีย ให้เปิดบ้านต้อนรับ “ความเป็นประเทศไต้หวัน” อย่างเป็นทางการจนต้องเกิดการถอนทูต ลดระดับทางการทูต กับพญามังกรจีน กลายเป็นเรื่อง เป็นราว ขึ้นมาจนได้ หรือยังพอสรุปได้ว่า โอกาสที่ประเทศมหาอำนาจสูงสุดอย่างคุณพ่ออเมริกา จะยอมลด-ละ-เลิก รายการ “ยั่วยวนกวนส้นตีน” ต่อประเทศมหาอำนาจคู่แข่งอย่างจีนลงไปมั่ง ภายในอนาคตเบื้องหน้านั้น ยัง “ยากส์ส์ส์” ที่จะเป็นไปได้ง่ายๆ ไม่ว่าทั้งสองฝ่ายจะต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันในทางเศรษฐกิจ หรือทางผลประโยชน์ใดๆ ก็ตาม...

ไม่ต่างไปจากคุณน้ารัสเซียนั่นแหละ...แม้ว่าจะมีรายการพบปะเจ๊าะๆ แจ๊ะๆ ระหว่างผู้นำทั้งสองฝ่ายในเร็วๆ นี้ แต่โดยการยุ การโหม การกระพือความเลวร้ายของฝ่ายตรงข้าม ไม่ว่าจะไล่มาตั้งแต่รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา รัฐมนตรีกลาโหม ตลอดไปจนสื่อกระแสหลักของอเมริกา ฯลฯ ต่างพยายามหันมา “สร้างกระแส” ถึงการ “เตรียมบุกยูเครน” ของกองทัพรัสเซียอย่างชนิดเป็นงาน เป็นการ เป็นระบบและเป็นกิจการเอาเลยก็ว่าได้ เช่นการออกข่าว ปล่อยข่าว ของสำนักข่าว “CBS” เมื่อช่วงวันเสาร์ (20 พ.ย.) ที่ผ่านมา ด้วยการระบุถึง “แหล่งข่าวระดับสูง” ของฝ่ายความมั่นคงอเมริกา สรุปว่ากองทัพรัสเซียกำลังเตรียมบุกยูเครน ในช่วง “ฤดูหนาว” ที่กำลังจะมาถึง ชนิดถึงขั้นที่ทำให้ผู้บัญชาการกองกำลังทหารราบและหัวหน้าหน่วยข่าวกรองยูเครน อย่าง “พลเอกKyrylo Budanov” ที่ไม่เคยมีปฏิกิริยาใดๆ เลยต่อข่าวคราวทำนองนี้ เริ่มหันมาขยายผล หันมาต่อเติม เสริมแต่ง ด้วยการระบุเอาไว้ถึงขั้นว่า กองทัพรัสเซียเตรียมจะบุกยูเครนภายในสิ้นเดือนมกราคมปีหน้า ไม่ก็ต้นเดือนกุมภาฯ ปีเดียวกัน เล่นเอาบรรดาใครต่อใครในยุโรปขนหัวลุก ขนคอตั้ง กันไปเป็นแถบๆ...

คือแม้ว่าโฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย “นางMaria Zakharova” จะออกนั่งยัน นอนยัน ว่าข่าวคราวดังกล่าว หรือข้อวิเคราะห์ ข้อสมมติฐานในลักษณะดังกล่าว ไม่มีมูลความจริงเอาเลยแม้แต่น้อย หรือถือเป็น “Fake News” ล้วนๆ เช่นเดียวกับโฆษกเครมลิน “นายDmitry Peskov” ที่ถึงกับสรุปว่าการออกข่าว ปล่อยข่าวทำนองนี้ ถือเป็นอาการ “ฮิสทีเรีย” ชนิดหนึ่ง แต่การโหมกระแส จุดกระแส ในลักษณะที่ว่า ก็ยังคงเป็นไปอย่างเป็นระบบและเป็นกิจการเหมือนเดิม ชนิดส่งผลให้นักการเมืองอเมริกาจำนวนนับสิบๆ ราย ถึงกับต้องลงทุนเขียนจดหมายน้อยไปถึงประธานาธิบดีอเมริกัน เร่งให้ความช่วยเหลือต่อประเทศยูเครน และให้ส่งกำลังทหารสหรัฐฯ และพันธมิตรยาตราทัพเข้าสู่ทะเลดำเอาเลยถึงขั้นนั้น ภายใต้ความเคลื่อนไหวในลักษณะนี้นี่เอง ที่ทำให้อดีตรัฐมนตรีคลังอเมริกันเองในยุครัฐบาล “เรแกน” อย่าง “ดร.Paul Craig Robert” ต้องออกมาอธิบายเอาไว้ทำนองว่าการโหมกระแส จุดกระแส ข่าวคราวลักษณะเช่นนี้ อาจถือเป็นนโยบายหลักๆ ของรัฐบาลอเมริกันและข่ายงานความมั่นคงทั้งหลาย ที่ “ต้องการสร้างรัสเซียให้กลายเป็นศัตรู” เพื่อ “คงไว้ซึ่งอำนาจและอิทธิพลรวมทั้งผลกำไรที่อเมริกาเคยได้รับจากการควบคุมยุโรปมาโดยตลอด”...

นี่...จะ “จริงใจ” หรือ “จิงโจ้” คงต้องไปวินิจฉัยกันเอาเอง!!! แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...โดยยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ไม่ว่ายุคไหนต่อยุคไหน สมัยไหนต่อสมัยไหน และไม่ว่าโดยพรรคใดต่อพรรคใดขึ้นมาเป็นรัฐบาลก็เถอะ ล้วนแล้วแต่พร้อมที่จะป่าวประกาศยืนหยัด ยืนยัน ถึงความเป็น “มหาอำนาจสูงสุด” อันดับหนึ่งของโลก ที่มิอาจปล่อย หรือมิอาจเปิดโอกาสให้ใคร หรือประเทศใดๆ ก็ตาม เข้ามาขันแข่ง เบียดชิงสถานะดังกล่าวได้โดยเด็ดขาด ทุกสิ่งทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้บทบาทและอิทธิพลของมหาอำนาจสูงสุดเพียงรายเดียว หรือต้องเป็น “โลกขั้วเดียว” นั่นคือโลกที่ “จักรวรรดิอเมริกา” คือผู้ที่กำหนด “สงคราม” หรือ “สันติภาพ” ตามแบบฉบับ “Pax Americana” ไปโดยตลอด ดังนั้น...สำหรับ “มหาอำนาจคู่แข่ง” อย่างจีนและรัสเซีย ที่ได้ป่าวประกาศไว้ล่วงหน้า ว่าจะต้องร่วมมือหาทางทำให้โลกทั้งโลกเป็น “โลกแบบหลายขั้วอำนาจ” ให้จงได้!!! ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่าจะเจ๊าะแจ๊ะ เจรจา ขั้นไหนต่อขั้นไหน ระดับไหนต่อระดับไหน ช่วงไหนจังหวะไหนก็แล้วแต่ สุดท้าย...ก็มีแต่ต้องนำไปสู่บทสรุป แบบชนิดหนีไม่พ้นต้อง “เจ๊ง...กันไปข้าง” อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้เลย อันนี้นี่แหละ...ที่น่าจะเป็น “โลกแห่งความเป็นจริง” ซึ่งอาจไม่ถึงกับ “โลกสวย” มากมายสักเท่าไหร่นัก...