อนาคตที่มองไม่เห็นของปชป.

อ่านข่าวสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์หลายคนออกมาชูคุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ว่า สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้จากผลงานทั้งในปัจจุบันและอดีต และบอกว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะชูคุณจุรินทร์เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

คุณจุรินทร์เป็นนายกรัฐมนตรีได้แน่ เหมือนกับใครอีกหลายคนก็เป็นได้ เพราะขนาดยิ่งลักษณ์ ชินวัตรก็ยังเคยเป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว และถูกต้องแล้วที่พรรคต้องเสนอชื่อหัวหน้าพรรคตัวเองเป็นนายกฯ ดังนั้นการเป็นได้ไม่ได้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ถามว่ามีโอกาสจะได้เป็นมั้ยบอกตรงๆ ว่ายังมองไม่เห็นว่าจะเป็นไปได้อย่างไร

คนในพรรคอาจเชียร์ว่าคุณจุรินทร์มีผลงานมาก อาจจะมีจริงแต่ถ้าจะเป็นผลงานที่สามารถสร้างความนิยมให้มากกับเจ้าตัวจนมีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีได้นั้น ต้องเป็นผลงานที่ชาวบ้านทั่วไปจับต้องได้จนเกิดเป็นกระแสขึ้นมา แต่บอกตรงๆ ว่ายังไม่มีสิ่งที่เรียกว่ากระแสสำหรับคุณจุรินทร์เลย

บุคลิกของคุณจุรินทร์แม้จะดูอ่อนโยนไม่ก้าวร้าวดุดัน แต่ไม่มีสิ่งที่เรียกภาษาฝรั่งว่าคาริสมา หรือเสน่ห์ดึงดูดอะไร ดูเรียบๆ หนักไปทางจืดๆ เนือยๆ ด้วยซ้ำไป อาจจะดูคล้ายๆ กับคุณชวน หลีกภัย แต่คุณชวนก็ยังมีวาจาที่เชือดเฉือนและคารมคมคายเป็นจุดขาย

เห็นได้จากการสำรวจของนิด้าโพลว่าประชาชนจะสนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ไม่มีรายชื่อของคุณจุรินทร์อยู่ในตัวเลือกนายกรัฐมนตรีเลย ส่วนกระแสพรรค พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังเป็นรองอีกหลายพรรคการเมืองจนใครต่อใครก็บอกว่ากู่ไม่กลับแล้ว

ดังนั้นมองไม่ออกเลยว่าความเชื่อมั่นของชาวประชาธิปัตย์ต่อคุณจุรินทร์นั้นมาจากไหน

จริงอยู่ในอดีตพรรคประชาธิปัตย์เคยรุ่งเรืองล้มเหลวตกต่ำแล้วกลับมารุ่งเรืองได้อีก เพราะความเป็นสถาบันการเมืองต่างกับพรรคการเมืองอื่นที่เป็นพรรคเฉพาะกิจ พรรคอื่นๆ เป็นพรรคหัวหน้าตั้งและมีคนเป็นเจ้าของพรรค ถึงเวลาหัวหน้าหรือเจ้าของพรรควางมือก็อาจจะล่มสลายไป แต่พรรคประชาธิปัตย์อยู่ได้เพราะมีฐานมวลชนที่ภักดีกับพรรค โดยเฉพาะในภาคใต้และกทม.

แต่ภาคใต้วันนี้สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ไม่ง่ายเหมือนเดิมแล้ว ประเภทที่ว่าส่งเสาไฟฟ้าลงประชาชนก็ยังเลือกนั้นกลายเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว และกลายเป็นคำที่กลับมาทิ่มแทงพรรคประชาธิปัตย์เหมือนกับดูถูกประชาชนว่าไม่มีความคิด วันนี้คนใต้รุ่นปัจจุบันไม่ได้มีความผูกพันกับพรรคประชาธิปัตย์ และคนใต้รุ่นเก่าไม่น้อยก็ผิดหวังกับความภักดีต่อพรรคที่ไม่ได้ส่งผลอะไรเป็นรูปธรรมกลับมา

ความภักดีกลับกลายเป็นหนามที่ทิ่มแทงใจคนใต้เพราะทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่คนใต้เลือกเข้าสภาฯ คิดว่าประชาชนเป็นของตาย เชื่อว่าอย่างไรเสียคนใต้ต้องเลือกพรรคประชาธิปัตย์จนไม่ได้ใส่ใจทุกข์สุขของประชาชนเท่าที่ควร

ผลการเลือกตั้งครั้งที่แล้วนั้นสะท้อนผลออกมาชัดเจนมีการกระจายตัว ส.ส.ไปหลายพรรคการเมือง ทั้งพรรคพลังประชารัฐและพรรคภูมิใจไทยสามารถแย่งชิงพื้นที่ที่เคยเรียกว่าเป็นของตายของพรรคประชาธิปัตย์ได้หลายที่นั่ง นั่นสะท้อนว่า ความผูกพันแบบเดิมนั้นไม่มีอีกแล้ว แต่ขึ้นกับตัวบุคคลที่พรรคการเมืองสรรหามาให้เลือก

เคยเล่าไปแล้วว่า ก่อนการเลือกตั้งนั้นผมเจอกับคุณชวนและบอกท่านว่าพรรคประชาธิปัตย์จะแพ้เลือกตั้งในหลายพื้นที่ ผมระบุจังหวัดไปเลย คุณชวนบอกว่าเป็นไปไม่ได้พรรคประชาธิปัตย์เคยชนะเลือกตั้งในภาคใต้หลายจังหวัดโดยได้คะแนนสูงถึง 80% แล้วผลการเลือกตั้งก็ออกมาอย่างที่ผมพูด ยกเว้นที่ผมคาดไม่ถึงคือการพ่ายแพ้ที่ตรังถิ่นคุณชวน

ส่วนคนกรุงเทพฯ วันนี้ไม่มีความผูกพันแบบเก่าแล้ว เห็นได้ชัดจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้วว่า พรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนต่ำมากตกไปเป็นที่ 3-4 ในเกือบทุกเขต จริงอยู่อาจจะมีกระแสพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอนนั้นคนกลัวว่าพรรคของทักษิณจะชนะเลยทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ที่ประกาศสนับสนุนคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีไปเลือกพรรคพลังประชารัฐแทน แต่ครั้งหน้าก็ยังมองไม่เห็นเลยว่าจะกลับมาได้อย่างไรยิ่งชูคุณจุรินทร์เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างที่บอกด้วยแล้วก็มองไม่เห็นว่าจะมีคะแนนมาจากไหน

ในอดีตพรรคประชาธิปัตย์ได้ชื่อว่าเป็นพรรคของปัญญาชน คนรุ่นใหม่ คนวัยทำงาน แต่ปัจจุบันคนที่เอ่ยถึงเหล่านี้หันไปนิยมพรรคก้าวไกลของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แม้พรรคประชาธิปัตย์จะคุยว่ามีสายเลือดใหม่เข้ามาในพรรคมาก แต่ก็ยังมองไม่เห็นจุดขาย แม้แต่คุณปริญญ์ พานิชภักดิ์ ลูกชายของคุณศุภชัยก็ยังไม่มีอะไรดึงดูดใจประชาชนได้เลย

รอดูการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เถอะครับ ถึงแม้จะมีข่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์จะส่ง พี่เอ้ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่งเป็นขวัญใจของคนรุ่นใหม่จำนวนมากลงสมัคร รอดูกันเถอะว่าจะได้สักกี่คะแนน

ไม่ได้หมิ่นแคลนว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่กลับมาอีกเลย แต่เชื่อว่ายังไม่ง่ายที่จะกลับมาในยุคนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะกลับมามั้ยนั้นคิดว่าคงต้องพูดกันไปไกลเป็นเจเนอเรชันไป อาจจะดีขึ้นในอนาคต เพราะอาจจะเป็นพรรคเดียวที่คงอยู่ตลอดไปเพราะความเป็นสถาบันอย่างที่ว่ามา แต่บอกตรงๆ ว่าชั่วอายุของคนเจเนอเรชันนี้ในพรรคยากมากที่จะเห็นพรรคประชาธิปัตย์กลับมาเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลได้ เพราะคนเขาเห็นฝีมือการเป็นแกนนำรัฐบาลมาแล้วในยุคของคุณชวน และคุณอภิสิทธิ์

เหตุผลหนึ่งที่ทักษิณเกิดได้และกลายเป็นพลุทางการเมืองเมื่อเข้ามาทำพรรคก็คือ ความที่คนเบื่อหน่ายรัฐบาลชวนนั่นแหละ

ผมคิดว่าสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องทำขณะนี้คือปรับปรุงพรรคไปสู่อนาคต ทำให้พรรคมีความทันสมัยไม่ใช่พรรคที่ตกอยู่ในอาณัติของคนไม่กี่คนที่มีบารมีในพรรค ทำให้เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคเจ้าขุนมูลนายที่ใครจะเข้าไปในพรรคต้องฝ่าด่าน 18 อรหันต์ไปต่อแถวกันยึดหลักอาวุโสแบบเคร่งครัดถึงจะประสบความสำเร็จได้ ในอนาคตพรรคประชาธิปัตย์ก็อาจจะกลับมาได้ เพราะเป็นพรรคเดียวที่ไม่มีเจ้าของและน่าจะยั่งยืนกว่าทุกพรรคที่มีอยู่ในตอนนี้

แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า คนปัจจุบันเขาไม่ได้ยึดโยงความเก่าแก่ของพรรคมาเป็นหลักคิดในตัวเลือกอีกแล้ว แต่เขามองนโยบายของพรรค จุดยืนของพรรค บุคลากรของพรรคว่าสามารถนำพาเขาไปได้รอดไหม และสามารถพึ่งพาฝากฝังชาติบ้านเมืองไว้ได้ไหม

ความเห็นที่กล่าวมานี้อาจจะไม่ถูกใจสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะคงเชื่อศักยภาพของคุณจุรินทร์ที่จะนำพาพรรคประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้จริง ก็ขอเอาใจช่วยนะครับว่าจะเป็นไปตามที่สมาชิกพรรคคาดหวัง แต่ส่วนตัวผมมองว่าจะรักษาที่นั่งเอาไว้ให้ได้เท่ากับสมัยนี้ก็ยังยากเลย แต่ก็ขอให้สิ่งที่ผมพูดกลายเป็นแรงบันดาลใจให้พรรคมุ่งมั่นจะเอาชนะคำหมิ่นแคลนนี้ให้ได้ก็แล้วกัน

แต่ถ้าเชื่อผมก็จงมองไปให้ไกลกว่านี้ ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคของอนาคตที่อาจจะยังมองไม่เห็นผลลัพธ์ตอนนี้ และเป็นความหวังของคนเจเนอเรชันต่อไปให้ได้

คุณจุรินทร์เป็นนายกรัฐมนตรีได้ครับ แต่มองโอกาสตอนนี้บอกเลยว่ายังไม่เห็นว่าคุณจุรินทร์จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้อย่างไร

ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan