จีนและแคนาดาต้องเผชิญหน้ากันรอบใหม่ คราวนี้แคนาดาต้องรู้สึกกล้ำกลืนฝืนทนเพราะตัวเองอยู่ในสภาพเสียเปรียบ ทั้งยังต้องถูกมองว่าเป็นลูกไล่ของสหรัฐฯ โดยไม่ได้ประโยชน์อะไร ทั้งยังขาดอำนาจต่อรองกับจีนในความสัมพันธ์ร้าวฉานอีกด้วย
เป็นผลต่อเนื่องจากการที่แคนาดาไปรับคำสั่งสหรัฐฯ ให้จับกุมตัวนางเมิ่ง หว่านโจว ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของนายเหริน เจิ้งเฟย เจ้าของบริษัทหัวเว่ย ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีน ในข้อหาว่ากระทำความผิดกฎหมายการเงินของสหรัฐฯ
จีนก็จับกุมชาวแคนาดา 3 รายใน 2 วาระต่างกัน นำตัวขึ้นศาล มี 1 รายโดนข้อหาค้ายาไอซ์ พยายามลักลอบขน 227 กิโลกรัม ไปออสเตรเลีย โดนโทษชั้นศาลอุทธรณ์ให้ประหารชีวิต อีก 2 รายเป็นนักธุรกิจและอดีตนักการทูตโดนข้อหาเป็นสายลับจารกรรม
ชาวแคนาดาที่โดนจับกุมในข้อหาขนยาไอซ์ชื่อโรเบิร์ต ลอยด์ เชลเลนเบิร์ก ในศาลชั้นต้นโดนตัดสินจำคุก 15 ปี ทั้งที่ให้การปฏิเสธ แต่จีนอ้างว่ามีหลักฐานมัดตัว และตามกฎหมายจีน เพียงแค่มี 50 กรัมไว้ในครอบครองก็โดนโทษประหารชีวิตแล้ว
หลังจากที่ตัดสิน พอเหมาะกับนางเมิ่งโดนจับกุมที่แคนาดา จีนก็สั่งให้รื้อฟื้นคดียาเสพติด พร้อมกับนายเชลเลนเบิร์กยื่นอุทธรณ์ ศาลจีนอ้างว่าคดีนี้มีความรุนแรง จึงพิพากษาให้ประหารชีวิต ทูตแคนาดาในจีน นายโดมินิก บาร์ตัน ประณามคำตัดสิน
รัฐบาลแคนาดาก็ยัวะ หาว่าจีนใช้วิธีจับตัวประกันเพื่อต่อรองกับคดีนางเมิ่ง ซึ่งก็เป็นอย่างที่ว่า แต่ทั้งๆ ที่รู้ แคนาดาทำอะไรไม่ถนัด เพราะจีนไม่สนใจคำประท้วง
คดีนางเมิ่งทำให้เห็นว่าหัวเว่ยและนายเหริน เจิ้งเฟย มีอิทธิพลอย่างมาก และสำคัญต่อประเทศจีนในฐานะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ซึ่งล้ำหน้าสหรัฐฯ และยุโรป และจีนได้เอาคดีนางเมิ่งมาเป็นเดิมพันในการต่อรองกับแคนาดา ซึ่งไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
สถานการณ์ปัจจุบันยังไม่แน่ชัดว่าทางโจ ไบเดน ผู้นำทำเนียบขาวจะยังต้องการให้แคนาดาส่งตัวนางเมิ่งไปดำเนินคดีในข้อหาความผิดด้านการเงินอีกหรือไม่
จีนไม่ยั้งมือ หลังจากนั้น ชาวแคนาดา นายไมเคิล สเปเวอร์ นักธุรกิจ และนายไมเคิล คอฟริก อดีตนักการทูต โดนจับในจีนข้อหาทำจารกรรม นายสเปเวอร์เพิ่งโดนศาลจีนตัดสินจำคุก 11 ปี ขณะที่ขึ้นศาลเจ้าหน้าที่แคนาดาและทูตไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าฟัง
นับตั้งแต่นางเมิ่งโดนจับ ด้านแคนาดาอ้างว่าเป็นการ “บังเอิญเกินไป” ที่ชาวแคนาดา 3 รายจะโดนคดีร้ายแรงในจีน ซึ่งเป็นข้อกล่าวที่จีนจะว่าอย่างไรก็ได้
นายกฯ แคนาดา นายจัสติน ทรูโด ประกาศว่าเป็นการกระทำที่ไม่อาจยอมรับได้
แคนาดาเต้น หาว่าจีนเล่นงานชาวแคนาดาเพื่อต่อรองหวังจะเอาตัวนางเมิ่ง หว่านโจวออกจากข้อกล่าวหา แคนาดาก็กลืนไม่เข้า คายไม่ออก ขณะที่นางเมิ่งพยายามใช้กลไกกฎหมายทุกอย่างเพื่อไม่ให้ทางการแคนาดาส่งตัวไปยังสหรัฐฯ
ทั้งสองฝ่ายก็ยื้อกันอยู่อย่างนี้ ทางแคนาดาก็อ้างว่าจีนใช้ลูกไม้ในการยึดตัวประกันทางการทูต ฝ่ายจีนก็บอกว่านางเมิ่งไม่ได้ทำผิดกฎหมายแคนาดา เดินทางเข้าออกเป็นประจำ แต่มาโดนจับกุมเพราะสหรัฐฯ ต้องการเล่นงาน คว่ำบาตรบริษัทหัวเว่ย
นับว่าเป็นคราวซวยของแคนาดาที่ดันไปยุ่งกับกรณีพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งเริ่มขึ้นในยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งต้องการเล่นงานบริษัทหัวเว่ย จากนั้นได้ลามไปถึงบริษัทไฮเทคอื่นๆ ของจีน แต่จีนก็ตอบโต้อย่างรุนแรงเช่นกัน
จีนไม่สั่งสินค้าจากสหรัฐฯ ทั้งโภคภัณฑ์ สินค้าเนื้อสัตว์ และอื่นๆ เป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ สร้างผลกระทบต่อผู้ประกอบการสหรัฐฯ ในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ส่วนหัวเว่ยไม่ได้รับอนุญาตให้ซื้อชิปคอมพิวเตอร์และชิ้นส่วนสำคัญ
หัวเว่ยดิ้นรนหนักเพราะโดนสหรัฐฯ ปิดกั้นทุกทาง ทั้งเทคโนโลยีและการทำสัญญาติดตั้งเครือข่ายระบบโทรคมนาคมในยุโรป ซึ่งตามก้นสหรัฐฯ ด้วยการคว่ำบาตรจีน สร้างปัญหาสงครามการค้าระหว่างจีนกับยุโรป เยอรมนีคอยคานแรงกดดันของสหรัฐฯ
ผลของสงครามการค้าที่เริ่มโดยโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้เป็นปัญหาส่งผลกระทบต่อหลายประเทศทั่วโลกที่ต้องโดนลูกหลงไปด้วย แต่ก็เลี่ยงหรือบ่นไม่ได้เพราะทรัมป์ห้าวสุดๆ ไม่ใส่ใจแม้แต่ผลกระทบอย่างแรงที่มีต่อภาคเกษตรในประเทศ
หลังจากทรัมป์หลุดจากตำแหน่ง สถานการณ์ไม่ดีขึ้นหลังจากโจ ไบเดนมาแทน และยังตั้งหน้าตั้งตาพยายามปิดล้อมจีน ส่งกองเรือรบมาตระเวนในทะเลจีนใต้หลายรอบ ทั้งยังมีการซ้อมรบแสดงแสนยานุภาพ มีพันธมิตรเข้าร่วม เช่นจีน อังกฤษ เยอรมนี ฯลฯ
ชะตากรรมของนางเมิ่ง และชาวแคนาดาทั้ง 3 คน ยังไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือก้อย จีนพร้อมเผชิญกับการปิดล้อมและแรงกดดันทุกด้าน และยังเตือนว่าจีนจะไม่ยอมอยู่นิ่งถ้าอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนในทะเลจีนใต้ถูกคุกคามโดยสหรัฐฯ และพวก