กองทัพพม่าเจอต่อต้านหนัก

สงครามกลางเมืองของพม่าที่ไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการเริ่มสร้างความหนักใจให้รัฐบาลเผด็จการของพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย เมื่อระดับนายทหารในกองทัพถูกสังหารในการปะทะกับกลุ่มต่อต้านซึ่งกำลังเกิดขึ้นในหลายเมืองทั่วประเทศ

นอกจากการปะทะกับกองกำลังป้องกันตัวเองของประชาชน หรือ PDF แล้ว กองทัพพม่ายังต้องเผชิญศึกกับกองกำลังติดอาวุธของชนกลุ่มน้อยต่างๆ เช่น ไทยใหญ่ กะฉิ่น คะยา กะเหรี่ยง และกลุ่มอื่นๆ ประสบความเสียหายหลายครั้ง

การปะทะในเมืองมัณฑะเลย์เมื่อสุดสัปดาห์ นายทหารระดับพันโท ร้อยเอก และสัญญาบัตรอีก 1 นาย เสียชีวิตด้วยฝีมือของกลุ่ม PDF ซึ่งใช้อาวุธล้าสมัยเช่นปืนแก๊ปและประเภทอื่นๆ ที่จะหามาได้ นับเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญอีกรอบ

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รถบรรทุกทหารถูกระเบิดในย่านชานเมืองของกรุงย่างกุ้ง วันศุกร์ที่ผ่านมา สถานที่เกิดเหตุอยู่ไม่ห่างจากสถานีตำรวจ ทำให้ทหารหลายนาย ไม่ทราบจำนวน บาดเจ็บและเสียชีวิต สะท้อนให้เห็นการลอบโจมตีหลายครั้ง

วันเสาร์ที่ผ่านมาก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นใน 4 จุดในย่างกุ้ง พร้อมกับเสียงปืนยิงปะทะ ไม่มีรายงานความเสียหาย แต่รายงานประจำวันจากพม่าได้บ่งชี้ให้เห็นการเพิ่มการปฏิบัติการโดยกลุ่มต่อต้านรัฐบาล และพร้อมที่จะทำสงครามยืดเยื้อ

ฝ่ายประชาชนก็ถูกสังหารในการปะทะ และกลุ่มชาวบ้านถูกจับกุมและทรมาน รวมทั้งฝ่ายต่อต้าน เป็นเหมือนคำให้การของสื่อต่างประเทศที่ถูกรัฐบาลทหารพม่าปล่อยตัว พร้อมยืนยันว่ามีการทรมานในรูปแบบต่างๆ ในที่คุมขัง

ทหาร ตำรวจ รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐโดยทั่วไปเริ่มรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน สมาชิกครอบครัวเจ้าหน้าที่รัฐก็ตกเป็นเป้าหมายของการถูกลอบทำร้ายและเสียชีวิตในหลายพื้นที่ ทำให้ต้องตั้งด่านตรวจ

เป็นสภาวะที่ยืนยันคำพูดของพลเอกมิน อ่อง หล่าย ก่อนหน้านี้ว่ารัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้เด็ดขาด พร้อมแสดงความประหลาดใจในการต่อต้านอย่างกว้างขวางในกลุ่มประชาชน และปัญญาชนระดับเจ้าหน้าที่บริษัท

แพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งทหารและตำรวจส่วนหนึ่งได้ผละงานเข้าร่วมต่อสู้อย่างเป็นเครือข่าย คนหนุ่มสาวได้เดินทางจากเมืองเข้าป่าเพื่อรับการฝึกการรบกับกองกำลังชนกลุ่มน้อย จากนั้นเข้าปฏิบัติการในเมือง

หลายพื้นที่เช่นเมืองย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ เนปิดอว์ รวมทั้งพื้นที่สกาย ได้เป็นพื้นที่สำหรับการปฏิบัติการในเมืองของกลุ่ม PDF ทหารพม่าเริ่มรู้สึกถึงความเสี่ยงในการเข้าตรวจค้นตามหมู่บ้าน ชุมชนต่างๆ ซึ่งอาจโดนลอบโจมตีได้ง่าย

ทุกวันจะมีการลอบโจมตีที่มั่นของรัฐบาลและหน่วยงานของกองทัพโดยกลุ่ม PDF แต่ไม่เป็นรูปแบบอย่างที่กลุ่มกองกำลังติดอาวุธของชนกลุ่มน้อยได้กระทำ

ก่อนหน้าที่ ในช่วง 9 วันก่อน 18 มิถุนายน เจ้าหน้าที่รัฐ ทหาร และสายสืบฝ่ายรัฐได้ถูกลอบสังหารมากถึง 7 รายในพื้นที่ต่างๆ ที่ทำการถูกลอบวางระเบิดและวางเพลิง สร้างความหวาดผวาในกลุ่มเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น

กลุ่ม PDF ซึ่งมาจากกลุ่มรณรงค์อารยะขัดขืน ประกาศว่าพร้อมจะทำศึกยืดเยื้อโดยไม่ยอมให้นายพลเอก มิน อ่อง หล่ายได้กุมอำนาจอย่างสบายเหมือนคณะทหารรุ่นก่อนได้กระทำตลอด 50 ปี ก่อนผ่อนคลายให้มีการเลือกตั้ง

กองกำลังชนกลุ่มน้อยก็ยังไม่เปิดการรบรุกอย่างเต็มรูปแบบ เป็นเพียงการลอบโจมตีที่มั่นของตำรวจและทหาร เพราะยังเสียเปรียบในด้านอาวุธ และเสี่ยงกับการถูกตีโต้โดยเครื่องบินโจมตี ทิ้งระเบิด เมื่อสถานการณ์เลวร้ายสำหรับกองทัพ

สัปดาห์ก่อน พลเอกมิน อ่อง หล่าย ได้เดินทางไปเยือนรัสเซียเพื่อเจรจาซื้ออาวุธ รวมทั้งยกย่องมิตรภาพระหว่างพม่ากับรัสเซีย จีน และอินเดีย และประกาศว่าความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ อยู่ในสภาวะไม่ราบรื่น ซึ่งเป็นผลจากมาตรการคว่ำบาตร

ผู้นำเผด็จการทหารพม่ายังชื่นชมรัสเซียว่าเป็น “มิตรแท้ตลอดกาล” เพราะมีความสัมพันธ์ยาวนาน เทียบกับสหรัฐฯ ซึ่งยังอยู่ห่างไกลเพราะได้ให้การสนับสนุนขบวนการประชาธิปไตยและรัฐบาลของผู้นำฝ่ายค้าน นางอองซาน ซูจี

วันพุธที่ผ่านมา พลเอกมิน อ่อง หล่าย ได้รับการยกย่องให้เป็น “ศาสตราจารย์เกียรติยศ” โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ซึ่งมีภาพแสดงให้เห็นผู้นำทหารพม่าสวมชุดครุยกับตำแหน่งกิตติมศักดิ์ สะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์ระดับพิเศษระหว่าง 2 ฝ่าย

สถานการณ์โดยรวมแล้ว ประชาชนพม่าอยู่ในสภาพที่ได้รับผลทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และสภาวะจิตใจ อยู่ด้วยความยากลำบากและขาดแคลน ถือว่าเป็นผลต่อเนื่องที่รุนแรงกว่าช่วงที่มีการปิดประเทศยาวนาน

ครั้งนี้กลุ่มประชาชนทุกระดับชั้น พระสงฆ์ นักศึกษา กลุ่มวิชาชีพต่างๆ รวามทั้งเจ้าหน้าที่รัฐต่างประสบปัญหาเดียวกัน คือความขาดแคลน และการที่ไม่รู้ว่าอนาคตของประเทศจะเป็นอย่างไรในเมื่อผู้นำทหารไม่ยอมลงจากอำนาจ

เมื่อทำรัฐประหารวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ผู้นำกองทัพได้ประกาศว่าจะคืนสู่ประชาธิปไตยและการเลือกตั้งภายใน 1 ปี แต่ท่าทีก่อนหน้านี้บอกว่าอาจจะยืดระยะเป็น 2 ปี ซึ่งไม่ได้สร้างความมั่นใจให้ประชาชน ดูแล้วทหารไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆ

หลายองค์กรต่างประเมินว่าเศรษฐกิจของพม่าจะเข้าสู่สภาวะตกต่ำ ประชาชนจะยากจน พร้อมขาดแคลนทุกด้าน ซ้ำร้ายต้องเผชิญกับการระบาดของโคโรนาไวรัสต่อเนื่อง มีประชาชนติดเชื้อกว่า 3 แสนคน และยังไม่สิ้นสุด