xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

เชื่อหมออย่าเชื่อหมา รัฐบาลโปรดาราฉีดวัคซีน เสี้ยมตัดหางคนคิดต่าง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นพพล โกมารชุน
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - "ขอบคุณแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ทุกท่านที่ให้การดูแลผู้ที่เข้ามาฉีดวัคซีนทุกคนเป็นอย่างดีครับ ผมเชื่อในวัคซีนครับ ผมฉีด AstraZeneca สำหรับผู้สูงอายุครับ ผมเชื่อหมอครับ และผมไม่เชื่อหมาครับ"
นักแสดงและผู้กำกับรุ่นใหญ่ "ตู่" นพพล โกมารชุน เข้ารับการฉีดวัคซีน ที่สถาบันบำราศนราดูร ซึ่งเพจดาราภาพยนตร์ได้เผยแพร่ภาพและระบุข้อความดังกล่าวทางสื่อประชาสังคมออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย

จากโพสต์ดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่า วาทกรรมตัดหางคนอยู่ตรงข้ามรัฐบาลในเรื่องมุมมองของการฉีดและคุณภาพของวัคซีนทำงานอย่างได้ผล

พร้อมกับการนำเสนอข่าวอย่างเป็นขั้นเป็นตอนตามกระบวนการโหมข่าวให้สื่อมวลชน ทั้งสื่อกระแสหลักของสำนักข่าวต่างๆ และโซเชียลมีเดีย ที่ออกมานำเสนอข่าวดาราและเซเลบรตี้ชื่อดังของเมืองไทยออกมาฉีดวัคซีนอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง โดยเฉพาะดาราอาวุโส

แม้กระทั่ง "พชร์ อานนท์" ผู้กำกับฯ และนักปั้นดาราสายสีรุ้งชื่อดังก็ออกมาฉีดวัคซีน และโพสต์ฉีดเพราะเชื่อหมอ แต่ไม่มีประเด็นของหมา

“...หมอบอกวัคซีนอะไรดี เราก็ฉีด เชื่อหมอ!! ปลอดภัยไร้กังวล อย่าลืมลงทะเบียนไปฉีดกันนะ ปลอดภัยจริงๆ ใครไม่เห็นด้วยอย่ามาดรามาใส่นะ ชีวิตเรา เรายอมเลือกสิ่งดีๆให้กับชีวิตเราแน่นอน”

หากว่าไปแล้ว วาทกรรม"เชื่อหมออย่าเชื่อหมา" เกิดขึ้นมาเพื่อต่อสู้และต้านกลับจากฝ่ายรัฐบาลที่ถูกดิสเครดิตเรื่องคุณภาพของวัคซีนที่นำมาฉีดให้คนไทย มีการตั้งคำถามจากฝ่ายค้าน และประชาชนที่มีความคิดเห็นตรงข้ามกับรัฐบาลเรื่องการรับรองคุณภาพขอวัคซีนโควิด ที่นำมาใช้ฉีด

"ดร.เสรี วงษ์มณฑา" ประธานกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ ในรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งทำให้เห็นถึงต้นตอ หรือที่มาของการรณรงค์ใช้วาทกรรมในแคมเปญ "เชื่อหมออย่าเชื่อหมา" จากฟากรัฐบาลอย่างเด่นชัด โดยข้อความระบุว่า

"ฝ่ายค้านบางคนตั้งหน้าตั้งตาปั่นว่าวัคซีนมีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายจนมีคนจำนวนหนึ่งไม่กล้าไปฉีด เพราะมีเป้าหมายทางการเมือง ไม่ต้องการให้รัฐบาลจัดการควบคุมโควิดได้สำเร็จ

คนที่ทำแบบนี้ใจดำอำมหิตมาก คิดแต่ผลประโยชน์ทางการเมืองของตน แต่ไม่คิดถึงความปลอดภัยของประชาชน และความอยู่รอดของประเทศไทย ลองสงบจิตสงบใจ คิดใคร่ครวญใหม่หน่อยเถอะนะ ว่าที่ทำอยู่นี้ มันยังมีความเป็นคนอยู่หรือเปล่า สมควรหรือไม่ที่จะเอาเรื่องความเป็นความตายของคนไทยมาเล่นการเมือง

หมอเขาพูดอธิบายกี่คน กี่ครั้ง ทำไมถึงไม่ยอมเข้าใจ ทำไมจึงไม่หยุดปั่นเรื่องอันตรายของวัคซีน ทำไมไม่รักประเทศไทยให้มากกว่าความเห็นแก่ตัวเสียทีนะ ส่วนประชาชนนั้น ขอให้คิดเป็น เชื่อหมอนะคะ อย่าเชื่อหมา"

สำหรับดาราจำนวนมากที่มาฉีดวัคซีนโควิด มีการออกมาเปิดเผยว่าได้มีการลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์ และได้รับคิวอาร์โค้ดเพื่อนำมายืนยันกับเจ้าหน้าที่บริเวณจุดคัดกรอง เป็นการทดลองระบบ โดยให้ดาราเป็นตัวนำร่อง

ดร.เสรี วงษ์มณฑา
ทั้งเรื่องการลงทะเบียนจองคิว และเรื่องการฉีดวัคซีน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน และถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างวาทกรรมแบ่งฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาลและต่อต้านเรื่องคุณภาพของวัคซีนไปโดยปริยาย พร้อมกับตอกย้ำ วาทกกรรม "เชื่อหมออย่าเชื่อหมา" อย่างชอบธรรม ผ่านปรากฏการณ์ดาราแห่มาฉีดวัคซีนในครั้งนี้

การใช้อำนาจของวาทกรรมที่ทำหน้าที่สร้างการรับรู้และนำไปสู่การควบคุมในสังคมไทย ที่เกิดขึ้นในเชิงการเมืองวัฒนธรรมบันเทิงผ่านบรรดาดาราและเซเลบริตี้ ซึ่งเป็น อินฟลูเอนเซอร์ ในตัว ตามสถิติที่มีหลายหน่วยงานทางการตลาดในปี 2563 ได้ทำการวิจัยแล้วได้ผลวิจัยว่า การใช้บุคคลที่มีคนติดตามและเชื่อมั่นในกลุ่มคนเหล่านี้ในสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้ยอดขายสูงขึ้น 50%

เช่นกัน การที่ดาราออกมาฉีดวัคซีนก็ทำให้ความน่าเชื่อถือในตัววัคซีนของรัฐบาลเพิ่มขึ้นไม่แตกต่างกัน จนคนไทยโหมมาลงทะเบียนฉีควัคซีนกันอย่างเต็มที่

ในมุมกลับที่วาทกรรม "เชื่อหมออย่าเชื่อหมา" อาจย้อนกลับมาทำลายรัฐบาลเองก็ได้ หากระบบการจัดการบริหารวัคซีนยังไม่พร้อมหรือมีจำนวนไม่เพียงพอกับความต้องการ


"ไพศาล พืชมงคล" อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก Paisal Puchmongkolโดยตั้งข้อสังเกตระบุว่า

"...แปลก วิปริตกันใหญ่แล้ว !!!! พักนี้วาทกรรมเรื่อง "เชื่อหมออย่าเชื่อหมา ออกมามาก !!! จู่ๆ ก็มาตั้งประเด็นให้คนไทยเลือกเชื่อหมอหรือเลือกที่จะเชื่อหมา!!! ก็แค่ชวนเชื่อให้ไปฉีดวัคซีนกัน !!!

ท่านดาราทั้งหลาย การมารณรงค์ให้คนฉีดวัคซีนนั้น เป็นเรื่องดี ที่ช่วยกันสนับสนุนศบค.แต่มันมีวิธีการมากมาย เพราะคนชอบดาราอยู่แล้ว จึง ไม่พึงเสนอให้คนไทยเลือกแบบนี้ เพราะการเอาหมอไปเปรียบกับหมานั้น มันสมควรแล้วหรือ ??

ก็ต้องบอกว่าการจะเชื่อหมอหรือเชื่อหมานั้น ขึ้นกับว่าเป็นเรื่องใด บางเรื่องก็ต้องเชื่อหมา เช่นความกตัญญูต่อเจ้าของ! การไม่โกหกตอแหล! การไม่คดไม่โกง! การไม่เป็นทาสบริษัทยาต่างชาติ แม้อาการจมูกไวได้กลิ่นผิดปกติที่จะเป็นอันตรายต่อเจ้าของบ้าน เป็นต้น !!!

ไพศาล พืชมงคล
บางเรื่องก็ต้องเชื่อหมอ !!! แต่บางครั้ง ก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อหมอฝ่ายไหน เพราะหมอพวกหนึ่ง ก็เชียร์ยี่ห้อหนึ่ง อีกพวกหนึ่งก็เชียร์อีกยี่ห้อหนึ่ง อีกพวกหนึ่งก็กีดกันการแพทย์แผนไทย อีกพวกหนึ่งก็สนับสนุนให้ใช้ยาแผนโบราณของไทยและการแพทย์แผนไทยด้วย

ที่สำคัญต้องระวังบริบท!!! อย่าผลักคนเห็นต่างเป็นหมาก็แล้วกัน!!! ผลักไปผลักมา ต้องระวังด้วยว่าจะยืนแก้ผ้าอยู่ไม่กี่คน!!! เรื่องนี้ต้องถือว่าเป็นปฏิบัติการจิตวิทยาที่แย่ที่สุดแห่งยุค !!!! เพราะการเอาหมอไปเปรียบกับหมาให้คนเลือกนั้น หมอท่านก็เสียหายอย่างเดียว เพราะหมาไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรด้วย"


สำหรับประเทศไทย การใช้ดาราและเซเลบริตี้ออกมาฉีดและโปรโมตวัคซีนโควิด จึงเป็นการโหมใช้วาทกรรมเสี้ยมตัดหางคนคิดต่าง และวิพากษ์วิจารณ์เรื่องวัคซีนให้ดูไร้ค่า และไม่มีความหมายเท่ากับหมา

แต่แท้จริงแล้วเป็นความพยายามที่จะเบี่ยงเบนความล้มเหลวในการเตรียมซื้อวัคซีนที่ล่าช้า และไม่เพียงพอ รวมถึงระบบจัดการของแอปพลิเคชัน ในการลงทะเบียนจัดคิวฉีดวัคซีนที่ล่าช้า และยังไม่มีวี่แววของการดำเนินการที่สร้างความเชื่อถือให้กับประชาชน

เพราะหลังจากปรากฏการณ์ดาราออกมาฉีดวัคซีนแล้ว พร้อมกับด่าคนคิดต่างเป็นหมา สถานการณ์ของการจัดสรรวัคซีนยิ่งเลวร้ายและยังไม่เดินหน้าไปไหนเลย


กำลังโหลดความคิดเห็น