หัวหน้าคณะรัฐประหาร พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย อาจกำลังรู้ซึ้งในใจคนเดียวว่าตนเองได้ประเมินสถานการณ์ผิดพลาดหลังจากใช้กำลังทหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนที่ชนะการเลือกตั้ง เพราะการอยู่ในอำนาจต่อไปได้นั้น ไม่ง่ายแล้ว
กองกำลังติดอาวุธชนกลุ่มน้อยหลายกลุ่มเริ่มขยายปฏิบัติการซุ่มโจมตีทหารพม่าในหลายพื้นที่ ทั้งภาคเหนือซึ่งอยู่ภายใต้การครอบครองโดยกลุ่มกะฉิ่นและฉิ่น ขณะที่ด้านชายแดนติดกับประเทศไทยก็มีทั้งกองกำลังไทยใหญ่และกะเหรี่ยงร่วมรบด้วย
ช่วงการทำรัฐประหาร มิน อ่อง หล่าย คงนึกว่าคนพม่าจะยอมสยบหลังจากโดนปราบปรามอย่างหนักเหมือน 2 ครั้งก่อน ซึ่งมีประชาชนสังเวยชีวิตให้กระสุนของทหารพม่าหลายพันราย จนต้องยอมให้กองทัพกุมอำนาจอยู่นานหลายปี
การรัฐประหารวันที่ 1 กุมภาพันธ์ได้นำไปสู่การประท้วงอย่างหนักทั่วประเทศ รวมทั้งการหยุดงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระบบเศรษฐกิจแทบนิ่งสนิท ธนาคารต้องปิดทำการ ชาวบ้านแทบเบิกเงินไม่ได้ หน่วยงานสำคัญเช่นโรงพยาบาล การขนส่งหยุด
ยิ่งฆ่าคนมากเท่าไหร่ ประชาชนยิ่งไม่กลัว จำนวนผู้เสียชีวิตมีเกือบถึง 1 พันราย และน่าจะมากกว่านั้นถ้ารัฐบาลเผด็จการไม่โดนกลุ่มประเทศตะวันตกรุมคว่ำบาตรด้วยมาตรการต่างๆ ทำให้คณะผู้นำรัฐบาล และบริษัทขนาดใหญ่โดนเต็มที่
การคว่ำบาตรทั้งตัวผู้นำรัฐบาลและกิจการท่อน้ำเลี้ยง ทำให้คณะเผด็จการจำเป็นต้องเพลามือในการปราบปรามอย่างรุนแรง แต่หันไปควบคุมการเคลื่อนไหว เช่นการตัดสัญญาณระบบอินเทอร์เน็ต ระบบเครือข่ายข่าวสารผ่านดาวเทียม
การบริโภคข่าวสารผ่านดาวเทียมเป็นการผิดกฎหมาย รัฐบาลได้ปิดสื่อต่างๆ ที่ให้ข้อมูลกับประชาชน แม้กระนั้นประชาชนยังไม่ยอมสยบต่อระบบเผด็จการ
รัฐบาลสิงคโปร์ และญี่ปุ่นยกเลิกโครงการช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ บริษัทเอกชนต่างประเทศยกเลิกโครงการลงทุนเพราะไม่ยอมรับรัฐบาลเผด็จการ
สถานการณ์เริ่มส่อเค้าเลวร้ายสำหรับนายพลมิน อ่อง หล่าย และพวก เมื่อกลุ่มประชาชนสังกัดองค์กรอารยะขัดขืนได้ตัดสินใจเข้าป่า รับการฝึกอาวุธและการรบจากกองกำลังชนเผ่าต่างๆ เช่น กะเหรี่ยง กะฉิ่น และไทใหญ่ เพราะโต้กลับ
มีกลุ่มต่างสาขาอาชีพ รวมทั้งนักศึกษาหลายร้อยคนได้รับการฝึกแล้วกลับเข้าเมืองเพื่อเปิดศึกสงครามกองโจร และผลเริ่มปรากฏในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อมีการซุ่มโจมตีหน่วยที่ตั้งของกองกำลังรัฐบาล เช่นตำรวจและทหาร มีทั้งวางระเบิด
ทหารและตำรวจถูกซุ่มยิงและทำร้ายในเมือง มีการวางระเบิดในเมืองย่างกุ้ง ซึ่งเป็นแหล่งสำคัญ เช่น โรงพัก ร้านค้า ห้างสรรพสินค้าซึ่งเป็นเครือข่ายธุรกิจควบคุมโดยกองทัพของมิน อ่อง หล่าย ทำให้เมืองย่างกุ้งอยู่ในบรรยากาศความหวาดกลัว
แม้จะยังไม่กระจายเป็นความรุนแรง การลอบโจมตีสถานที่ราชการและหน่วยงานด้านความมั่นคงก็กระจายไปทั่วประเทศ ซึ่งทำให้รัฐบาลเริ่มตระหนักว่าถ้ายังอยู่ในอำนาจต่อไป เป็นการยากอย่างยิ่งที่จะรักษาฐานอำนาจไว้ได้นาน
ทหารของมิน อ่อง หล่าย เริ่มกลายเป็นเป้านิ่งสำหรับการโจมตี ขณะที่มีการปะทะกับกองกำลังกลุ่มต่างๆ ในพื้นที่นอกเมือง ส่งผลให้สถานการณ์ขยายตัว จนใกล้เป็นสงครามกองโจรทั้งในเมือง และนอกเมือง
กองทัพพม่าได้รับความเสียหายทั้งด้านอาวุธ เฮลิคอปเตอร์ถูกยิงตก ทหารบาดเจ็บ เสียชีวิต ดูแล้วประเมินได้ว่าแม้จะมีกองกำลังทางอากาศสร้างความได้เปรียบ แต่ก็ยังเสี่ยงกับการสูญเสียราคาแพงถ้าเครื่องบินโดนยิงตก
ซ้ำร้ายโครงการส่งก๊าซและน้ำมันผ่านระบบท่อจากทะเลอันดามันไปสู่จีน บนเส้นทางกว่า 800 กม. กำลังเสี่ยงกับการถูกวินาศกรรมโดยกลุ่มต่อต้านรัฐบาล ทำให้ประเทศจีนต้องส่งกองกำลังมารักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันการโดนลอบโจมตี
ผู้นำรัฐบาล มิน อ่อง หล่าย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ผ่านระบบออนไลน์โดยอ้างว่าผู้นำพลเรือน นางอองซาน ซูจี ยังมีสุขภาพดี และจะถูกนำตัวขึ้นศาลในอีกไม่ช้า แต่ไม่มีทีท่าว่าจะยอมปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมคุมขังโดยศาลทหาร
มิน อ่อง หล่าย ยังแบะท่าอีกว่าพร้อมจะเปิดให้มีการเลือกตั้งถ้าเป็นความต้องการของประชาชน และภายในระยะเวลาอันเหมาะสม ซึ่งไม่ระบุชัดเจน ก่อนหน้านี้ให้คำมั่นว่าจะให้มีการเลือกตั้งภายใน 1 ปี แต่ได้เลื่อนไปอีกเป็น 2 ปี
แต่คำพูดของมิน อ่อง หล่าย ไม่น่าเชื่อถือ เพราะรู้ดีว่า ถ้าให้มีการเลือกตั้ง พรรคทหารพม่าย่อมพ่ายแพ้ขาดลอย และถ้าสูญเสียอำนาจ ชะตากรรมของตัวเองและพรรคพวกในคณะรัฐประหาร และกุมอำนาจเศรษฐกิจ ต้องจบแบบไม่สวยแน่
เกมเสี่ยงยึดอำนาจครั้งนี้น่าจะเป็นเพียงการยื้อเพื่อให้อยู่ต่อชั่วเวลาหนึ่ง แต่มิน อ่อง หล่ายคงไม่ยอมรับว่าตัวเองได้ทำให้ประเทศต้องเสื่อมโทรมลงทุกด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ประชาชนหลายสิบล้านคนต้องลำบาก อดอยาก
โครงสร้างประเทศต้องเสี่ยงกับการแตกแยก ถ้าหากชนกลุ่มต่างๆ ยกระดับการต่อสู้กับรัฐบาลเพื่อหาทางแยกตัวเป็นรัฐอิสระ ซึ่งถ้าควบคุมสถานการณ์ไม่ได้จะทำให้ประเทศพม่าแตกย่อยเป็นหลายประเทศเหมือนดังเช่นอดีตยูโกสลาเวีย
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เท่ากับว่า มิน อ่อง หล่าย ความกระหายอำนาจและผลประโยชน์ของตัวเองและพรรคพวกได้ทำให้รัฐพม่าต้องอยู่ในสภาวะแตกแยก ล่มสลาย เหลือเพียงส่วนกลางและเมืองใหญ่ซึ่งยังเป็นของพม่า ต้องสูญเสียที่เหลือไป
สภาพแตกแยกเช่นนั้นจะนำไปสู่สงครามกลางเมืองระหว่างกลุ่มต่างๆ อีก