รอยเตอร์ - กองทัพพม่าระดมยิงปืนใหญ่ใส่ฐานที่ถูกกองกำลังพลเรือนติดอาวุธเข้ายึดครองในเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเป็นวันที่ 2 ในวันนี้ (14) สมาชิกกองกำลังฝ่ายกบฏ และสมาชิกสภานิติบัญญัติเผย หลังรัฐบาลทหารประกาศกฎอัยการศึกในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อปราบปรามการก่อกบฏของคนท้องถิ่นต่อการปกครองของทหาร
รัฐบาลทหารได้ประกาศใช้กฎอัยการศึกในเมืองมินดัท รัฐชิน เมื่อวันพฤหัสฯ (13) หลังผู้ที่ถูกเรียกว่า “ผู้ก่อการร้ายติดอาวุธ” โจมตีสถานีตำรวจและธนาคาร
การโจมตีดังกล่าวสร้างความท้าทายต่อกองทัพที่พยายามฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยในประเทศท่ามกลางความโกรธแค้นอย่างกว้างขวางต่อการรัฐประหารในเดือน ก.พ. ที่ทหารขับไล่รัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งของอองซานซูจี
การต่อต้านได้ขยายตัวมากขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์นี้ ตั้งแต่การชุมนุมประท้วงบนท้องถนนและการหยุดงาน ไปจนถึงการโจมตีผู้บริหารที่รัฐบาลทหารแต่งตั้ง และการซุ่มโจมตีกองกำลังความมั่นคงโดยพลเรือน
กองกำลังป้องกันแห่งชินแลนด์ที่ตั้งขึ้นใหม่กล่าวว่า พวกเขาอยู่เบื้องหลังการต่อสู้ในเมืองมินดัท พวกเขาซุ่มโจมตีขบวนรถเสริมกำลังพลของกองทัพในวันศุกร์ (14)
“การต่อสู้ยังคงดำเนินอยู่และกองทัพกำลังยิงใส่เมืองมินดัทด้วยปืนใหญ่ นี่เป็นการต่อสู้ที่ร้ายแรงที่สุด” สมาชิกสภานิติบัญญัติ กล่าว
กลุ่มกบฏชินมีจำนวนสมาชิกราว 400-500 คน ซึ่งในกลุ่มพวกเขามีปืนไรเฟิลราว 30-40 กระบอก รวมทั้งปืนล่าสัตว์ แต่ส่วนใหญ่ผ่านการฝึกฝนมาได้เพียง 1 สัปดาห์
โฆษกของกองกำลังป้องกันแห่งชินแลนด์ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับการต่อสู้ โดยอ้างถึงเหตุผลด้านความปลอดภัย
“พวกเขา (รัฐบาลทหาร) ไม่สามารถปกครองเมืองได้อีกยกเว้นในบางพื้นที่ที่พวกเขามีฐานทัพ พวกเขาไม่สามารถควบคุมพื้นที่ชนบทได้อีก” โฆษกกองกำลังป้องกันแห่งชินแลนด์ กล่าว
หนึ่งในสมาชิกของกลุ่มกล่าวกับรอยเตอร์ว่าพวกเขายึดรถบรรทุกได้ 6 คัน และอาวุธจำนวนมาก
สำนักข่าวพม่ารายงานว่า การต่อสู้เมื่อวันพุธ (12) และวันพฤหัสฯ (13) ในเมืองมินดัท มีคนเกี่ยวข้องราว 100 คน ที่เข้าโจมตีสถานีตำรวจ และราว 50 คนโจมตีธนาคารเมียนมาร์อีโคโนมิค
สมาชิกสภานิติบัญญัติกล่าวว่า การสู้รบปะทุขึ้นหลังทหารปฏิเสธที่จะปล่อยตัวเยาวชนท้องถิ่น 7 คน ที่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวอย่างไม่ถูกต้อง และระบุว่า มีกองกำลังคนท้องถิ่นเสียชีวิต 5 คน ขณะที่เว็บไซต์ข่าวอิรวดีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 2 คน
กลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยและกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ร่วมกันสนับสนุนรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ที่ต้องการการสนับสนุนทั้งจากในประเทศและต่างประเทศเพื่อบ่อนทำลายกองทัพ เพื่อป้องกันไม่ให้ทหารควบรวมอำนาจ
เมื่อต้นเดือน รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติได้ประกาศจัดตั้งกองกำลังป้องกันของประชาชน เพื่อปกป้องพลเรือนจากทหาร โดยนักสู้บางคนเข้ารับการฝึกฝนกับกลุ่มติดอาวุธที่ต่อสู้กับกองทัพมาหลายทศวรรษในพื้นที่ชายแดน
จนถึงตอนนี้ มีผู้ถูกสังหารไปแล้ว 788 คน ในการปราบปรามของทหาร แต่ฝ่ายกองทัพที่โต้แย้งตัวเลขดังกล่าว ได้กำหนดข้อจำกัดอย่างเข้มงวดกับสื่อ ข้อมูล และอินเทอร์เน็ต ทำให้รอยเตอร์ไม่สามารถตรวจสอบการจับกุมและจำนวนผู้เสียชีวิตได้.