สถานการณ์การระบาดระลอก 2 ของโควิด-19 ในอินเดียยังอยู่ในระดับวิกฤตโดยตัวเลขของผู้เสียชีวิตล่าสุด ได้ผ่าน 2 แสนราย และยอดผู้เสียชีวิตแต่ละวันเกิน 3 พันราย
ในเมืองใหญ่เหมือนเมืองหลวงนิวเดลี เตาเผาศพไม่สามารถเผาได้ทันเพราะแต่ละวันมีอย่างน้อยกว่า 300 รายทำให้ต้องใช้พื้นที่สวนสาธารณะหรือพื้นที่ว่างสำหรับเผาศพโดยใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิง
ประชาชนต้องเข้าคิวหลายชั่วโมงกว่าจะได้เผาญาติพี่น้องที่เสียชีวิต
แต่ละวันมีควันไฟคลุ้งทั่วท้องฟ้าเหนือเมืองหลวง เป็นภาวะที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศที่มีพลเมืองเกือบ 1.4 พันล้านคน ญาติพี่น้องไม่มีเวลาแสดงความเสียใจเพราะเป็นภาวะของโรคระบาดร้ายแรง ทุกคนต้องเฝ้าระวังไม่ให้เป็นเหยื่อ
การระบาดระลอกแรกนั้น รัฐบาลสามารถคุมตัวเลขให้อยู่ต่ำกว่า 2 หมื่นรายในเดือนมกราคม แต่หลังจากการปลดล็อก ทำให้อยู่ในสภาวะไม่สามารถควบคุมได้
การระบาดระลอกใหม่เกิดจากการชุมนุมรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในหลายรัฐ ประกอบกับเป็นช่วงพิธีเทศกาลล้างบาป มีประชาชนหลายล้านคนไปอาบน้ำในแม่น้ำคงคา เป็นระยะเวลา 2 เดือน และเป็นอุปสรรคในการสกัดการระบาด
ระบบสาธารณสุขของอินเดียมีจุดอ่อน ทำให้ไม่สามารถรับมือกับการระบาดระดับนี้ได้เพราะการขาดแคลนทุกอย่าง รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์
หลายประเทศเริ่มยื่นมือเข้าช่วยเหลือส่งวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ ไปให้ แต่เปรียบเทียบได้เหมือนน้ำเพียงไม่กี่หยดในโอ่งใบใหญ่เท่านั้นเอง ความขาดแคลนมีอยู่ในทุกพื้นที่ ทั้งเตียง อุปกรณ์ ก๊าซออกซิเจน
รัฐบาลต้องสั่งให้โรงงานผลิตออกซิเจน 500 แห่งทั่วประเทศระดมเพิ่มกำลังผลิต ราคาก๊าซออกซิเจนเพิ่มจากราคาปกติ 10 เท่าตัวในตลาดมืด แม้กระนั้นก็หาได้ยาก
วิกฤตในอินเดียเปรียบเสมือนเป็นปัญหาของประชาคมโลกและเป็นประเทศขนาดใหญ่และพลเมืองมาก ซึ่งมีการประเมินว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตตามความเป็นจริงนั้นสูงกว่าที่เป็นอยู่นี้มากหลายเท่า
ฝ่ายผู้เชี่ยวชาญ นักสังเกตการณ์เชื่อว่าผู้ติดเชื้อปัจจุบันและอินเดียน่าจะเกินระดับร้อยล้านคนและผู้เสียชีวิตไปมากกว่านี้
นักวิทยาศาสตร์และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต่างเร่งวิจัยเชื้อกลายพันธุ์ในอินเดียว่ามีกี่ประเภท เพราะเชื้อที่กลายพันธุ์แล้วอาจจะมีทั้งรุนแรงน้อยกว่าและมากกว่า แต่ก็จำเป็นต้องควบคุมให้ได้ เพราะสามารถกลายพันธุ์ต่อได้อีก
การตรวจสอบและประเมินการระบาดในอินเดียยังไม่สามารถกระทำได้อย่างเต็มที่เพื่อกำหนดว่าเป็นวงกว้างไปกี่เมืองและพื้นที่การนำตัวอย่าง 220 จาก 361 ประเภททำได้ในบางรัฐเท่านั้น ที่สูงสุดคือรัฐมหาราช
ที่น่ากังวลก็คืออินเดียจะเป็นตัวแพร่เชื้อกลายพันธุ์ประเภทอื่นๆ นอกเหนือจากที่เป็นสายพันธุ์ 2 ประเภทในตัวเดียวกันอย่างทุกวันนี้ ซึ่งทำให้วัคซีนมีปัญหาในการสู้กับเชื้อตัวใหม่ และกระจายไปหลายประเทศแล้ว
และยิ่งมีการระบาดกว้างขวางและนานมากขึ้นเท่าไหร่ ก็เป็นความเสี่ยงว่าจะมีเชื้อกลายพันธุ์เพิ่มขึ้นมากเท่านั้น ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นตัวเลขชัดเจนก็คือการระบาดในอินเดียช่วง 7 วันที่ผ่านมามีมากกว่าการระบาดของคนทั้งโลกรวมกัน
ดังนั้นเมื่อไม่มีทางเลือกอื่นผู้เชี่ยวชาญต่างมองว่าวัคซีนคือทางเลือกสำคัญนอกเหนือจากการสวมหน้ากากและทิ้งระยะห่าง รวมถึงการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมไม่ให้การระบาดขยายตัว
โรคระบาดไม่เลือกเหยื่อหรือชนชั้นวรรณะฐานะอยากดีมีจนหรือระดับสังคมทุกคนสามารถติดเชื้อได้ทั้งนั้น ถ้าหากอยู่ในสภาวะเสี่ยงสูง
ดังนั้นสถานการณ์ในอินเดียจึงเป็นปัญหาของประชาคมโลกที่จะต้องต่อสู้ร่วมกัน เพราะสามารถแพร่กระจายการระบาดไปยังประเทศอื่น ซึ่งปัจจุบันทั้งปากีสถานและบังกลาเทศได้ปิดพรมแดนกับอินเดีย หลายประเทศสั่งห้ามสายการบินจากอินเดียเข้า
การระบาดอย่างรุนแรงและอินเดียสะท้อนให้เห็นเมื่อมีเที่ยวบินหนึ่งจากอินเดียไปถึงฮ่องกงมีคนติดเชื้อมากกว่า 30 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นความเข้มข้นในการติดเชื้อ
เมืองขนาดใหญ่ของอินเดียมีชุมชนแออัดมากมายแต่ละแห่งมีประชากรมากกว่า 1 ล้านคน สภาพความแออัดทำให้เป็นการยากในการแยกผู้ป่วยจากคนปกติแล้วยังมีความขาดแคลนน้ำสะอาด ซึ่งเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายกว่าที่เป็นอยู่
อินเดียกำลังเร่งติดวัคซีนเพื่อกระจายการฉีดให้ประชาชนซึ่งขณะนี้มีเพียง 2% ของประชากรที่รับการฉีดวัคซีนสองครั้ง และถือว่าเป็นระดับต่ำมาก
สถาบันเซรุ่มอินเดียเป็นผู้ผลิตวัคซีนมากที่สุดในโลกยังต้องเร่งผลิตเพื่อป้อนความต้องการภายในประเทศ และระงับการส่งออกภายใต้ข้อตกลงกับองค์การอนามัยโลก ซึ่งทำให้หลายประเทศหมดโอกาสที่จะได้วัคซีนไปด้วย
แม้กระนั้น หลายประเทศรวมทั้งสหรัฐอเมริกาพยายามจะส่งวัคซีนให้อินเดียประธานาธิบดีโจ ไบเดน และประกาศว่าอาจจะส่งวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่ไม่ได้ใช้กว่า 60 ล้านโดสไปให้
ในสหรัฐฯ ใช้แต่วัคซีนของไฟเซอร์ โมเดิร์นนา และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน