อินเดียทุบสถิติพบผู้ติดเชื้อใหม่กว่า 360,000 คนในรอบ 24 ชั่วโมง ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตทะลุผ่านหลัก 200,000 ศพแล้วในวันนี้ (28 เม.ย.) ท่ามกลางวิกฤตขาดแคลนทั้งบุคลากรสาธารณสุข, เครื่องมือแพทย์ และออกซิเจนที่ทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงทุกขณะ
การระบาดระลอกสองของโควิด-19 ที่ยังควบคุมไม่ได้ส่งผลให้อินเดียมีผู้ติดเชื้อเกิน 300,000 คนต่อวันมาตลอด 1 สัปดาห์ โรงพยาบาลและฌาปนสถานต้องรองรับทั้งคนเจ็บคนตายที่เพิ่มขึ้นไม่หยุดหย่อน และกระตุ้นให้นานาชาติต้องหยิบยื่นความช่วยเหลือให้อย่างเร่งด่วน
กระทรวงสาธารณสุขอินเดียแถลงตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 360,960 คนในรอบ 1 วัน ดันยอดผู้ป่วยสะสมของแดนภารตะเฉียดหลัก 18 ล้านคน ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตก็พุ่งสูงเป็นสถิติใหม่ 3,293 คน รวมยอดสะสม 201,187 คน
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าสถิติของทางการนั้นยังต่ำกว่าตัวเลขที่แท้จริงในอินเดีย ซึ่งมีประชากรมากถึง 1.3 พันล้านคน
ที่กรุงนิวเดลี รถพยาบาลหลายสิบคันต้องต่อคิวนานหลายชั่วโมงเพื่อลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ไปเผาที่ฌาปนสถานชั่วคราว ซึ่งตั้งขึ้นตามสวนสาธารณะและลานจอดรถ
โรงพยาบาลทั้งในและนอกเมืองหลวงต่างยอมรับว่ามีออกซิเจนเหลืออยู่น้อยมาก แม้ภาครัฐจะให้คำมั่นสัญญาว่าจะเพิ่มกำลังผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการก็ตาม
อาร์วินด์ เคชริวัล มุขมนตรีกรุงนิวเดลี ระบุว่า การที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงขึ้น และต้องใช้เวลาในการรักษายาวนานกว่าเดิม เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เพิ่มแรงกดดันต่อระบบสาธารณสุข
“การระบาดของโควิด-19 ระลอกนี้อันตรายอย่างยิ่ง เพราะเชื้อแพร่กระจายได้ง่ายมาก และผู้ที่ติดเชื้อก็ไม่อาจฟื้นตัวได้โดยเร็ว ด้วยเงื่อนไขเหล่านี้จึงทำให้เตียงไอซียูเป็นที่ต้องการอย่างมาก” เขากล่าว
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นตามโรงพยาบาลต่างๆ เป็นอีกปัญหาที่หลายคนกังวล โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเกิดเพลิงไหม้ที่โรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยโควิดแห่งหนึ่ง และยังมีถังออกซิเจนระเบิดคร่าชีวิตคนไป 22 ราย ล่าสุดเมื่อเช้าวันนี้ (28) ก็มีรายงานเหตุไฟไหม้ที่โรงพยาบาลชานนครมุมไบ ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอีก 4 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก
ธารน้ำใจจากนานาชาติเริ่มทยอยหลั่งไหลเข้าสู่อินเดีย โดยล่าสุดเครื่องช่วยหายใจและเครื่องผลิตออกซิเจนจากอังกฤษถูกส่งถึงกรุงนิวเดลีเป็นที่เรียบร้อย และจะมีมาเพิ่มอีกจากออสเตรเลีย, เยอรมนี และไอร์แลนด์
รัฐบาลหลายประเทศตัดสินใจระงับเที่ยวบินจากอินเดีย เพื่อป้องกันการแพร่เข้ามาของเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ที่ระบาดง่ายกว่าเดิม
สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P Global เตือนว่าโควิด-19 ระลอกนี้อาจบั่นทอนศักยภาพในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของอินเดีย และยังเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดระลอกใหม่ขึ้นในประเทศอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศแถบเอเชีย-แปซิฟิก เนื่องจากยังมีอัตราการฉีดวัคซีนต่อหัวประชากรค่อนข้างต่ำ
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ยอมรับว่าได้มีการหารือกับนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ในหลายประเด็น เป็นต้นว่า สหรัฐฯ จะสามารถจัดส่งวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปช่วยอินเดียได้เมื่อไหร่ พร้อมยืนยันความตั้งใจที่จะมอบความช่วยเหลือแก่นิวเดลี
“ผมเชื่อว่าเราจะก้าวไปถึงจุดที่สามารถแบ่งปันวัคซีนและความรู้ความเข้าใจต่างๆ กับประเทศอื่นที่มีความจำเป็น และนั่นคือความคาดหวังของเรา” ไบเดน ให้สัมภาษณ์สื่อที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ (27)
ขณะเดียวกัน เกล สมิธ ผู้ประสานงานภารกิจตอบสนองโควิด-19 ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ออกมาย้ำเตือนว่า วิกฤตโควิด-19 ในอินเดียจำเป็นต้องใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่องในการแก้ไข “เราทุกคนต้องเข้าใจว่า มันเพิ่งจะอยู่ในระยะเริ่มต้นเท่านั้น ยังไม่ถึงจุดพีคด้วยซ้ำ”
ที่มา: รอยเตอร์