อินเดียกำลังเผชิญวิกฤตหนักจากการระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างที่ประเทศอื่นๆ ไม่เคยประสบมาก่อน มีทั้งการขาดแคลนทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับแพทย์ในการต่อสู้กับศึกใหญ่ครั้งนี้ ขาดแคลนแม้กระทั่งอากาศออกซิเจนสำหรับหายใจ
คนป่วยโควิด-19 หลายคนเสียชีวิตเพราะขาดออกซิเจน นอกเหนือจากการขาดแคลนเตียงและโอกาสในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เมืองหลวงนิวเดลีแหล่งระบาดใหญ่มีหลายโรงพยาบาลต้องปฏิเสธรับคนไข้เพราะเกินความสามารถ
แม้แต่รถพยาบาลก็ยังมีคนไข้อยู่เพราะไม่สามารถระบายคนให้เข้ารับการรักษาได้ เนื่องจากไม่มีเตียงและพื้นที่อื่นๆ ที่พอจะรับได้ ทำให้รถพยาบาลส่วนหนึ่งกลายเป็นห้องฉุกเฉิน ไม่สามารถหมุนเวียนออกไปรับผู้ป่วยใหม่ได้
นิวเดลีมีประชากร 19 ล้านคน จำเป็นต้องขยายเวลาการล็อกดาวน์ต่อไป เมื่อสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น วันจันทร์ที่ผ่านมา จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่มีมากถึง 3.5 แสนราย ผู้เสียชีวิตเกือบ 3 หมื่นราย ถือเป็นตัวเลขสูงสุดในโลก เมื่อนับเป็นรายวัน
เตาเผาไฟฟ้าไม่สามารถรับจำนวนผู้เสียชีวิตแต่ละวันได้ ทำให้ชุมชนต่างๆ ต้องเผาโดยวิธีธรรมชาติ ก่อกองไฟเผาแยกกันเหมือนที่ทำพิธีเผาริมแม่น้ำคงคา
ตามพิธีกรรม ผู้เสียชีวิตต้องถูกเผาภายใน 24 ชั่วโมง เหมือนกรณีของชาวมุสลิมซึ่งต้องถูกฝังภายใน 24 ชั่วโมงเช่นกัน แต่การเผาไม่ใช้พื้นที่มาก
อินเดียเป็นอันดับ 2 ในการระบาดมีตัวเลขรวม 17.3 ล้านคน เสียชีวิตไปแล้ว 1.95 แสนคน เท่ากับว่าการระบาดรายวันอยู่ในระดับ 3 วัน 1 ล้านคน
ดังนั้น การรับจำนวนผู้ป่วยมากขนาดนั้นย่อมเป็นไปได้ยากสำหรับโรงพยาบาลซึ่งขาดแคลนอุปกรณ์ทุกอย่าง รวมทั้งบุคลากรการแพทย์ด้วย
ประชากรอินเดียมีมากถึง 1.36 พันล้านคน มีคนยากจนในวรรณะต่างๆ ที่ใช้ภาษาพูดกว่า 400 ภาษา มีชุมชนแออัดหรือสลัมขนาดใหญ่ในเมืองใหญ่เช่นมุมไบ นิวเดลี และกัลกัตตา แต่ละแห่งก็มีปัญหาของตัวเอง และเมืองระดับรองก็เช่นกัน
การระบาดระลอก 2 ในอินเดียเกิดขึ้นหลังจากมีการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้ม ปิดประเทศและประกาศเคอร์ฟิวในรอบแรก จากนั้นมีการเลือกตั้งใน 5 รัฐ ซึ่งเปิดช่องให้มีการรณรงค์ ชุมนุมหาเสียง และตามมาด้วยเทศกาลอาบน้ำล้างบาป
ถือว่าเป็นความจำเป็นทั้งการเลือกตั้ง ซึ่งช่วงนี้ก็ยังมีการรณรงค์สำหรับรัฐที่เหลือ ส่วนเทศกาลล้างบาปกินเวลา 2 เดือน มีประชาชนหลายล้านคนเข้าร่วมพิธีประจำปี ผู้ไปอาบน้ำ ณ แม่น้ำคงคา ไม่มีคนสวมหน้ากากจึงมีความเสี่ยงสูง
การขาดแคลนอย่างหนักเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน จากนั้นตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มไม่หยุด การขาดแคลนเตียง ห้องไอซียู และอุปกรณ์ช่วยหายใจเริ่มวิกฤต ทำให้โรงพยาบาลไม่สามารถรับคนไข้ใหม่ได้ ที่ไม่หนักก็ต้องรักษาตัวที่บ้าน
ภาพที่ปรากฏให้เห็นความแออัดในโรงพยาบาลก็คือบนเตียงบางแห่งมีคนไข้ 2 คน ซึ่งต้องอยู่พร้อมเครื่องช่วยหายใจ และบางแห่งคนไข้ต้องนอนบนพื้น ปัญหาการขาดแคลนออกซิเจนทำให้คนไข้บางรายต้องหาถังแก๊สมาเอง
รัฐบาลอินเดียต้องประกาศห้ามใช้ออกซิเจนในภาคอุตสาหกรรม ต้องหันมาป้อนโรงพยาบาล รัฐบาลได้วางแผนให้โรงผลิตก๊าซออกซิเจน 500 แห่งทั่วประเทศให้เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการในการใช้ในภาคการแพทย์
นานาประเทศเริ่มยื่นมือให้ความช่วยเหลือ อังกฤษได้ส่งเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์เสริม กลุ่มประชาคมยุโรปก็กำลังให้ความช่วยเหลือด้านอุปกรณ์เช่นกัน
ความช่วยเหลือจากอังกฤษเที่ยวแรกเริ่มวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และจะมีเที่ยวบินตามมาภายหลัง ซึ่งล้วนเป็นอุปกรณ์เกี่ยวกับการช่วยหายใจ รวมทั้งเครื่องมือสำหรับสกัดออกซิเจนจากอากาศเพื่อความเข้มข้น ในกรณีที่ออกซิเจนในระบบหมดสิ้น
นายกฯ อังกฤษ นายบอริส จอห์นสันออกแถลงการณ์ว่า “อังกฤษขอยืนเคียงข้างอินเดียในสถานะเพื่อนและหุ้นส่วน และจะต่อสู้กับโรคนี้ด้วยกัน” หลังจากตัดสินใจเลื่อนการเยือนประเทศอินเดีย
หลายประเทศ เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แคนาดา เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และอื่นๆ ประกาศห้ามเที่ยวบินจากอินเดียเข้าประเทศ บังกลาเทศเพื่อนบ้านก็ประกาศปิดพรมแดนกับอินเดียชั่วคราวเพื่อป้องกันการระบาด
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ก็ประกาศว่าจะให้ความช่วยเหลืออินเดียทุกด้าน เช่นอุปกรณ์ป้องกัน และยา เป็นการตอบแทนที่อินเดียได้ส่งความช่วยเหลือให้สหรัฐฯ ในช่วงต้นของการระบาดหนัก ฝรั่งเศสก็จะช่วยส่งออกซิเจนไปให้ด้วย
สหรัฐฯ มีสต๊อกวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่ไม่ใช้จำนวนมาก และกำลังพิจารณาว่าจะส่งไปช่วยให้อินเดียหรือไม่ ซึ่งกำลังผลิตในประเทศยังไม่เพียงพอรับการระบาด
อินเดียเป็นประเทศที่ผลิตวัคซีนมากที่สุดในโลก เท่ากับ 60 เปอร์เซ็นต์ของกำลังการผลิตรวม ปัจจุบันเป็นแหล่งผลิตวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งจำเป็นต้องระงับการส่งออกไปให้ลูกค้าตามสัญญาชั่วคราว เพราะความจำเป็นต้องป้อนในประเทศ
สหรัฐอเมริกาได้ยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกวัตถุดิบจำเป็นสำหรับการผลิตวัคซีน ทำให้อินเดียสามารถเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบเพื่อเร่งการผลิต ทุกอย่างเร่งกับเวลาเพราะมีความเสี่ยงว่าระบบต่างๆ เกี่ยวกับการต่อสู้กับโควิด-19 อาจถึงขั้นล่มสลาย
สภาวะในอินเดียกำลังจะเป็นบททดสอบสำคัญ และเป็นรูปแบบให้ประเทศอื่นๆ ที่เผชิญความรุนแรงเหมือนกันว่าควรปฏิบัติในการรับมืออย่างไร