xs
xsm
sm
md
lg

อินเดียเจอวิกฤตหนักรอบ 2

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์


ชาวอินเดียหลายสิบล้านคนเดินทางไปทำพิธีล้างบาปด้วยการอาบน้ำในแม่น้ำคงคา โดยไม่สวมหน้ากาก และไม่เว้นระยะห่าง
รัฐมนตรีสาธารณสุขอินเดีย นายฮาร์ช วาร์ดัน ประกาศด้วยความภาคภูมิใจช่วงเดือนมีนาคมว่าประเทศกำลังอยู่ในขั้น “ปิดเกม” เรื่องการระบาดของโควิด-19 สำหรับรอบแรก ซึ่งได้เคยทำให้คนติดเชื้อรายวันสูงถึง 9.3 หมื่นราย

ทั้งยังคุยฟุ้งว่านายกฯ นเรนทรา โมดี เป็นแบบอย่างของผู้นำด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ เพราะตั้งแต่เดือนมกราคมอินเดียได้เป็นฐานส่งออกวัคซีนไปให้หลายประเทศทั่วโลก แสดงให้เห็นความพร้อมในการรับมือกับการระบาด

ทั้งยกย่องความสำเร็จของอินเดียว่าเป็น “สภาวะทางการทูตด้วยวัคซีน” เพราะมีระบบการจัดการดีเยี่ยม สะท้อนให้เห็นความเป็นผู้นำของนายกฯ โมดี

จากยอดติดเชื้อสูงสุด ทำให้อินเดียสามารถลดตัวเลขการระบาดรายวันได้ต่ำกว่า 1.1 หมื่นราย ยอดคนเสียชีวิตต่ำกว่า 100 ราย จากมาตรการเข้ม

การระบาดครั้งแรก อินเดียได้ปิดล็อกดาวน์ประเทศ ส่งผลกระทบอย่างมากสำหรับประชาชน ผู้ใช้แรงงานจากภาคอื่นต้องดิ้นรนหาทางกลับภูมิลำเนาด้วยการเดินด้วยเท้าหลายร้อยกิโลเมตร เพราะไม่มีพาหนะและระบบขนส่งทุกอย่าง

ถือว่าเป็นความลำบากอย่างแสนสาหัสสำหรับคนในชุมชนแออัดเพราะขาดพื้นที่สำหรับทิ้งระยะห่างสำหรับสมาชิกครอบครัว สลัมในมหานครมุมไบแน่นยัดเยียดหลังคาติดกันชนิดไก่บินไม่ตกถึงพื้น ขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้เพื่อครัวเรือน

แล้ววันนี้เป็นไง? หลังจากปลดล็อกประเทศ ทุกอย่างเกือบเข้าที่ อินเดียได้เป็นประเทศผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ของโลกโดยสถาบันเซรุ่มแห่งชาติ ผลผลิตเป็นจำนวน 60 เปอร์เซ็นต์ของทั้งโลก และเข้าสู่โครงการ “โคแวกซ์” เพื่อประชาคมโลก

โครงการ “โคแวกซ์” เป็นการริเริ่มด้วยการประสานงานขององค์การอนามัยโลก มุ่งเน้นการผลิตวัคซีนจำหน่ายในราคาย่อมเยา จนถึงให้ฟรีสำหรับประเทศยากจน ทำให้อินเดียเร่งการผลิตอย่างเต็มที่ ได้รับคำชื่นชมด้านความสำเร็จ

นักการเมือง สื่อ และบุคคลในวงการต่างๆ เป็นปลื้มสุดๆ ดีใจกับการจัดการปัญหาการระบาด การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจส่อแววให้เห็นความแข็งแกร่งอีกด้วย

จากนั้นไม่นานหลังปลดล็อก ทุกอย่างเริ่มเข้าสู่ภาวะเลวร้าย กลายเป็นการระบาดรอบ 2 ยิ่งประจวบเหมาะกับเทศกาลศักดิ์สิทธิ์ คนฮินดูหลายสิบล้านคนเดินทางไปทำพิธีล้างบาปด้วยการอาบน้ำในแม่น้ำคงคา

เป็นการเดินทางแสวงบุญมีคนเข้าร่วมมากที่สุดในโลก กินเวลานาน 2 เดือน จะเห็นคนอาบน้ำอย่างหนาแน่นริมฝั่งแม่น้ำคงคา หาคนสวมหน้ากากไม่ได้ และไม่หวั่นว่าจะติดเชื้อ แม้สภาวะการระบาดรอบ 2 เริ่มเข้มข้นด้วยสายพันธุ์ใหม่

ก่อนหน้านั้นในเดือนกุมภาพันธ์ อินเดียมีการเลือกตั้งใน 5 รัฐ มีประชาชนผู้ใช้สิทธิ 185 ล้านคน ต้องใช้เวลาเป็นเดือน นั่นคือการเริ่มระบาดรอบใหม่

ตัวเลขการติดเชื้อเริ่มทะยานจากหลายพันเป็นหลายหมื่นคน เข้าสู่หลักแสนคน แซงยอดสูงสุดของการระบาดครั้งก่อน มาถึงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตัวเลขคนติดเชื้อมีสูงถึง 2.75 แสนคน เป็นสถิติสูงสุด ตัวเลขคนเสียชีวิตวันนั้นสูง 1,600 คน

ภาพของความขาดแคลนอุปกรณ์การแพทย์ทุกอย่าง รวมทั้งเตียง ถูกนำมาแสดงให้เห็น บางเตียงมีผู้ป่วย 2-3 ราย นอนด้วยกัน พร้อมหน้ากากออกซิเจน เป็นวิกฤตหนักที่ทำให้ผู้นำอินเดียและนักการเมืองต่างๆ คุยโม้ต่อไปไม่ได้

อินเดียมียอดคนติดเชื้อรวมเมื่อวันอาทิตย์ 15 ล้านคน เป็นรองจากสหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 178,193 ราย และตัวเลขการติดเชื้อส่อแววว่าจะเพิ่มอีก เพราะเทศกาลล้างบาปยังไม่สิ้นสุด และเป็นสิ่งที่รัฐบาลห้ามไม่ได้

การฉีดวัคซีนเพื่อประชากร 1.4 พันล้านคนยังไม่ทั่วถึงในอินเดีย คนยากจนยังต้องดิ้นรน โดยเฉพาะในเมืองหลวงเช่นนิวเดลฮี มีคนจากภาคอื่นเข้ามาทำงานมาก

เป็นสถานการณ์เลวร้าย ทำให้รัฐบาลอินเดียตัดสินใจไม่ส่งออกวัคซีน จากเดิมที่ต้องส่งออก 200 ล้านโดส ไปให้ 92 ประเทศทั่วโลก เพราะจำเป็นต้องเอาไว้ใช้ในประเทศ ฉีดให้คนอินเดียจนกว่าตัวเลขการระบาดจะลดลงในขั้นที่จัดการได้

แต่ครั้งนี้คงไม่ง่ายเหมือนเดิม เพราะการล็อกดาวน์ และมาตรการห้ามออกนอกบ้านยามวิกาลถูกนำมาใช้รอบใหม่ ทำให้คนใช้แรงงานจากต่างเมืองเตรียมอพยพสู่ภูมิลำเนาอีกครั้งเพื่อเลี่ยงการถูกปิดเมือง เพราะไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่

ที่ผ่านมา อินเดียได้ส่งออกวัคซีนไป 28 ล้านโดส และมีกำหนดส่ง 40 ล้านโดสในเดือนมีนาคม และ 50 ล้านโดสในเดือนเมษายน แต่ต้องถูกงด

เมื่ออินเดียระงับการส่งออกวัคซีนภายใต้โครงการ “โคแวกซ์” นั่นหมายความว่าประเทศยากจนโดยเฉพาะในแอฟริกา ซึ่งต้องพึ่งพาวัคซีนราคาถูกหรือฟรี ก็จะไม่ได้รับวัคซีนตามความต้องการ จะทำให้การระบาดในกาฬทวีปเลวร้ายอีกครั้ง

คาดว่าการขาดแคลนวัคซีนในแอฟริกาจะนำไปสู่ “ภาวะวิบัติ” อย่างใหญ่หลวง และประชาชนหลายล้านคนต้องตกอยู่ในภาวะเสี่ยงสูง แม้แต่ปากีสถาน เพื่อนบ้านของอินเดียซึ่งต้องพึ่งพาโครงการ “โคแวกซ์” ก็ตัดสินใจให้เอกชนสั่งซื้อมาใช้เอง

อินเดียผลิตวัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า และมียี่ห้อ Covaxin ซึ่งยังไม่ได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชน เป้าหมายเดิมของการผลิตวัคซีนฉีดให้ 300 ล้านคนให้ได้ภายในเดือนสิงหาคมปีนี้ แต่ปัญหาด้านขั้นตอนต่างๆ ทำให้ไม่เป็นไปตามคาด

อินเดียกำลังถูกมองว่าจะเอาอยู่หรือไม่ เพราะการระบาดครั้งนี้ไม่ธรรมดา ทั้งสายพันธุ์ใหม่ที่มีการติดเชื้อเร็วกว่าเดิม และส่อแววว่าจะดื้อกับวัคซีนอีกด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น