จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลก ก้าวผ่าน 3 ล้านคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในวันเสาร์ (17 เม.ย.) ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แพร่ระบาดรวดเร็วขึ้น แม้โลกกำลังเร่งโครงการฉีดวัคซีน ทำให้หลายประเทศ ในนั้นรวมถึงอินเดีย ต้องกำหนดมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ เพื่อต่อสู้สกัดจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นไม่หยุด
ตัวเลขดังกล่าวถือเป็นหลักหมายอันน่าเศร้าล่าสุดนับตั้งแต่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อุบัติขึ้นครั้งแรกทางภาคกลางของจีนในเดือนธันวาคม 2019 ก่อนแพร่เชื้อสู่ประชาชนมากกว่า 139 ล้านคนทั่วโลก ผู้คนหลายพันล้านคนต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์และทุบทำลายเศรษฐกิจโลกย่อยยับ
จากการนับของสำนักข่าวเอเอฟพี พบว่า ค่าเฉลี่ยผู้เสียชีวิตทั่วโลกอยู่ที่มากกว่า 12,000 คนต่อวันในสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตพุ่งเกิน 3 ล้านคนในวันเสาร์ (17 เม.ย.) จำนวนนี้มากกว่าประชากรทั้งหมดของจาเมกา หรือ อาร์เมเนีย และมากกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตในสงครามอิหร่าน-อิรัก ระหว่างปี 1980-1988 ถึง 3 เท่า
โรคระบาดใหญ่ไม่ส่งสัญญาณชะลอตัวลงแม้แต่น้อย ด้วยทั่วโลกรายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน 829,596 คน ในวันศุกร์ (16 เม.ย.) ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดนับตั้งแต่ระบาด ส่วนค่าเฉลี่ยผู้ติดเชื้อใหม่รายวันในสัปดาห์ที่แล้ว อยู่ที่ 731,000 คน เฉียดใกล้ทุบสถิติเดิมเช่นกัน
กรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย เข้าสู่ภาวล็อกดาวน์ช่วงสุดสัปดาห์ในวันเสาร์ (17 เม.ย.) ขณะที่ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดอันดับ 2 ของโลกแห่งนี้ พบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันถึง 234,000 คน และเสียชีวิต 1,341 คน ยอดติดเชื้อสะสมอยู่ที่ราว 14.7 ล้านคน เสียชีวิตสะสมประมาณ 177,000 ราย
เวลานี้ อินเดีย พบผู้ติดเชื้อรายวันมากกว่าสหรัฐฯ ชาติที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด 3 เท่า ครอบครัวส่งเสียงคร่ำครวญร้องขอยารักษาและเตียงคนไข้ ขณะที่แพทย์บางส่วนแสดงความกังวลว่าเวลานี้เริ่มพบเห็นคนหนุ่มสาวจำนวนมากมีอาการป่วยรุนแรง
ความหวังที่ว่าบรรดาชาติในเอเชียใต้อาจผ่านจุดเลวร้ายสุดไปแล้วพังครืนลง ด้วยแค่เดือนนี้เพียงเดือนเดียว อินเดียพบเคสผู้ติดเชื้อใหม่แล้วมากกวา 2 ล้านคน ส่วนบังกลาเทศและปากีสถาน ก็จำเป็นต้องกำหนดมาตรการชัตดาวน์รอบใหม่เช่นกัน กระตุ้นให้เจ้าหน้าที่กาชาดระหว่างประเทศออกมาเตือนว่าการพบผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวลในเอเชียใต้ “คือสัญญาณเตือนสติคนทั้งโลก”
อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่ง บรรดาประเทศร่ำรวยที่เดินหน้าความพยายามฉีดวัคซีนหมู่ประชาชน พบเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงพอสมควร ในนั้นรวมถึงสหราชอาณาจักร ซึ่งเวลานี้มีผู้เสียชีวิตเพียงราวๆ 30 คนต่อวัน จากระดับ 1,200 คนต่อวันในช่วงปลายเดือนมกราคม หลังจากฉีดวัคซีนให้ประชาชนอย่างน้อยๆ 1 โดสไปแล้วราว 60% ของประชากรทั้งหมด
ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเกิน 1,000 คน เป็นวันที่ 4 ติดต่อกันในวันเสาร์ (17 เม.ย.) โดยจำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้น เชื่อมโยงกับการแพร่ระบาดจากย่านแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีในกรุงเทพฯเมื่อช่วงต้นเดือน
ในญี่ปุ่น จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นโหมกระพือการคาดเดาว่ากีฬาโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งเลื่อนมาจากปีที่แล้วสืบเนื่องจากโรคระบาดใหญ่ อาจถูกยกเลิก
นายกรัฐมนตรี โยชิฮิเดะ ซูงะ กล่าวระหว่างพบปะกับ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก ว่า รัฐบาลของเขากำลังรับฟังคำแนะนำจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญ และจะทำอย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อเตรียมกับสำหรับจัดโตเกียวเกมส์ในเดือนกรกฎาคม
นอกจากนี้แล้ว การแพร่ระบาดของไวรัสยังส่งผลกระทบต่อพิธีและกิจกรรมต่างๆ ในที่อื่นๆ ทั่วโลกเช่นกัน
ในวันเสาร์ (17 เม.ย.) สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงอำลาเจ้าชายฟิลิป พระสวามีผู้ล่วงลับเป็นครั้งสุดท้าย ในพระราชพิธีที่กำหนดข้อจำกัดต่างๆ สกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยมีแขกผู้ทรงเกียรติเพียง 30 คนที่ได้รับเชิญ
เหล่าสมาชิกพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์สวมหน้ากากและประทับเว้นระยะห่างทางสังคมภายในโบสถ์ที่ใช้ประกอบพิธี และมีแอลกอฮอล์ล้างมือบรรจุขวดถูกพบเห็นวางไว้ตามจุดต่างๆ
ที่บราซิล ประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก มีอีกหลายสุสานที่ต้องเพิ่มกะทำงานตอนกลางคืน ในขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการขุดหลุมศพตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อฝังร่างไร้วิญญาณของผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่ไหลบ่ามาอย่างไม่หยุดหย่อน
หนึ่งในนั้นคือ วิลา ฟอร์โมซา สุสานใหญ่ที่สุดในละตินอเมริกา ซึ่งกลายเป็นสถานที่แสดงถึงความร้ายแรงของโรคระบาดใหญ่ในบราซิล ชาติที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากกว่า 365,000 คน
แม้อัตราผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับสูง แต่รัฐบาลของรัฐเซาเปาลู รัฐที่มีประชากรมากที่สุดของบราซิล ประกาศว่าจะอนุญาตให้ภาคธุรกิจต่างๆ และศาสนสถานกลับมาเปิดทำการอีกครั้งตั้งแต่วันอาทิตย์ (18 เม.ย.) เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม ยังคงพอมีข่าวดีอยู่บ้างจากยุโรป เวลานี้บางประเทศกำลังผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และไม่ใช่แค่จากความเบื่อหน่าย แต่เป็นเพราะจำนวนผู้ติดเชื้อกำลังลดลงและมีความก้าวหน้าในโครงการฉีดวัคซีน
อิตาลี ประกาศในวันศุกร์ (16 เม.ย.) ประกาศว่าจะผ่อนปรนข้อจำกัดสกัดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่สำหรับโรงเรียนและร้านอาหารตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี มาริโอ ดรากิ แสดงมุมมองแง่บวกอย่างระระวัดระวัง โดยบอกรัฐบาลของเขาตัดสินใจดังกล่าวบนพื้นฐานความเสี่ยงที่ผ่านการคำนวณแล้ว
ขณะเดียวกัน ยังมีข่าวดียิ่งกว่าสำหรับชาวสหราชอาณาจักร หลังจากกลับมาเปิดสังคมบางส่วนในสัปดาห์นี้ ส่วนเยอรมนีในวันศุกร์ (16 เม.ย.) ถอดชื่อสหราชอาณาจักรอกจากบัญชีโซนเสี่ยงโควิด-19 นั่นหมายความว่า นักเดินทางจากสหราชอาณาจักรไม่จำเป็นต้องกักตัวหลังจากเดินทางมาถึงเยอรมนีอีกต่อไป
แต่กระนั้น สเปน ได้ขยายมาตการบังคับกักตัวพวกผู้โดยสาที่เดินทางมาจาก 12 ประเทศในทวีปอเมริกาใต้และทวีปแอฟริกา ในนั้นรวมถึงบราซิลและอเมริกาใต้ จากความกังวลเกี่ยวกับตัวกลายพันธุ์ที่แพร่กระจายเชื้อได้ง่ายกว่าตัวดั้งเดิม
(ที่มา: เอเอฟพี)