การระบาดของโรคโควิด-19 ที่ไม่สร่างซาทุกวันนี้ทำให้ชาวโลกสงสัยว่าจากนี้ไปจะได้มีโอกาสหวนกลับไปใช้ชีวิตเหมือนกับสภาวะก่อนการระบาดได้หรือไม่ นั่นคือโอกาสที่คนจะได้เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลกได้อย่างสะดวกโดยไม่กังวลว่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
สภาพที่ว่านั้นความเป็นไปได้ดูเหมือนจะริบหรี่เพราะเริ่มมีคนเชื่อมั่นแล้วว่า โควิด-19 จะไม่ต่างจากการระบาดของไข้หวัดใหญ่ซึ่งจะมาเป็นฤดูกาล และวัคซีนที่ใช้อยู่จะไม่มีผลเมื่อเผชิญกับการกลายพันธุ์หลากหลายดังที่ประสบอยู่ขณะนี้
ประชาคมโลกได้รับรู้ถึงการระบาดรอบที่สามในหลายประเทศ เช่น ยุโรป และละตินอเมริกาซึ่งได้สร้างความปั่นป่วนต่อการใช้ชีวิตของประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อผู้บริหารประเทศด้วย
แม้จะมีวัคซีนฉีดกันในหลายประเทศ ก็ยังไม่เพียงพอที่จะสกัดกั้นการระบาดได้เพราะมีการประเมินว่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีกหนึ่งปีกว่าที่จะฉีดวัคซีนให้ประชาคมโลกได้ถึง 70% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่จะช่วยชะลอการระบาดได้
ในยุโรปนั้นได้มีการล็อกดาวน์ในฝรั่งเศส อิตาลี และเยอรมนี ซึ่งจำนวนผู้ป่วยยังอยู่ในระดับเป็น 10,000 ซึ่งส่งผลให้ตัวเลขการติดเชื้อรายวันแปรปรวนระหว่าง 3-5 แสนกว่าราย และการระบาดเป็นผลจากการผ่อนปรนมาตรการคุมเข้มช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ
สภาพที่เป็นอยู่การระบาดในยุโรปตะวันตกยังเป็นไปอย่างน่ากังวล ขณะที่หลายประเทศในยุโรปตะวันออกก็อยู่ในสภาวะที่ไม่ต่างกันเพราะบางประเทศมีการระบาดจำนวนผู้ป่วยมากกว่า 10,000 รายต่อวัน การเข้าถึงวัคซีนมีข้อจำกัด
ทั้งยุโรปตะวันตกและตะวันออกก็ยังเห็นตัวเลขการระบาดในหลายประเทศอยู่ในระดับหลายพันคนต่อวันรวมถึงการเสียชีวิตด้วย ซึ่งมีอยู่ประมาณ 10,000 รายต่อวัน โดยเฉลี่ยขึ้นอยู่กับการระบาดในสภาพขึ้นลงแต่ละช่วง
แม้แต่ยุโรปตอนใต้อย่างเช่น สเปน และโปรตุเกสก็ยังมีการระบาดคนติดเชื้ออยู่ในระดับหลายพันคนต่อวัน ดังนั้นสภาวะที่เป็นอยู่ทำให้ทั่วทวีปยุโรปยังห่างไกลกับความสามารถในการควบคุมการระบาดแม้จะมีการเร่งฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม
ผลจากการระบาดในประเทศชายแดนยุโรปตอนใต้ก็จะเห็นการระบาดในประเทศตุรกีอย่างรุนแรงในช่วงนี้ ซึ่งมีตัวเลขการติดเชื้อเกือบ 50,000 รายต่อวันและเพื่อนบ้านคืออิหร่าน ก็ยังมีการระบาดในระดับกว่า 10,000 รายต่อวัน
ในละตินอเมริกายังเป็นปัญหาเพราะประเทศขนาดใหญ่อย่างเช่น บราซิล และอาร์เจนตินาก็ยังเห็นการระบาดอย่างต่อเนื่อง และกระจายไปทั่วพร้อมกับตัวเลขที่ขึ้นลงแปรผัน และยังควบคุมไม่ได้
เราได้เห็นการระบาดรอบใหม่ในบราซิลซึ่งการติดเชื้อรายวัน และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ในอัตราสูงและยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดยั้งได้ เพราะในบราซิลมีเชื้อกลายพันธุ์ของโควิด-19 ซึ่งวัคซีนใช้ได้ไม่เป็นผลเต็มที่
ในบราซิลนั้นระบบสาธารณสุขกำลังล่มสลายเพราะจำนวนเตียงไม่สามารถรองรับกับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นเกือบ 100,000 คนในแต่ละวันได้ และเตียงสำหรับผู้ป่วยไอซียูและเครื่องช่วยหายใจก็ยิ่งขาดแคลนหนัก ทั้งบุคลากรการแพทย์ก็อ่อนล้าหนัก
นอกจากบราซิลแล้วตัวเลขของการระบาดที่เพิ่มขึ้นเห็นได้ในอุรุกวัยและปารากวัยก็ยิ่งทำให้สถานการณ์ในละตินอเมริกาอยู่ในสภาพที่ควบคุมการระบาดได้ยากเพราะเชื้อ โควิด-19 สายพันธุ์บราซิลทำให้การระบาดติดเชื้อถ่ายทอดกันรวดเร็วเป็นสองเท่ากว่าเชื้อสายพันธุ์เดิม
ที่น่ากังวลก็คือ โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในบราซิลนั้นมากถึง 92 ชนิดซึ่งผู้เชี่ยวชาญยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเชื้อโรคแตกตัวและกลายพันธุ์ ขณะที่ระบาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งสายพันธุ์ พี. 1 นั้นสามารถระบาดได้รวดเร็วมาก
และอินเดียการระบาดของโควิด-19 รวดเร็วในระลอกใหม่ และช่วงนี้การติดเชื้อรายวันมีจำนวนมากกว่า 100,000 รายและยอดผู้เสียชีวิตก็มีมากกว่า 600 ราย จึงเป็นสภาวะที่น่ากังวล
อินเดียเป็นประเทศที่มีการระบาดมากเป็นอันดับสามของโลกรองจากสหรัฐอเมริกาและบราซิล ตัวเลขการระบาดรวมในอินเดียมีเกือบ 13 ล้านราย และมีคนเสียชีวิตไปแล้วกว่า 1.6 แสนราย ผู้เสียชีวิตรายวันมีมากกว่า 600 ราย
และการระบาดอินเดียก็มีสายพันธุ์ใหม่ไม่ต่างจากที่อื่น ทำให้จำเป็นต้องเร่งฉีดวัคซีนเพื่อสกัดกั้นแต่เนื่องจากมีประชากรมากกว่า 1.3 พันล้านคน และมีคนยากจนหลายร้อยล้านคน ทำให้การเข้าถึงวัคซีนยากลำบากเพราะมีชุมชนแออัดขนาดใหญ่ในหลายเมือง
นอกจากปัญหาการระบาดแล้วยังมีประเด็นที่ยังถกเถียงกันเรื่องความสามารถของ วัคซีนว่าป้องกันได้เต็มที่หรือไม่ เพราะมีหลักฐานว่าคนยังติดเชื้อหลังจากรับการฉีดวัคซีนแล้วรวมถึงประสิทธิภาพของวัคซีนแต่ละชนิดด้วย
วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เป็นประเด็นถกเถียงกันมากที่สุด มีการหยุดการใช้เป็นบางครั้งในบางประเทศเพราะปัญหาเกี่ยวโยงเรื่องลิ่มเลือด และความไม่ปลอดภัยในด้านอื่น ทำให้การผลิตมีปัญหาและการยอมรับก็ยังเป็นเรื่องที่จะต้องเฝ้ามองต่อไป
ในเอเชียก็ยังวางใจไม่ได้ เพราะยังมีการระบาดในประเทศเกาหลีและญี่ปุ่น โดยเฉพาะในไทยเองนั้น ต้องรอดูว่าระลอกใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นนี้จะนำไปสู่การล็อกดาวน์อีกหรือไม่ เพราะดูสภาพแล้ว เริ่มจะกระจายไปทั่ว