กระทรวงสาธารณสุขอินเดีย รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ พุ่งทะลุ 200,000 คน เป็นครั้งแรกวันนี้ (15 เม.ย.) ขณะที่เมืองศูนย์กลางการเงินอย่างนครมุมไบ ถูกประกาศล็อกดาวน์ และโรงพยาบาลหลายแห่งที่รับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 เริ่มประสบปัญหาขาดแคลนทั้งออกซิเจนและเตียงคนไข้
ตัวเลขล่าสุดนี้ถือเป็นการทุบสถิติจำนวนผู้ป่วยใหม่สูงสุดครั้งที่ 7 ในรอบ 8 วัน หลังจากที่อินเดียเผชิญวิกฤตโควิดระลอก 2 ซึ่งมีศูนย์กลางการระบาดอยู่ที่รัฐมหาราษฏระทางตะวันตก โดยรัฐแห่งนี้มีจำนวนผู้ป่วยสะสมมากถึง 1 ใน 4 ของทั้งประเทศ
อินเดียมีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ 200,739 คน ในรอบ 24 ชั่วโมง ที่ผ่านมา ทำให้ผู้ติดเชื้อสะสมพุ่งแตะ 14.1 ล้านคน เป็นรองเพียงสหรัฐอเมริกาที่มีผู้ป่วยสะสม 31.4 ล้านคน ขณะที่ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 1,038 คน รวมยอดสะสม 173,123 คน
โรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ในรัฐมหาราษฏระ รวมถึงภูมิภาคอื่นๆ เช่น คุชราตและนิวเดลี ต่างเผชิญปัญหาคนไข้ล้นมือ เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ๆ เข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
สถานพยาบาลในรัฐอื่นๆ รวมถึงที่คุชราตซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี เริ่มขาดแคลนออกซิเจนสำหรับผู้ป่วย
“หากสถานการณ์ยังเป็นอย่างนี้ต่อไป ผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นแน่นอน” หัวหน้าองค์กรแพทย์ในเมืองอาห์เมดาบัด (Ahmedabad) ระบุในจดหมายที่ส่งถึงมุขมนตรีรัฐคุชราต
รัฐบาลกลางอินเดียยืนยันว่าโรงงานต่างๆ มีการผลิตออกซิเจนอย่างเต็มที่ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา และได้เพิ่มกำลังผลิตให้มากขึ้นด้วย
ขณะเดียวกัน ผู้แสวงบุญชาวฮินดูนับแสนๆ คนก็ยังคงไปรวมตัวกันที่ริมแม่น้ำคงคาเพื่อประกอบพิธีอาบน้ำศักดิ์สิทธิ์ในเทศกาลกุมภะเมลา โดยแทบไม่มีการเว้นระยะห่างหรือสวมหน้ากากอนามัย
ในส่วนของกรุงนิวเดลี จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันก็พุ่งสูงทำสถิติใหม่เช่นกัน และมีคำเตือนจากแพทย์ว่าไวรัสที่กำลังระบาดนี้สามารถแพร่กระจายได้ง่ายและทำให้เกิดอาการป่วยที่รุนแรงกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม ซึ่งก็หมายความว่าโควิด-19 ระลอกนี้อาจส่งผลกระทบรุนแรงยิ่งกว่าระลอกแรกเมื่อปี 2020 เสียอีก
ที่มา: รอยเตอร์