ความช่วยเหลือจากนานาชาติหลั่งไหลสู่อินเดีย โดยอเมริกาประกาศจัดส่งวัคซีนแอสตราเซเนกาให้ประเทศต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะรวมถึงแดนภารตะที่ล่าสุดยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มทะลุ 300,000 คนเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจ่อหลัก 2 แสนคน
ความช่วยเหลือจากอังกฤษ รวมถึงเครื่องช่วยหายใจ 100 เครื่อง และเครื่องผลิตออกซิเจน 95 เครื่อง ถึงกรุงเดลีแล้วเมื่อวันอังคาร (27) ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสเผยว่า รัฐบาลกำลังส่งเครื่องผลิตออกซิเจนสำหรับผู้ป่วย 250 คน และออกซิเจนไปให้อินเดีย หรือแม้กระทั่งจีนที่เผชิญหน้าทางทหารกันมาแรมปี ยังเชิญชวนบริษัทในประเทศพยายามจัดส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แดนภารตะ
รัฐบาลอินเดียที่ถูกโจมตีอย่างหนักจากการปล่อยให้มีการจัดกิจกรรมขนาดใหญ่ที่มีมวลชนเข้าร่วม เช่น การปราศรัยหาเสียง และการจัดพิธีล้างบาปในแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์เมื่อเร็วๆ นี้ ยังระดมกำลังทหารช่วยรับมือวิกฤตไวรัสโคโรนา
พลเอก บิพิน ราวัต ประธานเสนาธิการทหาร แถลงเมื่อคืนวันจันทร์ (26) ว่า ได้นำออกซิเจนสำรองของกองทัพไปมอบให้โรงพยาบาลต่างๆ รวมทั้งระดมแพทย์ทหารที่ปลดเกษียณแล้วไปช่วยดูแลผู้ป่วยโควิด
บริษัทต่างๆ ตั้งแต่กลุ่มกิจการยักษ์ใหญ่อย่างทาทา กรุ๊ป และรีไลแอนซ์ อินดัสทรีส์ จนถึงจินดัล สตีล แอนด์ พาวเวอร์ ต่างเร่งจัดหาออกซิเจนให้โรงพยาบาลที่ขาดแคลน
ขณะเดียวกัน ขบวนรถไฟ “ออกซิเจน เอ็กซ์เพรส” พร้อมออกซิเจนราว 70 ตันจากรัฐทางตะวันออกถึงเดลีแล้วเมื่อวันอังคาร ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดในรอบ 24 ชั่วโมงเพิ่มขึ้น 323,144 คน ซึ่งแม้ลดลงจากสถิติสูงสุดของโลกที่อินเดียทำไว้เมื่อวันจันทร์ที่ 352,991 คน แต่ยังถือว่า สูงกว่า 300,000 คนติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 2,771 คน เป็น 197,894 คน
ริโจ เอ็ม จอห์น นักเศรษฐศาสตร์สาธารณสุขของสถาบันการจัดการแห่งอินเดียในรัฐเกรละทางใต้ของประเทศ ชี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่ลดลงนี้ ที่สำคัญแล้วเป็นผลจากการลดการตรวจหาผู้ติดเชื้อ
ขณะนี้ เดลี ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดระลอกล่าสุด อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์จนถึงวันที่ 3 เดือนหน้า นอกจากนี้ยังมีอีกหลายรัฐที่มีการระบาดรุนแรงจนต้องล็อกดาวน์เช่นเดียวกัน
จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 ที่พุ่งพรวดไม่หยุด ทำให้ทั่วอินเดียเผชิญสภาพผู้ป่วยล้นโรงพยาบาลและออกซิเจนขาดแคลนหนัก แพทย์คนหนึ่งเผยว่า ผู้ป่วย 2 คนต้องใช้ออกซิเจนจากถังเดียวกัน และภาพตลอดจนรายงานของสำนักข่ราวต่างๆ เผยให้เห็นร่างเหยื่อโควิดในเดลีถูกเผาหมู่บนกองฟืน โดยที่เมรุเผาศพแห่งต่างๆ ต้องจัดพื้นที่กลางแจ้ง เช่น ลานจอดรถ ให้เป็นเมรุเผาศพชั่วคราว นอกจากนั้น ทางการยังเริ่มใช้พื้นที่สวนสาธารณะในเมืองหลวงหลายแห่งมาเป็นเมรุเผาศพชั่วคราวเช่นกัน
เวลาเดียวกัน อินเดียก็มีการดัดแปลงโรงแรมและตู้รถไฟเป็นสถานดูแลผู้ป่วยวิกฤต แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า วิกฤตระลอกถัดไปคือการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์
อเมริกา เยอรมนี แคนาดา และองค์การอนามัยโลก (WHO) ต่างให้สัญญาเร่งส่งความช่วยเหลือให้อินเดีย
วันจันทร์ (26) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศว่า อเมริกาจะจัดส่งวัคซีนแอสตราเซเนกา 60 ล้านโดสให้ประเทศต่างๆ
เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว แถลงว่า คณะบริหารยังไม่ได้ตัดสินใจว่า จะส่งวัคซีนให้ประเทศใดบ้างและกำลังพิจารณาแผนการแจกจ่าย
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนอินเดียจะมีภาษีกว่าประเทศอื่นๆ หลังจากไบเดนทวิตภาจหลังหารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี เมื่อวันจันทร์ว่า อเมริกาจะช่วยเหลืออินเดียเหมือนที่อินเดียเคยช่วยตอนที่อเมริกาเผชิญการระบาดของโควิด-19 รุนแรงก่อนหน้านี้
วันเดียวกันนั้น เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการ WHO กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกกำลังทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อจัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็นให้แก่อินเดีย
ในอีกด้านหนึ่ง หลายๆ ประเทศตัดสินใจปิดพรมแดนงดรับนักเดินทางจากอินเดีย เนื่องจากหวาดกลัวไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ที่เป็นสาเหตุการระบาดหนักในแดนภารตะขณะนี้ โดยออสเตรเลียเป็นประเทศล่าสุดที่งดรับนักเดินทางทางอากาศจากอินเดียโดยเด็ดขาดจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคมเป็นอย่างน้อย