อินเดียเจอผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นถึง 346,786 รายในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขแถลงช่วงสายๆ ของวันเสาร์ (24 เม.ย.) เท่ากับสร้างสถิติโลกติดต่อกันเป็นวันที่สาม ขณะที่โรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งต่างรับคนไข้จนเต็มล้น วิงวอนขอแก๊สออกซิเจนที่กำลังร่อยหรอลงอย่างน่ากลัว
ที่ด้านนอกของโรงพยาบาลหลายแห่งในเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศอินเดียเวลานี้ มีคนไข้โควิด-19 และญาติมิตรที่อยู่ในอาการวิตกหวาดกลัว เข้าแถวรอกันอยู่ ขณะที่จำนวนเคสใหม่ๆ พุ่งขึ้นเกือบๆ 1 ล้านรายแล้ว หลังจากสูงขึ้นกว่า 3 แสนรายต่อเนื่องกันมา 3 วัน โดยที่ยอดสะสมขึ้นไปอยู่ที่ราว 16.6 ล้านราย เป็นอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐฯ
เวลาเดียวกัน ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสมรณะนี้ก็สร้างสถิติใหม่รอบรายวันสำหรับอินเดีย โดยอยู่ที่ 2,624 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมซึ่งทางการรวบรวมไว้อยู่ที่ 189,544 คน
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากทำนายว่า การระบาดรอบปัจจุบันของอินเดียซึ่งถือเป็นระลอกสองนั้น จะยังขึ้นไปไม่ถึงจุดสูงสุดอย่างน้อยที่สุดก็อีก 3 สัปดาห์ ขณะที่ตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจริงๆ ก็น่าจะสูงกว่าที่รายงานกันมาก
ทางด้านรัฐบาลกลางอินเดียของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ได้เร่งรีบแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยเฉพาะการขาดแคลนออกซิเจนทางการแพทย์
ทั้งนี้ รัฐบาลได้จัดขบวนรถไฟพิเศษพื่อบรรทุกออกซิเจนไปยังเมืองใหญ่ๆ ที่กำลังเผชิญโรคระบาดใหญ่หนักหน่วงสาหัส นอกจากนั้นยังกดดันพวกนายทุนนักอุตสาหกรรมให้ปรับเปลี่ยนจากการผลิตออกซิเจนเพื่ออุตสาหกรรม มาเป็นออกซิเจนทางการแพทย์ ตลอดจนร่งรัดผลิตยาช่วยชีวิตอื่นๆ ซึ่งก็ร่อยหรอขาดแคลน
ขบวนรถไฟ “ออกซิเจน เอ็กซ์เพรส” ขบวนหนึ่งซึ่งลำเลียงออกซิเจนเหลวจำนวน 30,000 ลิตรสำหรับใช้ในโรงพยาบาลต่างๆ ได้เดินทางไปถึงเมืองลัคเนา รัฐอุตตรประเทศเมื่อตอนรุ่งสางของวันเสาร์ (23) โดยที่มีกำลังเจ้าหน้าที่ติดอาวุธรอต้อนรับและอารักขารถบรรทุกซึ่งขนออกซิเจนเหล่านี้ไปส่งยังโรงพยาบาล
ลัคเนากลายเป็นหนึ่งในเมืองที่เกิดการระบาดหนักหน่วงที่สุดในเวลานี้ โดยโรงพยาบาลต่างๆ เต็มล้นไปด้วยคนไข้ ส่วนเมรุเผาศพทั้งหลายก็แน่นขนัดไปด้วยศพที่ต้องรีบฌาปนกิจ และก่อนหน้านี้พวกเจ้าหน้าที่เตือนว่ามีออกซิเจนเพียงพอสำหรับใช้ไปได้แค่ครึ่งวันเท่านั้น
ทางด้านกองทัพอากาศอินเดียก็กำลังถูกมอบหมายภารกิจให้ขนส่งแท็งก์ออกซิเจนและข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ ไปตามจุดต่างๆ ทั่วประเทศ
ในเมืองหลวงนิวเดลี รัฐบาลท้องถิ่นของที่นั่นแถลงว่า จะเริ่มจัดตั้งสต็อกเก็บออกซิเจนเหลวขึ้นมา เพื่อจะได้เร่งส่งออกซิเจนไปให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ เมื่อพวกเขาอยู่ในภาวะเหลืออีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะไม่มีใช้
รายงานข่าวทางโทรทัศน์แสดงให้เห็นรถบรรทุกออกซิเจนคันหนึ่งกำลังไปถึงโรงพยาบลบาตรา ในเดลี หลังจากโรงพยาบาลแห่งนี้ส่งสัญญาณเตือนภัย SOS โดระบุว่ามีออกซิเหลือเพียงใช้ได้เพียงแค่ 90 นาทีสำหรับคนไข้ 260 คนของตน
ผู้สื่อข่าวระบุว่า ที่ด้านนอกโรงพยาบาลต่างๆ ในเมืองหลวง มีคนไข้จำนวนมากกำลังเสียชีวิต จากปัญหามีเตียงคนไข้ไม่เพียงพอและการขาดแคลนออกซิเจน
องค์การการกุศลแห่งหนึ่งได้จัดตั้งเมรุเผาศพชั่วคราวขึ้นในลานจอดรถแห่งหนึ่ง โดยจัดเตรียมพวกกองฟืนสำหรับเผาศพตั้งเรียงรายกระจายกันออกไป เพื่อให้สามารถรับมือกับจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้นทุกที
ในเมืองอื่นๆ ทั่วประเทศ โรงพยาบาลจำนวนมากก็ออกประกาศระบุว่าพวกเขาไม่มีออกซิเจนสำหรับใช้ทางการแพทย์เช่นกัน ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานข่าวผู้ป่วยรายใหม่ๆ กำลังเสียชีวิตในเมืองชัยปุระ รัฐราชสถาน และเมืองอมฤตสระ รัฐปัญจาบ เนื่องจากซัปพลายออกซิเจนขาดแคลน
รัฐบาลโมดีกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักหน่วงเรื่องอวดอ้างประกาศชัยชนะเหนือโควิด-19 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ตอนที่การระบาดลดระดับลงมาเหลือเกิดเคสใหม่วันละราว 10,000 ราย จากนั้นทางการก็หย่อนยานไม่เตือนภัยให้ประชาชนต้องระมัดระวังตัวต่อไปในเรื่องการสวมหน้ากากป้องกันและการรักษาระยะห่างทางสังคม รวมทั้งไม่ห้ามการชุมนุมรวมตัวของผู้คนจำนวนมหาศาล เป็นต้นว่า งานเทศกาลอาบน้ำล้างบาป และการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนชี้ว่า ปัญหายังเพิ่มความหนักหน่วงจากการที่เกิดไวรัสกลายพันธุ์ซึ่งแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก ทั้งนี้เนื่องจากอินเดียซึ่งมีประชากร 1,300 ล้านคน มากเป็นอันดับสองของโลกนั้น ผู้คนส่วนใหญ่ที่ฐานะยากจนต้องพำนักอาศัยกันอย่างแออัดใกล้ชิดกันมาก โดยเฉพาะตามเมืองใหญ่ๆ บ่อยครั้งที่ห้องพักห้องหนึ่งมีคนอยู่กันถึง 6 คน
“ขณะที่ความหย่อนยานไม่ได้ปฏิบัติตามข้อแนะนำในเรื่องหน้ากากป้องกัน และการเว้นระยะห่างทางกายภาพ อาจจะมีบทบาทในเรื่องนี้ แต่ดูเหมือนมันน่าจะเป็นไปได้มากขึ้นทุกทีว่า การระบาดระลอกสองนี้ถูกเติมเชื้อเพลิงจากไวรัสกลายพันธุ์ที่มีฤทธ์ร้ายแรงยิ่งกว่าเดิมมาก” วิกรม ปาเตล ศาสตราจารย์ด้านสาธารณสุขโลก อยู่ที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ระบุในข้อเขียนที่เผยแพร่ในสื่อ อินเดียน เอ็กซ์เพรสส์
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)