ผู้จัดการรายวัน 360 - ตำรวจนครบาล จับแก๊งขาย "เคนมผง" เพิ่ม 3 คน รับสารภาพซื้อผ่านเฟซบุ๊ก นำมาแบ่งขายวัยรุ่น ผบช.น. เตรียมขยายผลจับกุมเครือข่ายเคนมผงรายใหญ่ ขณะที่นักเสพดับเพิ่มอีก 1 ราย ป.ป.ส. เผยผลตรวจ “เคนมผง” เป็น "คีตามีน" ผสม "แวเลียม" ชี้เสพเป็นระยะเวลานาน ทำให้กลายเป็นคนวิกลจริตได้ 'บิ๊กตู่'ไม่เข้าใจ จะเสพกันไปทำไม
วานนี้ (13 ม.ค.) ตำรวจกำลังชุดปฎิบัติการปราบปรามยาเสพติด บก.น.2 ร่วมกันจับกุมแก๊งยาเสพติด (เคนมผง) ประกอบด้วย นายเดช (นามสมมติ) อายุ 19 ปี พร้อมของกลางยาเคตามีน 8.48 กรัม และนายนพดล หรือฮัท อายุ 20 ปี ของกลางยาเคตามีน 18.45 กรัม โดยจับกุมได้ที่บริเวณคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านคลอง 2 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และนายรัตนโชค หรือจิ้ม อายุ 21 ปี พร้อมของกลาง ยาเคตามีน น้ำหนัก 31.9 กรัม โดยจับกุมตัวได้บริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม.
โดยจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 รายให้การว่า สำหรับเคตามีน(เคนมผง)ดังกล่าว ได้ติดต่อสั่งซื้อจากสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นหญิงวัยรุ่นชื่อฮาย (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) อายุประมาณ 20 ปี ในราคากรัมละ 470 บาท ก่อนนำมาแบ่งขายกรัมละ 600 บาท ให้กับกลุ่มวัยรุ่นย่านสายไหม และลูกค้าทั่วไป เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต และ ประสาท ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ยาเคตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฏหมาย ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 รายพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.สายไหม และ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวว่า เจาหน้าที่ตำรวจจะมีการขยายผลและจับกุมตัวการทั้งรายใหญ่และรายย่อยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายเพิ่มเติม โดยจะเน้นไปที่กลุ่มคนผู้จำหน่ายยาเคดังกล่าวให้กับกลุ่มของผู้เสียชีวิต ตอนนี้ทราบชื่อผู้จำหน่าย แต่เป็นเพียงชื่อเล่นเท่านั้น ซึ่งเขาจะเรียกตามฉายาต่างๆ โดยข้อมูลนี้ทางตำรวจเองก็ต้องเก็บมาตรวจสอบก่อนว่ามีตัวตนจริงหรือไม่
ทั้งนี้ตำรวจเองได้จับกุมเครือข่ายยาเสพติดมาโดยตลอด การจับกุมจะมี 2 ลักษณะ คือ การจับกุมรายใหญ่ ที่มาจากทางภาคเหนือ ภาคอีสาน และการจับกุมรายย่อยในชุมชนต่างๆ ที่ผ่านมาตำรวจก็ทำงานกันมาตลอด แต่ครั้งนี้จะเน้นพิสูจน์ทราบตัวบุคคลและหาความเชื่อมโยงแหล่งที่มาของยาเคดังกล่าวที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย
รายงานแจ้งเพิ่มเติม่า ในวันเดียวกันนี้ได้พบผู้เสียชีวิตภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่ อ.บางบัวทอง โดยเสียชีวิตจากยาเคนมผงภายในห้องซักผ้าชั้นล่างของคอนโด สภาพศพมีน้ำลายฟูมปากและมีคราบสีขาวติดอยู่ ทราบชื่อนายนพรัตน์ อาจพงษา อายุ 33 ปี
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวถึง ผลการตรวจสอบของกลางยาเสพติดชนิดใหม่ "เคนมผง" ได้ยึดได้จากการจับกุมผู้ต้องหาย่านสายไหม ว่า จากการตรวจสอบของสถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ของกลาง "เคนมผง" มีส่วนผสมของคีตามีนและไดอาซีแพม (Diazepam) หรือยาที่ทั่วไปรู้จักกันในทางการค้าว่า แวเลียม (Valium) จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 ตามพระราชบัญญัติวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2559
สำหรับ ไดอาซีแพม หรือแวเลียม ออกฤทธิ์ที่สมองหรือระบบประสาทส่วนกลาง ในทางการแพทย์ใช้เป็นยากล่อมประสาทหรือสงบประสาท ทำให้จิตใจสงบ ใช้สำหรับรักษาอาการผิดปกติทางอารมณ์ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว แก้อาการชัก เป็นต้น
ทั้งนี้ ผลข้างเคียงจากการใช้ไดอาซีแพมนั้น อาจทำให้มีอาการง่วงซึม เหนื่อยล้า กล้ามเนื้ออ่อนแรง ร่างกายสูญเสียความสมดุล ลมหายใจอ่อนแรง มึนงง เห็นภาพหลอน ซึมเศร้า กล้ามเนื้อกระตุก กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ รวมถึงเกิดอาการชักได้ โดยความผิดในฐานผู้ขาย ต้องระวางโทษจำคุก 2-10 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 – 1,000,000 บาท และความผิดฐานครอบครองหรือใช้ประโยชน์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่ยาเค หรือ คีตามีน (Ketamine) เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 ตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 ใช้เป็นยาสลบก่อนทำการผ่าตัด สามารถระงับปวด ช่วยขยายหลอดลม ต่อต้านอาการซึมเศร้าได้ โดยความผิดในฐานผู้เสพ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความผิดฐานผู้ขาย ต้องระวางโทษจำคุก 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 400,000 - 2,000,000 บาท และความผิดฐานครอบครองหรือใช้ประโยชน์ ต้องระวางโทษจำคุก 1-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 - 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับความเชื่อมโยงของยาเคนมผง ที่พบในหลายพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ นั้น คงต้องดูผลการตรวจพิสูจน์จากของกลางที่พบในคดีอื่นว่าเป็นสารชนิดเดียวกันหรือไม่ รวมถึงอาศัยข้อมูลการสืบสวนสอบสวนขยายผลจับกุมของเจ้าหน้าที่ว่าในแต่ละคดีมีความเชื่อมโยงกันหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าใดๆ เพิ่มเติม สำนักงาน ป.ป.ส. จะเร่งแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีผู้เสพ "เคนมผง" เกินขนาดจนทำให้เสียชีวิต ว่า "ก็นั่นสิ แล้วจะไปเสพทำไม ทำไมต้องไปเสพมันล่ะ นั่นแหละคือปัญหา ผมถึงบอกนี่คือความต้องการของประชาชน รัฐบาลและหน่วยงานมีหน้าที่ในการปราบปราม หน้าที่คนละอันกัน ทุกคนก็มีหน้าที่ทำให้ครอบครัวมีสุขภาพที่ดี"
วานนี้ (13 ม.ค.) ตำรวจกำลังชุดปฎิบัติการปราบปรามยาเสพติด บก.น.2 ร่วมกันจับกุมแก๊งยาเสพติด (เคนมผง) ประกอบด้วย นายเดช (นามสมมติ) อายุ 19 ปี พร้อมของกลางยาเคตามีน 8.48 กรัม และนายนพดล หรือฮัท อายุ 20 ปี ของกลางยาเคตามีน 18.45 กรัม โดยจับกุมได้ที่บริเวณคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านคลอง 2 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และนายรัตนโชค หรือจิ้ม อายุ 21 ปี พร้อมของกลาง ยาเคตามีน น้ำหนัก 31.9 กรัม โดยจับกุมตัวได้บริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม.
โดยจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 รายให้การว่า สำหรับเคตามีน(เคนมผง)ดังกล่าว ได้ติดต่อสั่งซื้อจากสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นหญิงวัยรุ่นชื่อฮาย (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) อายุประมาณ 20 ปี ในราคากรัมละ 470 บาท ก่อนนำมาแบ่งขายกรัมละ 600 บาท ให้กับกลุ่มวัยรุ่นย่านสายไหม และลูกค้าทั่วไป เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต และ ประสาท ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ยาเคตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฏหมาย ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 รายพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.สายไหม และ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวว่า เจาหน้าที่ตำรวจจะมีการขยายผลและจับกุมตัวการทั้งรายใหญ่และรายย่อยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายเพิ่มเติม โดยจะเน้นไปที่กลุ่มคนผู้จำหน่ายยาเคดังกล่าวให้กับกลุ่มของผู้เสียชีวิต ตอนนี้ทราบชื่อผู้จำหน่าย แต่เป็นเพียงชื่อเล่นเท่านั้น ซึ่งเขาจะเรียกตามฉายาต่างๆ โดยข้อมูลนี้ทางตำรวจเองก็ต้องเก็บมาตรวจสอบก่อนว่ามีตัวตนจริงหรือไม่
ทั้งนี้ตำรวจเองได้จับกุมเครือข่ายยาเสพติดมาโดยตลอด การจับกุมจะมี 2 ลักษณะ คือ การจับกุมรายใหญ่ ที่มาจากทางภาคเหนือ ภาคอีสาน และการจับกุมรายย่อยในชุมชนต่างๆ ที่ผ่านมาตำรวจก็ทำงานกันมาตลอด แต่ครั้งนี้จะเน้นพิสูจน์ทราบตัวบุคคลและหาความเชื่อมโยงแหล่งที่มาของยาเคดังกล่าวที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย
รายงานแจ้งเพิ่มเติม่า ในวันเดียวกันนี้ได้พบผู้เสียชีวิตภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่ อ.บางบัวทอง โดยเสียชีวิตจากยาเคนมผงภายในห้องซักผ้าชั้นล่างของคอนโด สภาพศพมีน้ำลายฟูมปากและมีคราบสีขาวติดอยู่ ทราบชื่อนายนพรัตน์ อาจพงษา อายุ 33 ปี
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวถึง ผลการตรวจสอบของกลางยาเสพติดชนิดใหม่ "เคนมผง" ได้ยึดได้จากการจับกุมผู้ต้องหาย่านสายไหม ว่า จากการตรวจสอบของสถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ของกลาง "เคนมผง" มีส่วนผสมของคีตามีนและไดอาซีแพม (Diazepam) หรือยาที่ทั่วไปรู้จักกันในทางการค้าว่า แวเลียม (Valium) จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 ตามพระราชบัญญัติวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2559
สำหรับ ไดอาซีแพม หรือแวเลียม ออกฤทธิ์ที่สมองหรือระบบประสาทส่วนกลาง ในทางการแพทย์ใช้เป็นยากล่อมประสาทหรือสงบประสาท ทำให้จิตใจสงบ ใช้สำหรับรักษาอาการผิดปกติทางอารมณ์ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว แก้อาการชัก เป็นต้น
ทั้งนี้ ผลข้างเคียงจากการใช้ไดอาซีแพมนั้น อาจทำให้มีอาการง่วงซึม เหนื่อยล้า กล้ามเนื้ออ่อนแรง ร่างกายสูญเสียความสมดุล ลมหายใจอ่อนแรง มึนงง เห็นภาพหลอน ซึมเศร้า กล้ามเนื้อกระตุก กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ รวมถึงเกิดอาการชักได้ โดยความผิดในฐานผู้ขาย ต้องระวางโทษจำคุก 2-10 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 – 1,000,000 บาท และความผิดฐานครอบครองหรือใช้ประโยชน์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่ยาเค หรือ คีตามีน (Ketamine) เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 ตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 ใช้เป็นยาสลบก่อนทำการผ่าตัด สามารถระงับปวด ช่วยขยายหลอดลม ต่อต้านอาการซึมเศร้าได้ โดยความผิดในฐานผู้เสพ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความผิดฐานผู้ขาย ต้องระวางโทษจำคุก 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 400,000 - 2,000,000 บาท และความผิดฐานครอบครองหรือใช้ประโยชน์ ต้องระวางโทษจำคุก 1-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 - 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับความเชื่อมโยงของยาเคนมผง ที่พบในหลายพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ นั้น คงต้องดูผลการตรวจพิสูจน์จากของกลางที่พบในคดีอื่นว่าเป็นสารชนิดเดียวกันหรือไม่ รวมถึงอาศัยข้อมูลการสืบสวนสอบสวนขยายผลจับกุมของเจ้าหน้าที่ว่าในแต่ละคดีมีความเชื่อมโยงกันหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าใดๆ เพิ่มเติม สำนักงาน ป.ป.ส. จะเร่งแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีผู้เสพ "เคนมผง" เกินขนาดจนทำให้เสียชีวิต ว่า "ก็นั่นสิ แล้วจะไปเสพทำไม ทำไมต้องไปเสพมันล่ะ นั่นแหละคือปัญหา ผมถึงบอกนี่คือความต้องการของประชาชน รัฐบาลและหน่วยงานมีหน้าที่ในการปราบปราม หน้าที่คนละอันกัน ทุกคนก็มีหน้าที่ทำให้ครอบครัวมีสุขภาพที่ดี"
