MGR Online - รอง ผบ.ตร.นำแถลงตำรวจ 191-บก.น.9-ป.ป.ส.ระดมกวาดล้างจับผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ยึดอาวุธปืนหลายกระบอก ยาเสพติดจำนวนมาก หลังการแพร่ระบาด“เคนมผง” ดับแล้ว 9 ราย ผบช.น.บอกพยายามตามจับผู้ค้ารายใหญ่ เคสประเวศ รอผลตรวจแยกสาร ขู่เอาผิดตำรวจปล่อยปละละเลย ป.ป.ส.เผยยาตัวใหม่ “ทะเลทราย” เคตามีนและเฮโรอีนผสมกัน
วันนี้ (14 ม.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สําราญ นวลมา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. พ.ต.อ.วิศิษฐ์ สังขนันท์ ผกก.สน.บางขุนเทียน และ นายสุนทร ชื่นศิริ ผอ.ป.ป.ส.กทม.แถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมและยาเสพติดของ บก.สปพ.และ บก.น.9 ระหว่างวันที่ 14-20 ม.ค.
โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด จำนวน 16 ราย ยาบ้า จำนวน 19,203 เม็ด ไอซ์ จำนวน 1,190 กรัม กัญชา จำนวน 160 กก. ปืนยาวขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก ปืนยาวขนาด 7.62 จำนวน 1 กระบอก ปืนยาวอัดลม จำนวน 3 กระบอก ปืนสั้น จำนวน 6 กระบอก ปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก พร้อมแม็กกาซีน จำนวน 2 ซอง ปืนกึ่งอัตโนมัติกล็อก 26 จำนวน 1 กระบอก กระสุน จำนวน 174 นัด เงินสด รถยนต์ จำนวน 3 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 4 คัน และเงินสด จำนวน 182,820 บาท
พล.ต.อ.มนู กล่าวว่า สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของเคนมผง โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯเป็นเหตุมีผู้เสียชีวิตหลายราย และป่วยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ตามนโยบาย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ทาง ผบช.น.ได้สั่งการระดมกวาดล้างอาชญากรรมและยาเสพติด 7 วัน เพื่อหาตัวผู้อยู่เบื้องหลังนำเคนมผงมาจำหน่าย โดยวันแรกมีการปิดล้อมตรวจค้นจุดสำคัญ 18 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาและยึดของกลางจำนวนมาก ถือว่าเป็นการเอาจริงเอาจังของ ผบช.น.สบายใจได้ว่าการระบาดในช่วงนี้จะต้องหมดไปอย่างแน่นอน
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เกี่ยวข้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล 23 ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย ยังรักษาตัว 5 ราย ในจำนวนนี้อยู่ห้องไอซียู 3 ราย ที่เหลือเดินทางกลับบ้านแล้ว สำหรับพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร มีผู้เสียชีวิต 6 ราย ในจำนวนนี้ 3 ราย สามารถสืบสวนทราบตัวผู้จำหน่าย และจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 4 ราย ในวันนี้คาดว่าจับกุมได้อีก 1 ราย พื้นที่ สน.สุทธิสาร มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จับกุมผู้จำหน่ายได้
และล่าสุด วานนี้ (13 ม.ค.) พื้นที่ สน.โชคชัย มีผู้เสียชีวิต 2 ราย อีก 1 รายอยู่ห้องไอซียู และอีก 2 ราย รักษาหายเดินทางกลับบ้านแล้ว สามารถสืบสวนทราบตัวผู้จำหน่าย 2 ราย ในจำนวนนี้ 1 ราย ทราบว่า นำยาเสพติดมาจากพื้นที่ปริมณฑล แล้วเข้ามาจำหน่ายในกรุงเทพฯ กรณี สน.ประเวศ พบผู้เสียชีวิตอยู่ระหว่างรอผลตรวจคัดแยกหาสารเสพติด บางทีก็ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง หรือผลการตรวจพิสูจน์ของแพทย์ ตนไม่กล้ายืนยันว่าจะมีความเชื่อมโยงขนาดไหน แต่ก็พบมีความเชื่อมโยงบ้าง
ผลการตรวจพิสูจน์กรณี สน.วัดพระไกร พบของกลางในที่เกิดเหตุ 2 จุด จุดที่ 1 ที่มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ปรากฏว่า มีส่วนผสมของเคตามีนและไดอะซีแพม สอดคล้องกับของกลางที่ได้จาก สน.สายไหม และจุดที่ 2 เป็นอู่แท็กซี่ที่มีผู้เสียชีวิตหลายราย พบของกลางหลายถุง ถุงที่ 1 มีส่วนผสมของเคตามีน และถุงที่ 2 มีส่วนผสมของเฮโรอีน ธนบัตรที่ใช้ห่อยาเสพติดมีผลพบว่า เป็นเฮโรอีนและยาอีอีกจำนวนหนึ่ง ผู้เสพจะผสมเคตามีนและเฮโรอีนเองหรือไม่นั้น ผู้เสพอาจมีสารเสพติดหลายชนิดในร่างกาย หรือเสพยาเสพติดหลายประเภท บางทีผู้เสพอาจมีส่วนเกี่ยวพันกับยาเสพติด อย่างกรณี สน.โชคชัย จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทราบว่า แต่ละคนมียาเสพติดเป็นของตัวเอง และบางส่วนมีผู้นำมาจำหน่ายให้ อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจริงแล้วมีการผสมจากที่ใด
ประเด็นการออกหมายจับผู้จำหน่าย 4 ราย สน.วัดพระไกร หลังแม่ผู้ต้องหาในจำนวน 2 ราย ปฏิเสธว่าลูกไม่ได้จำหน่ายเป็นเพียงผู้เสพ ตนยืนยันว่า ตำรวจมีข้อมูลในการขอหมายจับ ผู้ต้องหามีสิทธิที่จะให้การ หรือเปลี่ยนอย่างไรก็ได้ ตำรวจไม่ได้ฟังคำให้การเป็นหลัก การจะขออนุญาตศาลออกหมายจับ มีการรวบรวมพยานหลักฐานระดับหนึ่ง คิดว่าเพียงจึงจะสามารถดำเนินการได้ และในจำนวนนี้ 1 ราย เป็นผู้ค้ารายกลางจะขยายผลถึงรายใหญ่ได้หรือไม่ ตอนนี้ทราบเพียงชื่อเล่นอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวบุคคล เมื่อจับกุมได้เรื่อยๆ ก็จะมีความคืบหน้าไปมาก ขณะนี้ตำรวจกำลังพยายามติดตามจับกุมให้ได้
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวต่อว่า จากการพิสูจน์ทราบพบว่าของกลางส่วนหนึ่งของ สน.วัดพระยาไกร มีความเชื่อมโยงกับ สน.สุทธิสาร และอีกส่วนหนึ่งเชื่อมโยงกับ สน.สายไหม ผู้ต้องหาให้การว่ารับยาเสพติดมาจาก จ.ปทุมธานี ขณะนี้จับกุมแล้ว 5 คดี เป็นผู้จำหน่าย 8 ราย ก่อนหน้านี้ จับกุมผู้จำหน่ายพื้นที่ สน.สายไหม 1 ราย สน.จรเข้น้อย 1 ราย และพื้นที่ติดต่อข้างเคียงกับ บช.ภ.1 อีก 2 ราย
จะทำการทยอยจับเรื่อยๆ พล.ต.อ.มนู ได้กำชับให้ดำเนินการ 2 ลักษณะ คือ 1. การจับเครือข่ายรายใหญ่ เป็นบุคคลที่นำยาเสพติดมาจำหน่ายในกรุงเทพฯ และ 2. จับรายย่อยที่แพร่หลายในชุมนุม บช.น.พยายามตามจับกุมในช่วงระดมกวาดล้าง ส่วนการดำเนินคดีนอกเหนือจากข้อหาครอบครอง หรือจำหน่ายกับผู้จำหน่ายยาเสพติด ที่มีส่วนผสมสารต่างๆ มากมาย ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน เป็นไปได้ว่าอาจเข้าข่ายประมาทจนถึงแก่ความตาย
สำหรับยานอนหลับ (ไดอะซีแพม) เป็นสารที่ใช้ทางการแพทย์ อยู่ในความควบคุมของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ถูกนำไปผสมกับเคนมผงตำรวจได้หารือกับ สธ.ในการป้องกันปราบปราม หรือหากพบเบาะแสแจ้งที่ 191 ส่วนจะมีการเอาผิดตำรวจพื้นที่ ฐานปล่อยให้มีการเสพยาเสพติดหรือไม่ จากพฤติการณ์พบว่าที่เกิดเหตุทั้งหมดอยู่ในบ้านทั้งหมด ยังไม่พบว่าเสพในสถานบริการ แต่หากตำรวจปล่อยปละละเลยเรื่องสถานบริการ ตนก็จะพิจารณาลงทัณฑ์อยู่แล้ว
สุดท้ายนี้ขอให้พี่น้องประชาชน ผู้นำชุมชน และทุกครอบครัว ช่วยเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแล หากพบเบาะแส หรือสงสัยอะไรขอความกรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกัน ขอร้องให้ช่วยตักเตือนบุตรหลาน อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เนื่องจากเห็นได้ว่ามีผู้เสียชีวิตหลายราย จริงแล้วยาเสพติดที่มีผู้มาจำหน่าย ก็ไม่ทราบว่ามีส่วนผสมของอะไรบ้าง สาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอยู่ระหว่างรอผลตรวจพิสูจน์
นายสุนทร กล่าวว่า สูตรยาเสพติดชนิดใหม่ “ทะเลทราย” มีฤทธิ์แรงกว่าเคนมผง เป็นภาษาของกลุ่มผู้เสพ ผสมระหว่างเคตามีนและเฮโรอีน หรือบาสซอล์ ที่พบในฝั่งยุโรป ชื่อเรียกยาเสพติดใหม่ๆ อยู่ที่ในวงการจะเรียกกัน การนำยาเสพติดชนิดต่างๆ มาผสมช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบมากในต่างประเทศมีชื่อเรียกว่าค็อกเทล ส่วนเคนมผงในตลาดตอนนี้มีปริมาณเท่าไร ยังไม่สามารถระบุได้ ถ้ามีการข่าวสืบสวนขยายผล รู้ที่ไหนก็ตามไปจับทันที ทั้งนี้ ได้มีการสกัดกั้นตั้งแต่บริเวณชายแดน