“ตำรวจ สน.สุทธิสาร” พบข้อมูลยาเสพติด “ทะเลทราย” ยาเคสูตรนรกตัวใหม่แรงกว่า “เคนมผง” เป็นเหตุให้สาวเสิร์ฟวัย 19 ปี ดับ เผยรู้ตัวแก๊งค้าแล้ว จ่อขยายผลกวาดล้าง “โฆษกตำรวจ” เตือนคนเสพ-คนขาย อันตรายร้ายแรง-โทษหนัก
จากกรณีการเสียชีวิตของ สาวเสิร์ฟร้านอาหารย่านพระราม 3 อายุ 19 ปี ซึ่งเสียชีวิตลักษณะเดียวกันกับผู้เสพยาเสพติด “เคนมผง” ในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร โดยเสียชีวิตภายในห้องเช่าของแฟนหนุ่ม ย่านรัชดาภิเษก 18 พื้นที่ สน.สุทธิสาร นั้น
วานนี้ (14 ม.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพบหลักฐานจากบันทึกการสนทนา (แชท) ของผู้ตาย ที่มีการสั่งซื้อยาเคจากผู้ค้ารายหนึ่ง แต่ผู้ค้ากลับส่งยาตัวใหม่ ชื่อว่า “ทะเลทราย” ซึ่งมีลักษณะเหมือน “เคนมผง” แต่มีฤทธิ์แรงกว่ามาให้ พร้อมบอกวิธีเสพ และกำชับผู้ตายว่า ใช้แทนยาเค แต่อย่าดมเยอะ เพราะแรงกว่า ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะเกิดเหตุสลดขึ้น
ส่วนผู้ค้ายาเสพติดรายนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร สามารถระบุตัวตนได้แล้ว เนื่องจากมีหลักฐานการแชท และการโอนเงินอย่างชัดเจน เหลือเพียงพิสูจน์รายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมรอผลชันสูตรศพ คาดว่าจะมีการนำหลักฐานมาประกอบการขออนุมัติหมายจับผู้ค้ายาเร็วๆ นี้
สำหรับไทม์ไลน์ของหญิงสาวผู้ตายนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพบข้อมูลว่า ผู้ตายได้ไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน เวลา 01.00 น. ของเช้าวันอาทิตย์ที่ 10 ม.ค. ที่ย่านพระราม 3 ก่อนจะมีการสั่งซื้อยาเค จากผู้ค้ารายนี้ เวลา 02.00 น. ผ่านช่องทางแชทของแอปโซลเชียลฯ ชื่อดัง ในราคา กรัมละ 700 บาท ต่อมาเวลาเกือบ 03.00 น. ผู้ตายได้ส่งข้อความกลับไปต่อว่าผู้ค้าว่า ยาที่ได้มาไม่ใช่ยาเคตามที่สั่ง ซึ่งผู้ค้ารายนี้ได้อธิบายว่า ยาที่จัดส่งไปให้ คือ “ทะเลทราย” ยาสูตรใหม่ที่เหมือน “เคนมผง” แต่กำชับให้ผู้ตายอย่าใช้เยอะ เพราะ “ทะเลทราย” แรงกว่า และเวลาประมาณ 03.00 น. ผู้ตายส่งข้อความกลับไปหาผู้ค้าว่าหลังจากใช้ยา มีอาการอ้วก และเพื่อนที่ร่วมใช้ยาด้วยกัน มีอาการช็อก น้ำลายออกปาก กำลังจะพาไปโรงพยาบาล
จากนั้น ช่วงเช้าของวันที่ 10 ม.ค. ประมาณ 07.00 น. ผู้ตายเดินทางกลับมาที่ห้องเช่าของแฟนหนุ่ม ด้วยอาการมึนเมา และขอนอนพักไป จนกระทั่ง เวลา 15.00 น. แฟนสาวได้ลุกขึ้นมาพูดคุย และขอดื่มน้ำไปเล็กน้อย ต่อมาประมาณ 01.00 น. เช้าวันที่ 11 ม.ค. มีเพื่อนของผู้ตายโทร.เข้ามาหา แต่ผู้ตายไม่ตื่น แฟนหนุ่มจึงรับสาย โดยเพื่อนที่โทร.มา สอบถามว่าผู้ตายมีอาการอย่างไรบ้างก่อนจะวางสายไป แฟนหนุ่มของผู้ตาย จึงตัดสินใจปลุก และพบว่าแฟนสาวเสียชีวิตไปแล้ว
ขณะที่การสอบปากคำ แฟนหนุ่มของสาวเสิร์ฟรายนี้ พบว่าผู้ตายมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดอยู่ก่อนหน้านี้ ซึ่งตนเคยตักเตือนไปแล้วว่าอย่าเสพยาชนิดนี้เพราะเมื่อช่วงต้นปี เคยทดลองลองโดยการแตะลิ้น ซึ่งมีอาการหายใจไม่ออก และรู้สึกทรมานอย่างมาก จึงเชื่อว่ายาสูตรนี้อันตราย แต่แฟนสาวไม่เชื่อ ก่อนเสพจนเสียชีวิต
ด้าน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดเผยถึงการแพร่ระบาดของยาเสพติดเคนมผง และทะเลทรายว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดรายใหญ่ให้ได้ อย่างที่เห็น 2- 3 วัน หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ค้าถึงแม้จะเป็นรายย่อย ผู้ค้าคนกลางก็ตาม ทางเราก็ได้ขยายผลไปหาผู้ค้ารายใหญ่ ทั้งนี้อยากเตือนไปยังผู้ค้า-ผู้เสพมันผิดกฎหมาย ผู้เสพต้องระมัดระวังอย่ามองว่าเป็นยาเสพติดชนิดใหม่ราคาถูกแล้วอยากลอง บทเรียนที่เห็นเสียชีวิตซึ่งๆ หน้า 10 กว่าคนแล้ว เจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งดำเนินการให้สังคมรับรู้ถึงโทษภัยของการเสพและการถูกดำเนินการตามกฎหมาย
“ไม่ว่าจะสูตรไหน จะมียาเคเป็น สารตั้งต้น ก่อนจะนำยาเค ไปผสมทั้งไอซ์ ทั้งยาอีแล้วแต่จะคิดกันที่จะทำลายล้างกันขึ้นมา ซึ่งจะ เห็นกันชัดๆว่า ผลของการผสมสารเสพติดผู้ที่เสพไปแล้วเกิดผลต่อร่างกายอย่างรวดเร็ว” พล.ต.ต.ยิ่งยศ ระบุ
จากกรณีการเสียชีวิตของ สาวเสิร์ฟร้านอาหารย่านพระราม 3 อายุ 19 ปี ซึ่งเสียชีวิตลักษณะเดียวกันกับผู้เสพยาเสพติด “เคนมผง” ในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร โดยเสียชีวิตภายในห้องเช่าของแฟนหนุ่ม ย่านรัชดาภิเษก 18 พื้นที่ สน.สุทธิสาร นั้น
วานนี้ (14 ม.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพบหลักฐานจากบันทึกการสนทนา (แชท) ของผู้ตาย ที่มีการสั่งซื้อยาเคจากผู้ค้ารายหนึ่ง แต่ผู้ค้ากลับส่งยาตัวใหม่ ชื่อว่า “ทะเลทราย” ซึ่งมีลักษณะเหมือน “เคนมผง” แต่มีฤทธิ์แรงกว่ามาให้ พร้อมบอกวิธีเสพ และกำชับผู้ตายว่า ใช้แทนยาเค แต่อย่าดมเยอะ เพราะแรงกว่า ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะเกิดเหตุสลดขึ้น
ส่วนผู้ค้ายาเสพติดรายนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร สามารถระบุตัวตนได้แล้ว เนื่องจากมีหลักฐานการแชท และการโอนเงินอย่างชัดเจน เหลือเพียงพิสูจน์รายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมรอผลชันสูตรศพ คาดว่าจะมีการนำหลักฐานมาประกอบการขออนุมัติหมายจับผู้ค้ายาเร็วๆ นี้
สำหรับไทม์ไลน์ของหญิงสาวผู้ตายนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพบข้อมูลว่า ผู้ตายได้ไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน เวลา 01.00 น. ของเช้าวันอาทิตย์ที่ 10 ม.ค. ที่ย่านพระราม 3 ก่อนจะมีการสั่งซื้อยาเค จากผู้ค้ารายนี้ เวลา 02.00 น. ผ่านช่องทางแชทของแอปโซลเชียลฯ ชื่อดัง ในราคา กรัมละ 700 บาท ต่อมาเวลาเกือบ 03.00 น. ผู้ตายได้ส่งข้อความกลับไปต่อว่าผู้ค้าว่า ยาที่ได้มาไม่ใช่ยาเคตามที่สั่ง ซึ่งผู้ค้ารายนี้ได้อธิบายว่า ยาที่จัดส่งไปให้ คือ “ทะเลทราย” ยาสูตรใหม่ที่เหมือน “เคนมผง” แต่กำชับให้ผู้ตายอย่าใช้เยอะ เพราะ “ทะเลทราย” แรงกว่า และเวลาประมาณ 03.00 น. ผู้ตายส่งข้อความกลับไปหาผู้ค้าว่าหลังจากใช้ยา มีอาการอ้วก และเพื่อนที่ร่วมใช้ยาด้วยกัน มีอาการช็อก น้ำลายออกปาก กำลังจะพาไปโรงพยาบาล
จากนั้น ช่วงเช้าของวันที่ 10 ม.ค. ประมาณ 07.00 น. ผู้ตายเดินทางกลับมาที่ห้องเช่าของแฟนหนุ่ม ด้วยอาการมึนเมา และขอนอนพักไป จนกระทั่ง เวลา 15.00 น. แฟนสาวได้ลุกขึ้นมาพูดคุย และขอดื่มน้ำไปเล็กน้อย ต่อมาประมาณ 01.00 น. เช้าวันที่ 11 ม.ค. มีเพื่อนของผู้ตายโทร.เข้ามาหา แต่ผู้ตายไม่ตื่น แฟนหนุ่มจึงรับสาย โดยเพื่อนที่โทร.มา สอบถามว่าผู้ตายมีอาการอย่างไรบ้างก่อนจะวางสายไป แฟนหนุ่มของผู้ตาย จึงตัดสินใจปลุก และพบว่าแฟนสาวเสียชีวิตไปแล้ว
ขณะที่การสอบปากคำ แฟนหนุ่มของสาวเสิร์ฟรายนี้ พบว่าผู้ตายมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดอยู่ก่อนหน้านี้ ซึ่งตนเคยตักเตือนไปแล้วว่าอย่าเสพยาชนิดนี้เพราะเมื่อช่วงต้นปี เคยทดลองลองโดยการแตะลิ้น ซึ่งมีอาการหายใจไม่ออก และรู้สึกทรมานอย่างมาก จึงเชื่อว่ายาสูตรนี้อันตราย แต่แฟนสาวไม่เชื่อ ก่อนเสพจนเสียชีวิต
ด้าน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดเผยถึงการแพร่ระบาดของยาเสพติดเคนมผง และทะเลทรายว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดรายใหญ่ให้ได้ อย่างที่เห็น 2- 3 วัน หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ค้าถึงแม้จะเป็นรายย่อย ผู้ค้าคนกลางก็ตาม ทางเราก็ได้ขยายผลไปหาผู้ค้ารายใหญ่ ทั้งนี้อยากเตือนไปยังผู้ค้า-ผู้เสพมันผิดกฎหมาย ผู้เสพต้องระมัดระวังอย่ามองว่าเป็นยาเสพติดชนิดใหม่ราคาถูกแล้วอยากลอง บทเรียนที่เห็นเสียชีวิตซึ่งๆ หน้า 10 กว่าคนแล้ว เจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งดำเนินการให้สังคมรับรู้ถึงโทษภัยของการเสพและการถูกดำเนินการตามกฎหมาย
“ไม่ว่าจะสูตรไหน จะมียาเคเป็น สารตั้งต้น ก่อนจะนำยาเค ไปผสมทั้งไอซ์ ทั้งยาอีแล้วแต่จะคิดกันที่จะทำลายล้างกันขึ้นมา ซึ่งจะ เห็นกันชัดๆว่า ผลของการผสมสารเสพติดผู้ที่เสพไปแล้วเกิดผลต่อร่างกายอย่างรวดเร็ว” พล.ต.ต.ยิ่งยศ ระบุ