จากนี้ไปจนถึงเที่ยงวันที่ 20 เดือนนี้ คนอเมริกันทุกภาคส่วนที่ห่วงใยสถานการณ์บ้านเมืองคงรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง ทั้งกังวลว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำทำเนียบขาวจอมฉาวโฉ่จะคิดหรือทำอะไรจนเกิดความวุ่นวายซ้ำรอยเดิม อย่างไรหรือไม่
ทรัมป์ซึ่งมีอารมณ์แค้นสุมในหัวอก จากการพ่ายแพ้เลือกตั้งเพื่ออยู่ในวาระที่ 2 ยังไม่ยอมรับว่าตัวเองแพ้จนทุกวันนี้ เชื่ออยู่อย่างเดียวว่าตัวเองถูกโกงเลือกตั้ง เพราะอเมริกันชนกว่า 75 ล้านคนเป็นคนเลือกตัวเองเข้ามาแบบถล่มทลาย
ทรัมป์ไม่เคยมองหรือคิดว่า โจ ไบเดน ผู้ชนะ และจะเป็นผู้นำสหรัฐฯ ในวันที่ 20 นี้ มีคะแนนจากคนเลือกกว่า 80 ล้านเสียงเป็นประวัติการณ์เช่นกัน และเป็นเพียงไม่กี่คนในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ ที่ผู้ท้าชิงได้ชนะผู้อยู่ในตำแหน่ง
การปลุกระดมมวลชนผู้สนับสนุนตัวเองให้บุกอาคารรัฐสภาวันที่ 6 ที่ผ่านมา ได้เป็นรอยด่างในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ จะตราตรึงในความทรงจำของคนอเมริกัน โดยเฉพาะนักการเมืองว่าอาคารสัญลักษณ์ของประชาธิปไตยถูกบุกรุก ล่วงละเมิด
และคนยุยงปลุกปั่น ให้ก่อความไม่สงบ ถึงขั้นเป็นกบฏนั้น คือผู้นำประเทศที่ถูกมองสติ ความคิดมีปัญหา อาจถึงขั้นวิกลจริต หรือเป็นคนบ้านั่นเอง
พฤติกรรมของทรัมป์ไม่ทำให้เพียงแค่ช็อกคนอเมริกันเท่านั้น บรรดามิตรประเทศสหรัฐฯ ในยุโรป และฝรั่งผิวขาวด้วยกันยังไม่คาดคิดว่าจะมีเหตุร้ายเช่นนั้นเกิดขึ้นได้ และยิ่งสาวลึก สอบสวนมาก ก็ยิ่งเห็นความรุนแรงที่ถึงขั้นเลวร้าย
เหตุร้ายครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย รวมทั้งตำรวจ 1 นาย เกือบ 100 คนที่ก่อเหตุร้ายได้ถูกเจ้าหน้าที่เอฟบีไอไล่ล่าจับกุมตัว เผชิญข้อหาต่างๆ จนถึงขั้นร้ายแรง อาจถึงระดับก่อการร้าย ก่อการกบฏเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจรัฐนั่นเลย
แกนนำพรรคเดโมแครตไม่ปล่อยให้โอกาสทองนี้หลุดมือไป ด้วยความพยายามหากระบวนการถอดถอนทรัมป์ออกจากตำแหน่ง แม้ไม่สำเร็จ ก็จะเป็นตราบาปประทับให้ทรัมป์ ถ้าสำเร็จ มีพรรครีพับลิกันร่วมด้วย ก็จะเป็นชัยชนะรอบ 2
หมายความว่าทรัมป์ไม่มีโอกาสเข้าเป็นคู่ชิงประธานาธิบดีอีกรอบในอีก 4 ปีข้างหน้าถ้าโจ ไบเดนชราภาพเกินไป สังขารรับไม่ไหวกับภาระหนักในงานบริหาร ทำให้มีความเสี่ยงว่าถ้าทรัมป์ยังไม่โดนคดีถึงขั้นติดคุก ก็อาจย้อนกลับเข้าสู่อำนาจได้
การจะถอดถอนทรัมป์ไม่ง่าย แม้โพลจะชี้ว่าประชาชนอเมริกันกว่า 50 เปอร์เซ็นต์เล็กน้อยเห็นด้วยที่จะถอดถอนทรัมป์ให้หลุดจากตำแหน่ง ระดับนี้ถือว่าสูงเมื่อเทียบกับยุคริชาร์ด นิกสัน บิล คลินตัน หรือครั้งแรกในการถอดถอนทรัมป์
ทั้ง 3 กรณี มีผู้สนับสนุนให้ถอดถอนเพียง 40 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น!
พรรคเดโมแครตมี 2 ขั้นตอน อันแรกคือให้รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ และคณะรัฐมนตรีด้วยเสียงเกินกึ่งหนึ่งลงมติถอดถอนทรัมป์ ถ้าผ่านก็จะนำไปสภาคองเกรสและวุฒิสภาตามลำดับ นี่เป็นการตีเหล็กเมื่อร้อน มีคนพรรครีพับลิกันเอาด้วย
แต่ต้องได้คะแนน 2 ใน 3 ซึ่งเดโมแครตมีอยู่ครึ่งเดียวในวุฒิสภา จะได้อีกอย่างน้อย 25 เสียงจากรีพับลิกัน ไม่ใช่เรื่องง่าย เว้นแต่พวกไม่ชอบทรัมป์จริงๆ
ถ้าวิธีนี้ไม่สำเร็จ ก็ใช้วิธีที่ 2 คือพรรคเดโมแครตว่ากันในสภา ถ้าชนะขาดก็ไปสู่วุฒิสภา ซึ่งขั้นนี้ถือว่าเป็นเรื่องยากเย็นเช่นกัน ว่าจะได้เสียงเพียงพอ ถึงอย่างไรก็ยังดีที่ได้เสียงข้างมากในสภาคองเกรส และถือว่าเป็นตราบาปประทับให้ทรัมป์แล้ว
แต่จากนี้ไป ทรัมป์จะตั้งรับอย่างไร อยู่เฉยๆ หรือว่าเคลื่อนไหวต่อไป แม้จะไม่ได้เต็มที่เพราะบรรดาสื่อโซเชียล ดังเช่นทวิตเตอร์ ได้ห้ามทรัมป์ใช้บริการตลอดไป ทำให้ทรัมป์และพรรคพวกอาจต้องหาสื่ออื่นๆ ซึ่งไม่ได้ผลเท่ากับที่ตัวเองได้เคยมี
ทรัมป์และพวกอ้างว่าจะประกาศหาฐานใหม่เพื่อการรณรงค์เล่นงานรัฐบาลโจ ไบเดน ไม่ให้บริหารประเทศอย่างราบรื่น ทุกวันนี้ก็ได้วางยาอะไรไว้เยอะในกระทรวงสำคัญดังเช่นกลาโหม และสั่งห้ามบริษัทจีนหลายราย ล้วนทำให้เกิดความไม่สงบ
ประธานสภาคองเกรส นางแนนซี เพโลซี ได้พยายามชักชวนให้พรรครีพับลิกันช่วยในกระบวนการถอดถอน นายเพนซ์อยู่ในอาการแบ่งรับแบ่งสู้ ทุกวันนี้ถูกปฏิบัติอย่างเย็นชา หลังจากพวกม็อบตามล่าตัวในอาคารรัฐสภา อาจเป็นอันตราย
ที่น่าห่วงคือสภาพสติของทรัมป์ว่าบ้ามากน้อยแค่ไหน มีเจ้าหน้าที่ รวมทั้งนางแนนซีมองว่าทรัมป์ต้องถูกเฝ้ามองเพราะเป็นคนถือโค้ดสั่งยิงจรวดนิวเคลียร์ได้ แม้จะมีอีกอย่างน้อย 2 คนซึ่งมีรหัสและกุญแจยิงจรวด ยังเป็นสภาวะไม่น่าไว้ใจ
ความกังวลยังมีอยู่ว่าม็อบขวาจัดหัวรุนแรงที่หนุนทรัมป์ จะไปก่อเรื่องอะไรหรือไม่ในพิธีรับมอบตำแหน่งในวันที่ 20 แม้แกนนำบางส่วนถูกจับกุมไปแล้ว และตัวทรัมป์เองก็ทวิตเตอร์แจ้งแล้วว่าตัวเองจะไม่ไปร่วมงาน แต่เพนซ์ยังจะไปร่วมด้วย
นี่เป็นภาวะที่ทรัมป์อาจแค้นเพนซ์ เพราะตั้งแต่วันบุกอาคารรัฐสภา ทรัมป์ยังไม่ยอมคุยด้วยกับรองประธานาธิบดี ไม่ห่วงใยว่าจะเป็นอันตรายจากม็อบหรือไม่
ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยทรัมป์ ก็ถือว่าสหรัฐฯ โชคดีไป แต่ยังต้องเฝ้าระวังม็อบหนุนทรัมป์ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าทรัมป์จะโดนถอดถอนหรือไม่ ต้องดูว่าทรัมป์จะประกาศนิรโทษกรรมให้ตัวเองหรือไม่ แม้ยังเป็นประเด็นข้อสงสัยด้านกฎหมาย
“บุคคลไม่ควรเป็นผู้พิพากษา หรือลูกขุนตัดสินคดีที่ตัวเองตกเป็นจำเลย” นั่นเป็นหลักนิติศาสตร์ แต่ทรัมป์ไม่ยึดหลักอะไร นอกจากตัวเอง และต้องดูว่าหลังจากวันที่ 20 แล้วคดีความต่างๆ ที่อัยการรออยู่ จะสามารถเอาทรัมป์เข้าคุกได้หรือไม่