xs
xsm
sm
md
lg

พท.ผวาเลือกตั้งอบจ.ลามยุบพรรค ปม"จดหมายน้อยแม้ว"ช่วยหาเสียง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

"เพื่อไทย"หนาว!! กกต.ตอบชัดใช้ “จดหมายน้อยแม้ว”ทำแผ่นพับหาเสียง อบจ.ผิดระเบียบ แถมอ่านซ้ำเวทีเชียงใหม่ มีกก.บห.หน้าสลอน กางกม.อาจถึงยุบพรรค สะพัดกก.บห.ไม่เห็นด้วย ร่อนหนังสือแย้งให้กกต. พร้อมชิ่งไขก๊อกแล้ว

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ถึงความคืบหน้าการรับรองผลการเลือกตั้งนายก และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั่วประเทศ ที่กำหนดให้ กกต.รับรองผลได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.63 หากการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตไม่มีเรื่องร้องเรียน

อย่างไรก็ตาม ได้มีข้อร้องเรียนจากหลายจังหวัดทั้งที่สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัด และกกต.ส่วนกลางเป็นจำนวนมาก และยังมีข้อหารือจาก กกต.ประจำจังหวัด มายังกกต.ส่วนกลาง ถึงพฤติกรรมที่เข้าข่ายการกระทำผิดระเบียบกกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียง และลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2563 ของผู้สมัครนายก หรือสมาชิกอบจ. อีกส่วนหนึ่ง จึงคาดว่าจะสามารถทยอยประกาศรับรองผลแต่ละจังหวัดได้ช่วงต้นเดือนม.ค.64 เป็นต้นไป

สำหรับข้อหารือจากกกต.ประจำจังหวัดที่น่าสนใจ เป็นข้อหารือจากผู้อำนวยการ กกต.ประจำจ.เชียงราย หนังสือด่วนที่สุดที่ ลต(ชร) 0003/510 เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.63 ที่ได้ขอหารือกรณีน.ส.วิสาระดี เตชะธีรวัฒน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายกอบจ.เชียงราย ของพรรคเพื่อไทย ที่ได้ทำสำเนาจดหมายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เขียนด้วยลายมือ มีข้อความสนับสนุนน.ส.วิสาระดี มาจัดทำแผ่นพับใบปลิวใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ว่าสามารถกระทำได้หรือไม่

ทั้งนี้ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ได้มีหนังสือด่วนที่สุดที่ ลต 0019/12345 ลงวันที่ 17ธ.ค.63 ระบุว่า กกต.พิจารณาแล้วเห็นว่า การนำจดหมาย หรือเอกสารของบุคคลอื่นมาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งเป็นการแสวงหาคะแนนนิยมจากประชาชนหรือสมาชิกจากชุมชนเพื่อให้ลงคะแนนให้แก่ตนเอง ถือว่าบุคคลเป็นเจ้าของจดหมาย หรือเอกสารดังกล่าวเป็นผู้ช่วยหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้ง หากผู้สมัครรับเลือกตั้งประสงค์จะนำจดหมาย หรือเอกสารของบุคคลดังกล่าวมาหาเสียงเลือกตั้ง จะต้องแจ้งรายชื่อบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ช่วยหาเสียงของตน ตามข้อ 15 ประกอบข้อ 4 ของระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียง และลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2563

สำหรับข้อ15 ของระเบียบกกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียง และลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2563 ระบุว่า ผู้สมัครที่ประสงค์จะมีผู้ช่วยหาเสียงต้องแจ้งรายละเอียดให้ ผอ.กกต.ประจำจังหวัดทราบก่อนวันดำเนินการ

ขณะที่ข้อ 4 ได้นิยามคำว่า“ผู้ช่วยหาเสียง”ไว้ว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ได้รับการว่าจ้างจากผู้สมัครให้เข้าร่วมกิจกรรมในการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้ง และต้องเป็นบุคคลที่ได้แจ้งรายละเอียด หน้าที่ และค่าตอบแทนต่อกกต.ประจำจังหวัด ยกเว้นบุคคลในครอบครัว ได้แก่ สามี ภริยา หรือบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย

นอกจากนี้ในข้อ 16 บัญญัติว่า ในกรณีบุคคลใดซึ่งมิใช่ผู้ช่วยหาเสียงของผู้สมัครตามหมวดนี้ เข้าช่วยเหลือในการหาเสียงเลือกตั้ง ให้ผู้สมัครแจ้งเหตุการณ์นั้นให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทราบโดยเร็ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนำเลขประจำตัวประชาชน นายทักษิณ ชินวัตร ตรวจสอบในทะเบียนของกกต. พบว่านายทักษิณ ไม่ถือเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง อีกทั้งเมื่อตรวจสอบจาก กกต.เชียงราย ก็ไม่พบว่าผู้สมัครได้แจ้งว่านายทักษิณ เป็นผู้ช่วยหาเสียงแต่อย่างใด

มีรายงานอีกว่า หนังสือขอหารือจาก กกต.เชียงราย ไปยังกกต. อาจถูกนำไปเทียบเคียงกับกรณี จ.เชียงใหม่ เนื่องจากนายทักษิณ ได้เขียนจดหมายด้วยลายมือตัวเอง โพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อสนับสนุนผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ. หาเสียงใน 2 จังหวัด คือ จ.เชียงราย และจ.เชียงใหม่ กรณี จ.เชียงใหม่ มีทั้งการเขียนจดหมายด้วยลายมือ แล้วโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว รวมทั้งเฟซบุ๊กของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว และอดีตนายกฯด้วย รวมทั้งก่อนวันเลือกตั้งไม่กี่วัน นายทักษิณ ยังอัดคลิปวิดีโอ ความยาว 3.17 นาที เพื่อช่วยผู้สมัครนายกอบจ.เชียงใหม่ ในนามพรรคเพื่อไทยหาเสียง

ประเด็นดังกล่าวอยู่ในความสนใจและถูกวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นมุมมองทางกฎหมายว่า สุดท้ายแล้วการกระทำลักษณะดังกล่าว ขัดต่อ พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 อาทิ มาตรา 28 ที่ระบุว่า“ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทําการใดอันทําให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํากิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม” รวมไปถึงบทบัญญัติกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นหรือไม่ เพราะในการหาเสียง บนเวทีปราศรัยหลายเวที ที่ จ.เชียงใหม่ มีการนำจดหมายของนายทักษิณไปอ่านบนเวที โดยมีผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ ของพรรคเพื่อไทย และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ร่วมปราศรัย และยืนฟังอยู่ด้วย

รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า ในช่วงการหาเสียงโค้งสุดท้ายของ นายก อบจ. หลังจากนายทักษิณ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก และอัดคลิปขอเสียงสนับสนุนจากชาวเชียงใหม่ให้เลือกผู้สมัคร นายก อบจ.ของพรรคเพื่อไทย ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ภายในพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะในวงการประชุมกรรมการบริหารพรรค ที่เป็นห่วงประเด็นทางข้อกฎหมายที่อาจส่งผลกระทบมาถึงสมาชิกพรรค และพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะการนำเนื้อหาทางจดหมายมาผลิตซ้ำ นำไปอ่านขยายผล เพื่อหวังคะแนนเสียงทางการเมือง แต่ก็ไม่อาจต้านทานความคิดเห็นจากแกนนำคนในพรรคได้ ส่งผลให้กรรมการบริหารพรรค ไม่น้อยกว่า 4 ราย ได้ทำหนังสือแสดงความจำนงที่ขอคัดค้านส่งไปยังกกต. และได้ยื่นหนังสือลาออกจากจากกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น